เที่ยวชมปราสาทและวัดโบราณในฮิเมจิ สัมผัสบรรยากาศสุดคลาสสิกในภาพยนตร์ชื่อดัง

ฮิเมจิ ใช้เวลาเดินทางโดยรถบัสลีมูซีนประมาณ 2 ชั่วโมงจาก สนามบินนานาชาติคันไซ หรือนั่งรถไฟชินคันเซ็นประมาณ 30 นาทีจาก สถานีโอซาก้า (2 สถานี) พื้นที่ฮิเมจิเป็นที่ตั้งของปราสาทเก่าแก่ที่สามารถสัมผัสได้ถึงโรแมนติก ทั้งยังมีวัดพุทธที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปีมากมาย และยังเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดังอีกหลายเรื่องอีกด้วย ปราสาทญี่ปุ่นนั้น เดิมที่จะถูกใช้เป็นสนามรบ แต่เมื่อยุคสมัยผ่านไป ก็ได้พัฒนาไปสู่รูปแบบที่ใช้เพื่อแสดงอำนาจและความมั่งคั่งของผู้ครองปราสาท หากท่านเป็นผู้ครองปราสาท ท่านจะใช้ชีวิตในปราสาทแห่งนี้อย่างไร เมืองที่ท่านมองเห็นจากปราสาทแห่งนี้จะหน้าตาเป็นแบบไหนกัน การท่องเที่ยวด้วยอารมณ์ที่เหมือนกับตัวละครในภาพยนตร์ชื่อดังแบบนี้ก็สนุกไปอีกแบบ

ชวนคิดถึงปราสาทฮิเมจิที่ดึงดูดใจเหล่าแฟน ๆ คุโรซาวะทั่วโลก

จุดชมวิวที่เชื่อมต่อตรงกับสถานีฮิเมจิ สามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่หลอมรวมกันระหว่างบ้านเมืองสมัยใหม่และปราสาทได้

เมื่อเดิน 20 นาทีจากสถานีฮิเมจิก็จะพบกับ ปราสาทฮิเมจิ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ปราสาทฮิเมจิสร้างขึ้นในปี 1346 แต่ต่อมาได้รับการก่อสร้างต่อเติมโดยผู้ครองปราสาทรุ่นก่อน ๆ กระทั่งในปี 1618 ก็มีลักษณะเหมือนที่เห็นในปัจจุบัน หลังจากนั้น ตัวปราสาทก็ไม่ได้รับความเสียหายจากภัยสงคราม และคงสภาพเช่นนั้นมาจนถึงปัจจุบันแม้จะผ่านไปกว่า 400 ปี ด้วยเหตุนี้ ปราสาทฮิเมจิจึงเป็นที่รู้จักในชื่อ “ปราสาทไร้สงคราม” และกลายเป็นที่รู้จักของผู้คนมากมายในฐานะสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ นอกจากนี้ ยังมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “ปราสาทนกกระสาขาว”’ เนื่องจากมีลักษณะคล้ายกับนกกระสาสีขาวสยายปีก ปราสาทอันสง่างามแห่งนี้ ยังดึงดูดผู้กำกับภาพยนตร์หลายคน รวมถึงหนึ่งในนั้นก็คือผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังระดับโลกอย่างอากิระ คุโรซาวะ ปราสาทนี้จึงปรากฏอยู่ในผลงานของเขา อาทิเช่น Ran และ Kagemusha

ปราสาทฮิเมจิ

ที่อยู่: 68 Honmachi, Himeji, Hyogo Prefecture, Japan
โทร: 079-285-1146
เวลาทำการของปราสาท: 9.00 น. ถึง 17.00 น. (เข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 16.00 น.) *อาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับฤดูกาล
ปิดให้บริการ: วันที่ 29 และ 30 ธันวาคม

เยี่ยมชมสถานที่ถ่ายทำ “The Last Samurai” และร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์

เพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันงดงามของเมืองฮิเมจิได้จากกระเช้าลอยฟ้าที่ไต่จากตีนเขาโชชะไปยังวัด

สถานที่อันสงบเงียบที่ซ่อนตัวอยู่นี้ใช้เวลานั่งรถบัสประมาณ 20 นาทีจากหน้าประตูโอเทะมงของปราสาทฮิเมจิ จากนั้นขึ้นกระเช้าลอยฟ้า แล้วเดิน 30-40 นาทีจากสถานีกระเช้าลอยฟ้าบนยอดเขา

อันดับต่อไป มุ่งหน้าไปยังวัดโชชะซัง เอ็นเกียวจิ วัดแห่งนี้สร้างขึ้นบนยอดเขาโชชะ โดยพระสงฆ์เมื่อราว 1,000 ปีก่อน ที่นี่มีพื้นที่กว้างขวางมากจนต้องใช้เวลาถึงสองชั่วโมงในการตระเวนชมทั้งหมด บริเวณวัดที่มีบรรยากาศขลังแห่งนี้ เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “The Last Samurai” ที่นำแสดงโดยทอม ครูซ จึงเป็นสถานที่ที่แฟนภาพยนตร์จากทั่วทุกมุมโลกเดินทางมาเยี่ยมชม

จุเรียวอิน สนับสนุนภาพถ่าย: วัดโชชะซัง เอ็นเกียวจิ

อาหารมังสวิรัติ ของวัดเอ็นเกียวจิจะถูกจัดเตรียมไว้หนึ่งคืนก่อนหน้า และทุกอย่างจะถูกปรุงขึ้นอย่างพิถีพิถันตั้งแต่ขั้นตอนแรก เนื่องจากความยากลำบากในการทำ จึงรับเฉพาะกลุ่มที่มีตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป และต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน สนับสนุนภาพถ่าย: วัดโชชะซัง เอ็นเกียว

ภายในบริเวณวัดนั้น จะมีอาคาร “จุเรียวอิน” ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญ ที่จริงแล้วที่นี่ก็คือร้านอาหารระดับมิชลินหนึ่งดาว เราขอแนะนำให้สัมผัสประสบการณ์อาหารมังสวิรัติที่ถูกปรับให้เข้ากับสมัยปัจจุบัน อาหารมังสวิรัติ ก็คือ อาหารทางพุทธศาสนาแบบดั้งเดิมที่จะไม่ใช้เนื้อสัตว์หรือปลา เชิญมาเพลิดเพลินกับเต้าหู้งา เท็มปูระและโซบะอย่างสบาย ๆ ในพื้นที่อันกว้างขวางได้

วัดโชชะซัง เอ็นเกียวจิ/จุเรียวอิน

ที่อยู่: 2968 Shosha, Himeji, Hyogo Prefecture, Japan
*อาหารมังสวิรัติให้บริการตั้งแต่เดือนเมษายนถึงพฤศจิกายน (ยกเว้นวันพฤหัสบดี)
โทร: 079-266-3327

แช่น้ำพุร้อนแห่งการเยียวยาที่ชิโอตะออนเซ็น มีประวัติยาวนาน 300 ปี

จากตีนเขาวัดเอ็นเกียวจิใช้เวลาราว ๆ 10 นาทีโดยรถยนต์มุ่งหน้าไปสู่ชิโอตะออนเซ็น ที่นี่ตั้งอยู่ในสถานที่เงียบสงบพร้อมไปด้วยภูมิทัศน์ชนบท น้ำพุร้อนแห่งนี้เป็นที่รู้จักเนื่องจากมีคุณประโยชน์ต่อกระเพาะอาหารกับลำไส้มาตั้งแต่ 300 ปีก่อน มีแขกมาเยือนเพื่อเยียวยาโรคจากการแช่น้ำพุร้อนอย่างไม่ขาดสาย เชิญมาเพลิดเพลินไปกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวในบ่อแช่น้ำกลางแจ้งที่เต็มไปด้วยบรรยากาศแบบชนบท

ต่อจากปราสาทบนเขา ก็มุ่งหน้าไปอาโคเมืองรอบปราสาทริมทะเล

โบราณสถานปราสาทอาโคอยู่ห่างจากสถานี JR บันชูอาโค ใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาที

เรื่องราวของ Chushingura (The Treasury of Loyal Retainers) ที่โด่งดังแม้ในต่างประเทศ คือเรื่องราวที่บรรยายถึงการแก้แค้นของนักรบอาโค ปราสาทของแคว้นอาโคในเรื่องนั้นก็คือปราสาทอาโคแห่งนี้ ปราสาทอาโคใช้เวลาสร้างกว่า 13 ปี สร้างขึ้นในปี 1661 แต่ถูกทิ้งร้างในสมัยเมจิ อย่างไรก็บริเวณสวนภายในปราสาทยังคงได้รับการปรับแต่งให้อยู่ในสภาพดีแม้ในปัจจุบัน

โบราณสถานร่องรอยปราสาทอาโค

ที่อยู่: 1424-1 Kamikariya, Ako, Hyogo Prefecture

เพลิดเพลินกับหอยนางรมและนมทะเลที่ได้จากทะเล ภูเขา แม่น้ำ

หอยนางรมจับสด ๆ เนื้อหนาอัดแน่นไปด้วยสารอาหาร

หอยนางรมจาก อาโค และซาโคชิ ได้สร้างชื่อเสียงให้กับตนเองในฐานะแบรนด์ระดับภูมิภาค ซาโคชิตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของอาโค ล้อมรอบด้วยป่าไม้ ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำชิกุซะซึ่งเป็น สายน้ำที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในร้อยสายน้ำแห่งญี่ปุ่น หอยนางรมซาโคชิที่โตที่บริเวณนี้จึงปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ หอยนางรมจะมีรสชาติฟรุตตี้ ไม่มีรสแปลกหรือรสรุนแรงใด ๆ หอยนางรมของที่นี่มีจำหน่ายทั่วประเทศ เป็นหอยนางรมที่สามารถรับประทานได้แม้กระทั่งผู้ที่ไม่ชื่นชอบหอยนางรมก็ตาม

“ตลาดอุมิโนะเอคิ ชิโอไซ” ทั้ตั้งอยู่บริเวณเดียวกัน นอกจากซื้ออาหารทะเลตามฤดูกาลและสาหร่ายทะเลได้แล้ว ยังมีร้านหอยนางรมที่สามารถทานหอยนางรมในเปลือกได้แบบไม่อั้นโดยจำกัดเวลา 70 นาที (ผู้ใหญ่ 3,600 เยน)

ปกติหอยนางรมจะใช้เวลาเจริญเติบโตสามปี แต่หอยนางรมซาโคชิใช้เวลาราว ๆ ครึ่งปี หอยนางรมของซาโคชิจะเติบโตได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ตัวใหญ่อวบอ้วน และไม่หดตัวง่ายเมื่อถูกความร้อน นอกจากนี้ ในพื้นที่ทะเลอื่น ๆ รัฐบาลจะกำหนดให้อาหารทะเลต้องผ่านการฆ่าเชื้อด้วยน้ำฆ่าเชื้ออัลตราไวโอเลตก่อนส่งเป็นอาหารทานดิบ แต่ที่อ่าวซาโคชิ ทะเลมีน้ำสะอาดมาก จึงไม่มีข้อกำหนดดังกล่าว ซึ่งก็ได้ยินว่า ลูกค้าบางท่านมาลองทานหอยนางรมดิบเป็นครั้งแรกเนื่องจากที่นี่ปลอดภัยจึงทานได้ง่าย เชิญมาเพลิดเพลินไปกับหอยนางรมที่เลี้ยงอย่างเอาใจใส่โดยชาวประมงได้

Kamashima Fisheries (การประมงคามาชิมะ)

ที่อยู่: 319 Sakoshi, Ako, Hyogo Prefecture, Japan
โทร: 0791-48-0658 (reception: 6:30–14:00)
เวลาทำการ: 8:30–016:00 น.
วันหยุดประจำ: วันอังคาร และวันเสาร์

ผ่อนคลายยามค่ำคืนไปกับน้ำทะเลสีฟ้าที่อาโคออนเซ็น

ขับรถประมาณ 10 นาทีจากสถานีบันชูอาโค เผยให้เห็นทิวทัศน์อันตระการตาของทะเลเซโตะในที่แผ่กว้างออกไป

ปิดท้ายทริปนี้ด้วยการพักที่อาโคออนเซ็น ที่นี่คือบ่อน้ำพุร้อนที่หันหน้าไปทางทะเลเซโตะใน สามารถเพลิดเพลินกับบ่อน้ำพุร้อนพร้อมฟังเสียงคลื่นได้อย่างสบาย ๆ น้ำพุร้อนที่นี่เรียกอีกอย่างว่า “น้ำพุร้อนฟื้นคืนชีพ” เนื่องจากมีผิวสัมผัสที่เรียบเนียนและให้ความชุ่มชื้นสูง ที่นี่จะทำให้คุณลืมชีวิตประจำวันแต่ก็ยังคิดถึงวันพรุ่งนี้ได้ขณะชมพระอาทิตย์ตกดิน สามารถเดินทางได้ภายใน 3 ชั่วโมงไม่ว่าจะเป็นโตเกียว ชิโกกุ หรือคิวชู

เรื่องราวการเดินทางที่ตัวเองเป็นดั่งตัวละครหลักจะยังคงดำเนินต่อไป

การเดินทางสู่จังหวัดเฮียวโกะ

จังหวัดเฮียวโกะ สามารถเดินทางไปยังจังหวัดเฮียวโกะได้ด้วยชินคันเซ็น (JR) จาก โตเกียว, โอซาก้า และ เกียวโต ทั้งยังสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกด้วยเครื่องบินจากสนามบินนานาชาติคันไซ และมีรถบัสลีมูซีนจากสนามบินไปยังโอซาก้าด้วยระบบขนส่งสนามบินคันไซ (รถบัสลีมูซีน)

พื้นที่ฮิเมจิที่แนะนำในบทความนี้ สามารถเดินทางมาได้ง่ายด้วยชินคันเซ็นจากสถานีฮิเมจิ ชิโอตะออนเซ็น สามารถเดินทางไปได้ภายในประมาณ 30 นาทีจากฮิเมจิโดยรถบัส ส่วนอาโคออนเซ็น ก็สามารถเดินทางไปได้ภายในประมาณ 30 นาทีโดยรถไฟ JR

หลังจากการท่องเที่ยวที่จังหวัดเฮียวโกะแล้ว ขอแนะนำให้นั่งชินคันเซ็น (JR) จากฮิเมจิไปยังคิวชู