เกียวโตขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของญี่ปุ่น จึงไม่เคยขาดแคลนนักท่องเที่ยวจากทั่วมุมโลกที่หวังจะมาสัมผัสเสน่ห์ของเมืองเก่าแห่งนี้ด้วยตัวเองสักครั้งในชีวิต แต่รู้หรือไม่ว่ารอบๆ เกียวโตก็มีเมืองสวยงามน่าไปเยือนไม่แพ้กัน เมื่อเที่ยวเกียวโตจนทั่วแล้ว ลองไปหาความสงบและสำรวจ ที่เที่ยวใกล้เกียวโต กันบ้าง รับรองว่าคุณจะหลงเสน่ห์เมืองเล็กๆ น่ารักเหล่านี้ไม่แพ้เมืองใหญ่อย่างเกียวโตแน่นอน
ดูที่เที่ยวและกิจกรรมเด็ดๆ ในเกียวโต

1. โอฮาระ (Ohara) – สัมผัสบรรยากาศชนบทแท้ๆ สไตล์ญี่ปุ่น
โอฮาระเป็นเมืองเกษตรกรรมสไตล์ชนบทญี่ปุ่นอย่างแท้จริง เมืองเล็กๆ แห่งนี้ตั้งอยู่ทางเกียวโตเหนือ โอบล้อมด้วยภูเขาและมีความเป็นธรรมชาติแท้ๆ ช่วงฮ็อตฮิตที่สุดของที่นี่ก็คือช่วงฤดูใบไม้ร่วงประมาณกลางเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเต็มไปด้วยวิวใบไม้เปลี่ยนสีสวยงามที่แข่งขันกันระเบิดสีสัน คุณสามารถเดินเท้าสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวได้อย่างสบายๆ และไฮไลต์เด็ดก็คือวัดซานเซนอิน (Sanzenin Temple) วัดใหญ่นิกายเท็นไดที่สร้างขึ้นสมัยเฮอัน ภายในมีอาคารต่างๆ และสวนญี่ปุ่นสวยงาม นอกจากนี้ก็ยังมีวัดจัคโคอิน (Jakkoin Temple), วัดโฮเซ็นอิน (Hosenin Temple), วัดโชรินอิน (Shorinin Temple) และน้ำตกโอโตนาชิ (Otonashi no Taki) ที่ซ่อนความงามอยู่หลังวัดซานเซนอิน ระหว่างทางก็จะมีร้านรวงเล็กๆ น่ารักขายของกินของฝากสไตล์ญี่ปุ่นให้สายช็อปสายกินฟินกันไปข้าง ความดีงามอีกอย่างของเมืองนี้ก็คือบรรยากาศชนบทที่หาไม่ได้ในเมืองใหญ่ ทั้งบ้านเรือนน่ารักๆ แปลงเกษตรกรรมของชาวบ้าน วิถีชีวิตของคนโลคอลแท้ๆ ทั้งหมดนี้คือเสน่ห์ที่ทำให้หลายๆ คนต้องหลุมรักโอฮาระ
ไปอย่างไร? นั่งรถไฟจากเกียวโต Karasuma Line ไปลงที่สถานี Kokusaikaikan จากนั้นก็ต่อรถเมล์สาย 19 ไปเมืองโอฮาระ ใช้เวลาเดินทางทั้งหมดประมาณหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น
เข้าพักที่ ยุโมะโตะ ออนเซน โอะฮะระซันโซ – เมาน์เท็น วิลเลจ, ออกไปเที่ยวที่ วัดซานเซนอิน


2. อุจิ (Uji) – ชิมชาเขียว ชมวิวแม่น้ำอุจิ
ใครเป็นสาวกชาเขียวตัวยง บอกเลยว่าห้ามพลาดเมืองอุจิ เมืองชาเขียวแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดเกียวโต ที่นี่คือ ที่เที่ยวใกล้เกียวโต ที่ห้ามพลาด เพราะเป็นแหล่งเพาะปลูกชาเขียวคุณภาพดี มีถนนสายชาเขียวที่ขายผลิตภัณฑ์จากชาเขียวล้วนๆ ให้เลือกชิมเลือกซื้อกันอย่างหนำใจ นอกจากชาเขียวอร่อยๆ คุณภาพดีแล้ว ไฮไลต์อื่นๆ ที่มีชื่อเสียงในหมู่นักท่องเที่ยวก็คือวัดเบียวโดอิน (Byodoin Temple) วัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยเฮอัน ซึ่งภายในมีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงวัตถุโบราณของวัด และมีอาคาร Hoo-do หรือ Phoenix Hall อันสวยงามทรงคุณค่าจนได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก แถมยังปรากฏอยู่บนเหรียญสิบเยนของญี่ปุ่นอีกด้วย สถานที่น่าสนใจอื่นๆ ก็เช่น ศาลเจ้าอูจิกามิ (Ujigami Shrine), วัดมามปูกุจิ (Mampukuji Temple) เป็นต้น เมืองนี้ยังมีแม่น้ำอุจิ (Uji River) ไหลตัดผ่านกลางเมือง หากมาในช่วงดอกซากุระบาน ก็จะยิ่งฟินเพราะจะได้ชมวิวดอกซากุระบานสะพรั่งริมฝั่งแม่น้ำอุจิ เช่นเดียวกับวิวในฤดูใบไม้ร่วงที่สวยงามโรแมนติก เหมาะแก่การนั่งจิบชาชมวิวริมแม่น้ำเป็นที่สุด
ไปอย่างไร? คุณสามารถนั่งรถไฟ JR Nara Line จากสถานีเกียวโตไปยังสถานี Uji ได้เลย หากไม่ได้ซื้อตั๋วรถไฟของ JR คุณสามารถนั่งรถไฟ Kyoto City Subway แล้วไปต่อรถไฟสาย Keihan Uji Line เพื่อไปลงที่สถานี Uji ใช้เวลาเดินทางทั้งหมดประมาณ 30 นาทีเท่านั้น
เข้าพักที่ เกียวโต อูจิ ฮานายาชิกิ อูกิฟูเนะ-เอ็น, ออกไปเที่ยวที่ วัดเบียวโดอิน


3. โอซึ (Otsu) – ล่องเรือชมทะเลสาบบิวะ
อีกเมืองหนึ่งใกล้ๆ เกียวโตที่ชิลและสงบไม่แพ้ที่ไหนก็คือเมืองโอซึ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของจังหวัดชิงะ (Shiga Prefecture) สถานที่เที่ยวสำคัญก็คือทะเลสาบบิวะ (Biwa Lake) อันสวยงามเงียบสงบ ใครที่อยากชมความงามของทะเลสาบบิวะอย่างชัดๆ ก็ต้องไปล่องเรือสำราญมิชิแกน (Michigan Cruise) ที่ไม่เพียงคุณจะได้ชมวิวอย่างเต็มตา แต่ยังมีอาหารบนเรือให้กินอย่างเต็มอิ่มด้วย อีกไฮไลต์ก็คือขึ้นกระเช้าไฟฟ้าไปชมวิวทะเลสาบสวยสุดใจแบบพาโนรามาที่ Biwako Valley ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอื่นๆ ก็มีทั้งวัดอิชิยามะ (Ishiyama-dera Temple) วัดพุทธนิกายชินงอนที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 8, วัดเอ็นเรียคูจิ (Enryakuji Temple) วัดหลักของนิกายเท็นไดที่มีความสำคัญอย่างมากในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น ตั้งอยู่บนเทือกเขาฮิเอ (Hiei Mountain) โอบล้อมด้วยธรรมชาติและทิวทัศน์สบายตา บวกกับบรรยากาศสงบของวัดที่ควรค่าแก่การไปเยือน
ไปอย่างไร? คุณสามารถนั่งรถไฟ JR จากสถานี Kyoto ไปลงที่สถานี Otsu ได้เลย โดยใช้เวลาแค่เพียง 10 นาทีเท่านั้น!
เข้าพักที่ โรงแรมเลค บิวะ โอสึ ปริ้นซ์, ออกไปเที่ยวที่ วัดอิชิยามะ


4. อามาโนะฮาชิดาเตะ (Amanohashidate) – ดื่มด่ำวิวงดงามติดอันดับหนึ่งในสามของญี่ปุ่น
ชมวิวที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดติดอันดับหนึ่งในสามของญี่ปุ่นที่อามาโนะฮาชิดาเตะ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองมิยาสึ (Miyazu) ทางตอนเหนือของจังหวัดเกียวโต อามาโนะฮาชิดาเตะแปลว่าสะพานสู่สวงสวรรค์ คือสันดอนทรายที่ทอดยาวไปในอ่าวมิยาสึ (Miyazu Bay) เป็นระยะทาง 3.6 กิโลเมตร ซึ่งเต็มไปด้วยต้นสนเรียงรายไปตลอดแนวสันดอนเกือบ 8,000 ต้น ไฮไลต์เด็ดคือการขึ้นรถรางเพื่อขึ้นไปชมวิวสวยติดอันดับนี้ด้านบน ซึ่งจะสามารถเห็นวิวสันดอนทรายได้อย่างเต็มตา วิธีการดูวิวอันยอดฮิตก็คือหันหลังและก้มดูวิวลอดหว่างขา ซึ่งว่ากันว่าจะให้ภาพเหมือนมังกรกำลังบินขึ้นสู่สวงสวรรค์เลยทีเดียว! หากใครมีเวลาอยากเดินออกกำลังขาข้ามสันดอนทรายพร้อมชมวิวเพลินๆ ก็ใช้เวลาประมาณ 45 นาที หรือจะเช่าจักรยานปั่นก็ฟินไม่แพ้กัน แล้วอย่าลืมซื้อของอร่อยๆ ไปนั่งกินริมทะเลพร้อมรับลมเย็นๆ เพื่อเพิ่มความชิลให้ถึงขีดสุด
ไปอย่างไร? นั่งรถไฟ JR จากสถานีเกียวโตไปลงที่สถานี Fukuchiyama ใช้เวลาประมาณ 75 นาที จากนั้นนั่งรถไฟสาย Tango Relay ต่อไปอีกประมาณ 40 นาที แล้วไปลงที่สถานี Amanohashidate ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 2 ชั่วโมง
เข้าพักที่ โรงแรมมอนจุโซ, ออกไปเที่ยวที่ อามาโนะฮาชิดาเตะ


5. อิเนะ (Ine) – เที่ยวหมู่บ้านชาวประมง ชมบ้านเรือฟูนายะ
เพียงขึ้นไปทางเหนือของอามาโนะฮาชิดาเตะอีกประมาณ 15 กิโลเมตร คุณก็จะต้องตกหลุมรักเมืองเล็กๆ แสนสงบแห่งนี้ที่ชื่อว่าอิเนะ (Ine) เมืองหมู่บ้านชาวประมงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ไฮไลต์สำคัญที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ก็คือฟูนายะ (Funaya) หรือบ้านเรือ โดยด้านล่างจะเป็นที่จอดเรือ ทำให้สะดวกต่อการเอาเรือออกหาปลา ส่วนด้านบนก็ใช้เป็นที่อยู่อาศัย เราสามารถเห็นบ้านสไตล์ฟูนายะนี้มากกว่า 200 หลังเรียงรายทอดยาวไปตามอ่าวอิเนะ (Ine Bay) วิธีหนึ่งในการชมบ้านเรือฟูนายะก็คือล่องเรือชมรอบอ่าว ซึ่งใช้เวลาประมาณ 25 นาที ใครอยากสัมผัสเมืองนี้อยากใกล้ๆ พลางดูวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น และซึมซับบรรยากาศเงียบสงบกันให้เต็มที่ ที่นี่ก็มีจักรยานจัดบริการไว้ให้นักท่องเที่ยวยืมปั่นชมเมืองกันอย่างฟรีๆ เช่นกัน
ไปอย่างไร? จากสถานีรถไฟ Amanohashidate ขึ้นรถบัสต่อไปลงที่เมืองอิเนะ ใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมง คุณสามารถตรวจสอบเวลารถบัสได้ที่หน้าสถานีรถไฟ
เข้าพักที่ โรงแรม ไทเคียวโร, ออกไปเที่ยวที่ อามาโนะฮาชิดาเตะ วิว แลนด์
