เที่ยวย่านประวัติศาสตร์ ฮิกาชิยาม่า | ที่เที่ยวห้ามพลาดสำหรับทริปเกียวโต

ย่านฮิกาชิยาม่า (Higashiyama District) หรือจังหวัดฮิกาชิยาม่า (Higashiyama-ku) คือย่านอนุรักษ์เมืองเก่าที่สวยงามและยังคงภาพของ ญี่ปุ่น ในยุคระบบศักดินาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ย่านประวัติศาสตร์นี้เต็มไปด้วยบ้านเรือนและร้านรวงสไตล์ดั้งเดิม มีทั้งร้านชา ร้านภาชนะดินเผา รวมถึงร้านอาหาร วัดกับศาลเจ้าโบราณ และอื่นๆ อีกเพียบ แม้หลายคนจะแวะมาที่ฮิกาชิยามะในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระบานสะพรั่ง แต่เมืองนี้ก็ถือว่าเหมาะมากๆ สำหรับคนที่รักการเที่ยวชมวัฒนธรรม และดูวิถีชีวิตในยุคศักดินาของ ญี่ปุ่น ด้วย ที่นี่ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ลาดต่ำของฮิกาชิยามะใน เกียวโต หรือภูเขาทางตะวันออก ถือเป็นจุดหมายปลายทางชั้นยอดสำหรับคนที่อยากซึมซับประวัติศาสตร์เลยนะ

ทำความรู้จักย่านประวัติศาสตร์ “ฮิกาชิยาม่า”

ย่านฮิกาชิยามะ มีบ้านโบราณสวยๆ อยู่เต็มไปหมด เป็นทั้งแหล่งวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และศูนย์กลางการท่องเที่ยวของ เกียวโต ย่านสำคัญนี้เป็นที่นิยมของทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่น เพราะไม่เพียงแต่จะสวยบาดใจ แต่ยังเป็นที่ตั้งของวัดและศาลเจ้าที่โด่งดังอีกหลายแห่ง แล้วก็ยังมีร้านอาหารพื้นเมืองดีๆ กับสวนสาธารณะแจ่มๆ อีกด้วย บางคนใช้เวลาเที่ยวที่นี่ไม่กี่ชั่วโมง แต่สำหรับนักท่องเที่ยวสายละเมียดคงอยากอยู่ย่านนี้ทั้งวัน เพื่อค่อยๆ สำรวจถนนหนทางและร้านค้า พร้อมกับชิมของอร่อยไปด้วย หรือลิ้มรสอาหารมื้อค่ำแบบไคเซกิ (Kaiseki) ซึ่งเป็นคอร์สอาหารญี่ปุ่นขนานแท้ที่ปรุงและเสิร์ฟอย่างประณีตสุดๆ

• • วัดและเทศกาลต่างๆ: ย่านนี้มีศาลเจ้าและวัดดังๆ อยู่หลายแห่ง ใครที่อยากสัมผัสวัฒนธรรมและลัทธิความเชื่อของชาวญี่ปุ่นต้องหลงรักการมาเดินเล่นที่นี่ชัวร์ ถ้าอยากได้ทริปที่พิเศษสักหน่อย ต้องมาที่ ย่านฮิกาชิยาม่า ในช่วงเทศกาลฮานาโตโระ (Hanatoro) ซึ่งจัดช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ ย่านฮิกาชิยามะ และช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ย่านอาราชิยามะ (Arashiyama) คำว่าฮานาโตโระแปลว่า “ถนนแห่งดอกไม้และแสงไฟ” ดังนั้น ในช่วงเทศกาล ถนนที่นี่ก็เลยสว่างสดใสไปด้วยโคมไฟ ที่สาดแสงลงบนตึกรามและวัดวาในย่านนี้ – เป็นช็อตถ่ายรูปที่เพอร์เฟคต์และเป็นภาพจำที่สวยสุดๆ ไปเลย!

• • บ้านโบราณและร้านกาแฟ: ใครอยากจะเข้าไปสัมผัสบ้านแบบมาชิยะ (Machiya – บ้านไม้แบบโบราณ) ขอให้มองหาร้านอาหารหรือร้านกาแฟกับชาเขียวในย่านนี้ แล้วเลือกสักร้านที่โดนใจ รับรองว่าจะได้ทั้งจิบเครื่องดื่ม และดูข้างในบ้านอันแสนมหัศจรรย์ไปพร้อมๆ กัน

• • ช้อปปิ้ง: ย่านฮิกาชิยาม่า คือแหล่งช้อปที่จัดว่าดีงามอีกแห่ง โดยเฉพาะสำหรับคนที่อยากเข้าใกล้ วัดคิโยมิสึ (Kiyomizu Temple) ให้มากขึ้น ร้านค้าที่นี่ขายของกระจุกกระจิกสุดจะน่ารัก แล้วก็ของสไตล์ญี่ปุ่นที่เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกได้อย่างดี ยังไม่หมดเท่านั้น ย่านนี้ยังมีร้านขายของหรูหราที่มีทั้งของทำมือและงานอาร์ตที่สวยจนโลกตะลึง สำหรับขาช้อปใครที่พกเงินมาเพื่อช้อปให้กระจุยกระจาย ร้านค้าแถบนี้แหละคือคำตอบ

• ถ่ายรูปเช็กอิน: ใครก็ตามที่ชอบถ่ายรูปมุมกว้าง แนะนำให้มาย่านนี้ตอนค่ำ รับรองว่าจะได้รูปที่สวยขาดใจ เพราะไม่เพียงจะได้ความสวยของแสงไฟวิบวับยามค่ำคืนเท่านั้น แต่ช่วงเวลาดังกล่าว ไม่ค่อยมีคนด้วย เพราะฉะนั้นทุกคนจะได้รูปเจ๋งๆ แบบไม่ยากเย็นเลย แต่ถ้าชอบถ่ายรูปร้านค้า ไม่ว่าจะภายในหรือภายนอกก็ตาม มองให้ชัวร์ก่อนนะว่าไม่มีป้าย “ห้ามถ่ายรูป” แต่ถ้าเห็นป้ายนี้เมื่อไหร่ ก็ขอให้เชื่อป้ายกันสักนิดว่าไม่ควรถ่ายรูปในบริเวณนั้น ถ้าจะให้ดีควรขออนุญาตเจ้าของร้านก่อนถ่ายรูป ไม่ว่าร้านนั้นจะมีหรือไม่มีป้ายห้ามถ่ายรูปก็ตาม ฉะนั้นอย่าลืมคุยกับเจ้าของร้านก่อนถ่ายรูปในร้านทุกครั้งนะ

เข้าพักที่ The Royal Park Hotel Kyoto Sanjo แล้วออกไปเที่ยว วัดคิโยมิสึ

ค้นหาโรงแรม ที่พัก อพาร์ตเมนต์ ราคาดีที่สุดในเกียวโต

ที่เที่ยวห้ามพลาดในย่านฮิกาชิยาม่า

ที่นี่ไม่ค่อยจะเหมือนเมืองอื่นๆ นัก เพราะ ย่านฮิกาชิยาม่า มีความสวยงามแบบเฉพาะตัว ที่ทำให้นักท่องเที่ยวเห็นว่า เกียวโต ฉบับดั้งเดิมหน้าตาเป็นอย่างไร ย่านนี้มีสายไฟและเสาโทรศัพท์น้อยมาก แถมสถาปัตยกรรมต่างๆ ก็มีแบบฉบับของตัวเอง ทำให้ย่านนี้สวยเป็นพิเศษ และแม้จะเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว แต่ที่นี่ก็ขึ้นชื่อว่ามีวัดสวยๆ เต็มไปหมด จึงมีคนท้องถิ่นแวะเวียนมาเยอะด้วยเช่นกัน และเพราะมีร้านค้าเก๋ๆ ร้านชา ร้านอาหาร ศาลเจ้า วัด และที่น่าเที่ยวอื่นๆ อีกมากมาย เลยมีอะไรให้ไปทำและไปดูใน ย่านฮิกาชิยาม่า เพียบ ซึ่งเราก็มีสถานที่เจ๋งๆ มาให้เลือกใส่ในแพลนเดียวกันหลายที่เลย!

วัดคิโยมิสึ

หากพูดถึงความอลังการและความโดดเด่นก็ต้องยกให้ วัดคิโยมิสึ หนี่งในแลนด์มาร์กชื่อดังประจำย่านฮิกาชิยาม่า วัดไม้แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อบูชาเจ้าแม่กวนอิม และสร้างตามแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมโดยไม่ใช้ตะปูซักตัว จากระเบียงขนาดใหญ่จะมองเห็นวิวที่สวยจนเกือบลืมหายใจ เป็นวัดที่ดีงามด้วยประการทั้งปวง โดยเฉพาะใครจะถ่ายรูปวิวธรรมชาติ ที่นี่ยังมีน้ำตก (น้ำตกโอโตวะ) ที่ว่ากันว่าจะให้พรกับคนที่ดื่มน้ำจากน้ำตกนี้ด้วยนะ ที่นี่แวดล้อมไปด้วยความสวยงามของสวน สิ่งก่อสร้าง และสีเขียวของธรรมชาติ วัดคิโยมิสึจึงเป็นคำตอบที่ใช่สำหรับคนที่หลงธรรมชาติและรักประวัติศาสตร์ ควรค่าแก่การมาเยือนสุดๆ

พิกัด: 294 Kiyomizu, Higashiyama Ward, Kyoto
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 400 เยน
เวลาเปิด-ปิด: วัดเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 6.00 น. ทุกวัน ส่วนเวลาปิดบริการจะแตกต่างกันไปแต่ละปี หากจะแวะไปเที่ยวที่วัดก็อย่าลืมดูเวลาเปิดปิดในเว็บไซต์มาก่อนนะ

สวนมารุยามะ

สวนมารุยามะ (Maruyama Park) ถือเป็นทำเลทองของทั้งคนที่อยากดูดอกซากุระบาน และคนที่อยากดูวิวของ เกียวโต แม้ในช่วงฤดูดอกซากุระบานและช่วงที่มีการฉลองปีใหม่ ผู้คนมากมายก่ายกองจะมากันแน่นสวน แต่พูดก็พูดเถอะ ถ้ามาย่านนี้แล้วก็ควรแวะมาสวนแห่งนี้อยู่ดี จุดเด่นของที่นี่คือมีต้นซากุระพันธุ์ Weeping Cherry (ยิ่งหากมีไฟส่องตอนกลางคืนจะยิ่งสวย) แถมยังเป็นสวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดในเกียวโต และอยู่ติดกับ ศาลเจ้ายาซากะ (Yasaka Shrine) แห่งลัทธิชินโตที่สวยมากๆ ที่นี่มีทั้งส่วนที่เป็นสวน แปลงผลไม้ ที่พักขนาดย่อม ร้านอาหาร และอีกมากมายหลายสิ่ง เป็นตัวเลือกชั้นดีให้เราได้ไปนั่งคิดอะไรเพลินๆ หรือเดินเที่ยวเล่นซัก 2-3 ชั่วโมง

พิกัด: 463 Maruyamacho, Higashiyama Ward
ค่าเข้าชม: ฟรี
เวลาเปิด-ปิด: เปิดตลอด 24 ชม.

เจดีย์ยาซากะ

เจดีย์ยาซากะ (Yasaka Pagoda) ตั้งอยู่บนถนนยาซากะ ในฮิกาชิยาม่า เป็นหนึ่งในที่ที่เที่ยวยอดนิยมประจำย่าน ที่ใครๆ ก็ไปถ่ายรูปกัน ส่วนมากจะถ่ายกับเจดีย์ ซึ่งเป็นเจดีย์ที่เก่าแก่ที่สุดใน เกียวโต สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.592 (เคยถูกไฟไหม้ ก่อนจะสร้างขึ้นใหม่เมื่อปี ค.ศ.1440) ที่นี่ต่างจากเจดีย์อื่นๆ ใน ญี่ปุ่น ตรงที่เปิดให้เข้าชมข้างในได้ถึงบนชั้น 2 จากทั้งหมด 5 ชั้น และไม่ว่าจะไปที่นี่ช่วงกลางวันหรือกลางคืนก็ดีงามทั้งนั้น สำหรับคนที่เลือกมาตอนกลางคืนก็จะมีแสงไฟสว่างไสวเพิ่มความงดงามเข้าไปอีก

พิกัด: 605-0862 Kyoto, Higashiyama Ward
ค่าเข้าชม: 400 เยน
เวลาเปิด-ปิด: เจดีย์เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 10.00 น. – 16.00 น.

จุดชมวิวโชกุนซึกะ

ถ้าอยากเห็นวิวที่สวยเกินบรรยายของ เกียวโต ต้องมาที่ จุดชมวิวโชกุนซึกะ (Shogunzuka) บน เทือกเขาฮิกาชิยาม่า ว่ากันว่าจักรพรรดิคัมมุ (Emperor Kammu) เคยเสด็จมาที่นี่เมื่อศตวรรษที่ 8 และสถาปนาเป็นเมืองหลวง พระองค์โปรดให้ฝังรูปปั้นโชกุนไว้ตรงเนินเขา และขอพรให้เมืองหลวงแห่งนี้พบความสงบสุข ที่นี่จัดว่าสวยสุดๆ แถมยังมีวิวแบบว้าวๆ ให้ดูจากจุดชมวิวหลายแห่ง รวมถึงธรรมชาติแวดล้อมที่สวยสุดจะบรรยาย แนะนำให้มาที่จุดชมวิวช่วงพระอาทิตย์ตกเพื่อดูพระอาทิตย์ดวงโตลับหายไปจากขอบฟ้าอีกฟากของเมือง วัดโชกุนซึกะ เซริว-เดน (Shogunzuka Seiryu-den Temple) ก็อยู่ในบริเวณเดียวกันนี่แหละ เปิดให้เข้าได้ตั้งแต่ 9.00 – 17.00 น.

พิกัด: 28 Zushiokukachocho, Yamashina Ward
ค่าเข้าชม: ฟรี
เวลาเปิด-ปิด: เปิดตลอด 24 ชม.

ย่านกิออน

ย่านกิออน (Gion District) อีกหนึ่งย่านประวัติศาสตร์ของ เกียวโต และเป็นย่านเกอิชาที่โด่งดัง ซึ่งใน เกียวโต จะเรียกเกอิชาว่าเกอิโกะ แต่เรามักคุ้นเคยกับชื่อเดิมมากกว่า เกอิชาหรือเกอิโกะก็คือผู้หญิงที่ได้รับการฝึกฝนศิลปะการแสดงแบบคลาสสิก ไม่ว่าจะเป็นการเต้น การแสดง และร้องเพลง นอกจากนี้ยังเป็นที่รู้กันว่าเกอิชามีการแต่งหน้าที่ไม่เหมือนใคร ใส่กิโมโน และโด่งดังมากในย่านนี้ คำว่าเกอิชาหมายถึง “ผู้ที่มีศิลปะ” และผู้หญิงเหล่านี้ก็สืบทอดประเพณีที่มีมาช้านานของย่านน เราอาจได้เจอไมโกะ หรือเกอิชาฝึกหัด ที่โดยมากจะเด็กกว่าเกอิชาด สิ่งหนึ่งที่อยากให้นึกเสมอเวลามาแถวนี้ก็คือ ถ้าได้เจอเกอิชาหรือไมโกะ แล้วอยากจะถ่ายรูปละก็ ขออนุญาตเจ้าตัวก่อนถ่ายสักนิดนะ

ย่านกิออน มีร้านค้า ร้านอาหาร และโรงน้ำชาที่มีเกอิชาและไมโกะคอยให้บริการ แถมยังมีบ้านแบบมาชิยะ (บ้านญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม) ด้วย จึงเหมาะมากสำหรับการถ่ายรูปสวยๆ หรือดูการแสดงพิเศษจากนักแสดงที่ฝึกมาอย่างดี ร้านน้ำชาที่นี่เรียกว่าโอชายะ ซึ่งเอ็กซ์คลูซีฟมาก แล้วก็แพงมาก แถมนักเที่ยวยังอาจจะอดเข้าไปด้วย เพราะโอชายะหลายแห่งเปิดให้เฉพาะลูกค้าเก่าที่ได้รับเชิญเท่านั้น แต่บริษัททัวร์และโรงแรมบางแห่งอาจพาเราเข้าร้านน้ำชาสุดพิเศษนี้ได้นะ แต่แน่นอนว่าราคาไม่เบาเลยทีเดียว ถ้าใครสนใจ ลองถามพนักงานโรงแรมตอนไปถึงแถวนั้นก็ได้ ว่าพอจะพาเข้าไปได้ไหม

พิกัด: ตั้งอยู่ใกล้กับ Shijo Avenue อยู่ระหว่าง ศาลเจ้า Yasaka และ แม่น้ำ Kamo
เวลาเปิด-ปิด: เปิดตลอด 24 ชม.

เข้าพักที่ Cross Hotel Kyoto แล้วออกไปเที่ยว สวนมารุยามะ

ค้นหาโรงแรม ที่พัก อพาร์ตเมนต์ ราคาดีที่สุดในเกียวโต

วิธีเดินทางไปย่านฮิกาชิยาม่า

ย่านฮิกาชิยาม่า นี่ดังพอตัว และเดินทางไปได้หลายวิธี ถ้ามาจาก สถานีเกียวโต ให้ขึ้นรถบัสที่ป้ายรถเอกิมาเอะ (Ekimae) ซึ่งอยู่ทางออกฝั่งเหนือของสถานี หรือจะขึ้นรถบัสสาย 100 หรือ 206 จากสถานีที่วิ่งไป วัดคิโยมิสึ ก็ได้ ระหว่างทางมีป้ายรถหลายแห่งที่เราแวะได้อีก ลองเลือกจุดที่ชอบได้เลย ป้ายโกโจซากะ (Gojozaka) ห่างจากสถานีไปประมาณ 10 นาที ส่วนป้ายกิออนห่างไปประมาณ 15 นาที ตั๋วรถบัสราคาราวๆ 230 เยนต่อเที่ยว

เดินจาก ย่านฮิกาชิยาม่า ไปไม่ไกลก็จะถึง สถานีคิโยมิสึโกโจ หรือ สถานีกิออน-ชิโจ ถ้าเป็น สถานีคิโยมิสึโกโจ ให้ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 12 นาทีก็จะถึง ย่านฮิกาชิยาม่า แต่ถ้าไปจาก สถานีกิออน-ชิโจ ก็จะใช้เวลาประมาณ 22 นาที ไปทางตะวันออกเฉียงใต้เหมือนกัน

นอกจากนี้ยังเดินจาก สถานีเกียวโต-คาวารามาชิ (Kyoto Kawaramachi Station) ไป สถานีกิออน-ชิโจ ได้ด้วย โดยเดินไปทางตะวันออกประมาณ 3 นาที จากนั้นก็ขึ้นรถไฟที่ สถานีซันโจ (Sanjo Station) แล้วไปเปลี่ยนสายที่ สถานีซันโจเคฮัน (Sanjo Keihan Station) ต่อด้วยรถไฟใต้ดินไป สถานีฮิกาชิยาม่า ทั้งหมดนี้ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 15 นาทีเท่านั้น ถ้าออกจาก สถานีเกียวโต ชิยากุโช-มาเอะ (Kyoto Shiyakusho-mae Station) ไป สถานีฮิกาชิยาม่า ก็ขึ้นรถไฟใต้ดินเกียวโตแป๊บเดียว น่าจะใช้เวลาแค่ 3 นาที

รถไฟใต้ดินของ ญี่ปุ่น นั้นแสนจะดี แถมตรงเวลาสุดๆ ที่เกียวโต มีรถไฟ 2 สายหลักภายใต้การดูแลของ Kyoto Municipal Transportation Bureau สายที่วิ่งจากเหนือจรดใต้คือ Karasuma Line (สายสีเขียว) และสายที่วิ่งจากตะวันออกไปตะวันตกคือ Tozai Line (สายสีแดง) นอกจากนี้ยังมีรถไฟเอกชนหลายสายที่เชื่อมต่อกับรถไฟใต้ดินสายหลักๆ ให้เรานั่งไปจุดอื่นๆ ของเมือง รวมถึงส่วนอื่นๆ ของญี่ปุ่นได้อย่างสะดวกด้วย

ราคาตั๋วรถไฟใต้ดินอยู่ประมาณ 210-350 เยนสำหรับผู้ใหญ่ หรือจะใช้บัตรโดยสารก็ได้ แนะนำให้ลองหาบัตรที่ใช้ได้ทั้งรถไฟใต้ดินและรถบัส และใช้ในการเดินทาง 1-2 วันด้วยรถทั้งสองแบบได้ หาซื้อบัตรโดยสารวันเดียวและตั๋วแบบอื่นๆ ได้ที่ Kyoto Tourist Information Center บนชั้น 2 ของ Kyoto Station Building ,สถานีรถไฟใต้ดินเกียวโต, สถานีรถบัสคิตาโอจิ (Kitaoji) และที่ Bus Information Office ตรงเข้าหลักของ สถานีเกียวโต

แต่ถ้าใครไม่อยากนั่งรถสาธารณะ ก็เรียกแท็กซี่ใน เกียวโต ได้ในราคากันเอง อาจจะไปบางสถานที่สะดวกกว่าด้วยนะ เพราะแท็กซี่เข้าไปจอดส่งเราใกล้ๆ จุดหมายปลายทางได้มากกว่ารถไฟใต้ดินหรือรถไฟธรรมดา

ส่วนใครที่พลังงานล้นเหลือ เกียวโต ถือเป็นเมืองที่เหมาะแก่การปั่นจักรยานมากเลยละ เพราะทางค่อนข้างราบ และคนใช้รถส่วนใหญ่ก็จะคอยระวังจักรยานอยู่แล้ว ซึ่งหาเช่าจักรยานได้ตามร้านรอบๆ เมือง (เมืองนี้ฮิตการขี่จักรยานกันเหลือเกิน) วิธีนี้ทั้งเร็ว สะดวก และประหยัดด้วย แถมยังเหมาะแก่การเข้าไปเที่ยวบางสถานที่มากกว่ารถยนต์หรือรถไฟใต้ดินด้วยซ้ำ ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าลืมว่าต้องจอดจักรยานในจุดที่กำหนด ไม่อย่างนั้นจะมีเจ้าหน้าที่มาย้ายไปให้แน่นอน และไม่ต้องห่วงเพราะสถานที่ท่องเที่ยวเกือบทุกแห่งมีจุดจอดจักรยานไว้ให้นักปั่นอยู่แล้ว แต่อาจมีค่าบริการนิดหน่อยนะ (ราวๆ 100-200 เยน)

เข้าพักที่ Kyoto Yura Hotel – MGallery แล้วออกไปเที่ยว เกียวโต

ค้นหาโรงแรม ที่พัก อพาร์ตเมนต์ ราคาดีที่สุดในเกียวโต