ประเทศที่สวยงามอย่างญี่ปุ่นนั้น แบ่งออกเป็น 47 จังหวัด โดยมี โทชิกิ (Tochigi) เป็นหนึ่งในนั้น อาหารที่เลื่องชื่อของเมืองนี้ไม่ได้มีแค่อาหารทะเลจากชายฝั่งในละแวกเท่านั้น แต่ จังหวัดโทชิกิ ยังมีดีที่อาหารพื้นเมืองและอาหารประจำถิ่น ที่รอเสิร์ฟความอร่อยให้นักท่องเที่ยวทุกคนอยู่เสมอ หิวกันขึ้นมาแล้วใช่ไหม มากินเกี๊ยวซ่ากรอบๆ ซดราเม็นอุ่นๆ ที่ซาโนะ และอาหารจานเด็ดอีกมากมายใน โทชิกิ กันเลย!

ของอร่อยที่โทชิกิ | สตรอว์เบอร์รี่
สภาพอากาศหนาวเย็นของ จังหวัดโทชิกิ และฤดูหนาวแบบที่ยังมีแดดจ้าของที่นี่ ถือเป็นฤดูกาลเพาะปลูกสตรอว์เบอร์รี่ที่แท้จริง และด้วยสภาพอากาศที่เพอร์เฟกต์นี่แหละ ที่ทำให้จังหวัดนี้กลายเป็นแหล่งเพาะปลูกสตรอว์เบอร์รี่ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นมาห้าทศวรรษติด! จังหวัดโทชิกิ คือแหล่งสตรอว์เบอร์รี่พันธุ์ที่โด่งดังไปทั่วโลกอย่างโทจิโอโตเมะ (Tochiotome) และสกายเบอร์รี่ (Skyberry) รวมถึงสายพันธุ์อื่นๆ ด้วย จนกระทั่งเมืองนี้ได้ฉายาน่ารักๆ ว่า “อาณาจักรสตรอว์เบอร์รี่” พื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์นี้ก็เลยมีกิจกรรมไว้รองรับนักท่องเที่ยว ทั้งการเก็บสตรอว์เบอร์รี่ และการชิมผลิตผลที่เราเก็บมานี่ละ ฟาร์มท้องถิ่นหลายๆ แห่งใน โทชิกิ นั้นมีสตรอว์เบอร์รี่หลากหลายพันธุ์ที่โด่งดังระดับโลก ซึ่งแต่ละแห่งก็มีทั้งจัดทัวร์ จัดกิจกรรมเก็บสตรอว์เบอร์รี่ในช่วงที่สตรอว์เบอร์รี่สุก และพร้อมกิน แต่ต้องจำไว้ว่า ผู้เชียวชาญด้านการเก็บสตรอว์เบอร์รี่แนะนำให้เก็บก่อน 11 โมง จะได้ผลดีที่สุด
ฟาร์มสตรอว์เบอร์ชื่อดัง 3 แห่งของโทชิกิ
- สวนสตรอว์เบอร์รี่โยชิมูระ (Yoshimura Strawberry Park) ที่อยู่ 520 Hanawa, Mashiko เปิดทุกวัน (ยกเว้นวันจันทร์) ตั้งแต่ 9.00 – 16.00 น. ในช่วงกลางเดือนธ.ค. – กลางเดือนพ.ค. ค่าเข้าต่อคนเริ่มต้นที่ 1,300 เยน (ประมาณ 370 บาท) ถึง 1,800 เยน (ประมาณ 510 บาท) ขึ้นอยู่กับฤดูกาล เด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบเข้าฟรี ค่าเข้านี้รวมค่าสตรอว์เบอร์รี่ที่เราเก็บกินได้แบบไม่อั้นและไม่จำกัดเวลา
- สวนสตรอว์เบอร์รี่นิกโก้ (Nikko Strawberrry Park) ที่อยู่ 3581 Serinuma, Nikko เปิดทุกวัน (ยกเว้นวันอังคาร) ตั้งแต่ 10.00 – 16.00 น. ในช่วงต้นเดือนธ.ค. – ปลายเดือนพ.ค. ค่าเข้าสำหรับผู้ใหญ่ เริ่มต้นที่ 1,600 เยน (ประมาณ 455 บาท) ถึง 1,800 เยน (ประมาณ 510 บาท) ส่วนเด็กๆ ค่าเข้าเริ่มต้น 1,100 เยน (ประมาณ 310 บาท) ถึง 1,300 เยน (ประมาณ 370 บาท) ขึ้นอยู่กับฤดูกาล ค่าเข้ารวมค่ากิจกรรมเก็บสตรอว์เบอร์รี่กินได้ไม่อั้นในเวลา 30 นาที นอกจากนี้ยังมีร้านขายสตรอว์เบอร์รี่และขนมต่างๆ แบบกลับบ้าน
- ฟาร์มอิชิโกะ โนะ ซาโตะ (Ichigo no Sato Farm) ที่อยู่ 408 Okawashima, Oyama – เปิดทุกวันตั้งแต่ 9.00 – 17.00 น. ในช่วงเดือนธ.ค. – พ.ค. ค่าเข้าเริ่มต้นที่ 1,600 เยน (ประมาณ 455 บาท) ถึง 2,100 เยน (ประมาณ 600 บาท) ขึ้นอยู่กับฤดูกาล ค่าเข้ารวมค่ากิจกรรมเก็บสตรอว์เบอร์รี่กินได้ไม่อั้นในเวลา 30 นาที แต่ต้องจองล่วงหน้า
ค้นหาและจองที่พักในโทชิกิได้เลย

ของอร่อยที่โทชิกิ | เกี๊ยวซ่าอุตสึโนมิยะ
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น กองพลที่ 14 ได้เข้าประจำกันที่ อุตสึโนมิยะ (Utsunomiya) หลังกลับจากจีนพร้อมทหารกองหนุน และของโปรดใหม่ที่เพิ่งค้นพบ นั่นก็คือเกี๊ยวจีนแท้ๆ หลังจากนั้นก็มีการปรับเปลี่ยนและดัดแปลงเกี๊ยวที่จับจีบอย่างปราณีตนี้ให้เข้ากับสไตล์อาหารญี่ปุ่น จนเกิดเกี๊ยวซ่าขึ้นมาเป็นครั้งแรก และนับจากนั้นความชื่นชอบคอมฟอร์ตฟู้ดจานนี้ก็กลายมาเป็นความหลงใหลประจำเมืองไปเลย ที่ อุตสึโนมิยะ มีเกี๊ยวซ่าโชว์เด่นอยู่ตามหน้าร้านมากมาย ทั้งร้านเกี๊ยวซ่าโดยเฉพาะ และซุ้มขายอาหารเล็กๆ จนแล้วจนรอด เมืองนี้ก็เลยเป็นหนึ่งในสองเมืองของโลกที่มีคนบริโภคเกี๊ยวซ่าเยอะที่สุด เกี๊ยวซ่าของ อุตสุโนมิยะ จะใช้แป้งห่อที่บางเป็นพิเศษ ทำให้เวลานำไปปรุงจะได้เกี๋ยวซ่าที่กรอบ ซึ่งนี่ละที่ทำให้เกี๊ยวซ่าของเมืองนี้ ต่างจากที่อื่นๆ ในญี่ปุ่น และอาหารรสเลิศประจำเมืองชนิดนี้มักเสิร์ฟคู่มากับซอสที่ทำจากน้ำสมสายชูกับซอสถั่วเหลืองในปริมาณเท่าๆ กัน นอกจากนี้ยังมีน้ำมันพริก หรือที่เรียกว่ารายุ (Rayu) ด้วย
เกี๊ยวซ่า 4 แบบ
- ยากิเกี๊ยวซ่า (Yaki Gyoza) – ทอดด้านเดียว
- ซุยเกี๊ยวซ่า (Sui Gyoza) – ต้ม
- อาเกะเกี๊ยวซ่า (Age Gyoza) – ทอดกรอบ
- ฮามามัตสึเกี๊ยวซ่า (Hamamatsu Gyoza) – เกี๊ยวซ่าที่มีถั่วงอกโปะไว้ด้านบน
แล้วก็เพราะว่าที่ อุตสึโนมิยะ รักและมีเกี๊ยวซ่าเต็มไปหมด เลยทำให้ จังหวัดโทชิกิ กลายเป็นเมืองหลวงแห่งเกี๋ยวซ่าของโลกไปเลย! ทั้งจังหวัดจะเฉลิมฉลองความเป็นตัวจริงเสียงจริงเรื่องเกี๊ยวซ่ากันทุกปีในเดือนพฤศจิกายน กับเทศกาลเกี๊ยวซ่าอุตสึโนมิยะ
ร้านเกี๊ยวซ่าตัวท็อปแห่งอุตสึโนมิยะ
- ร้านเกี๋ยวซ่ามาซาชิ มิยาจิมะ (Gyoza Masashi Miyajima) ที่อยู่ 4-3-1 Babadori – ขายเกี๊ยวซ่าแบบต้มและทอด ส่วนไส้เป็นแบบดั้งเดิม
- อุตสึโนะมิยะ มินมิน (Utsunomiya Minmin) – สาขาหลัก ที่อยู่ 4-2-3 Babadori – มีเกี๊ยวซ่ารูปแบบใหม่ๆ เสิร์ฟคู่กับแบบที่คนท้องที่ชอบกิน
เพื่อให้ขึ้นชื่อว่ามาถึงเมืองแห่งเกี๊ยวซ่าจริงๆ อย่าลืมแวะไปถ่ายรูปหน้า สถานีอุตสึโนมิยะ ด้วยนะ เพราะเขามีเกี๊ยวซ่าอมตะขนาด 1.5 เมตรยืนรอเราอยู่เงียบๆ แต่ไม่ใช่เกี๊ยวซ่าจริงๆ หรอกนะ มันคืออนุสาวรีย์เกี๊ยวซ่า
3 เมนูเกี๊ยวซ่าที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อจังหวัดโทชิกิโดยเฉพาะ
- เบอร์เกอร์เกี๊ยวซ่า – เกี๋ยวซ่าทอดกรอบราดซอสพริก โรยต้นหอม แล้วประกบด้วยขนมปังนุ่มๆ
- มันฝรั่งทอดรสเกี๊ยวซ่า – รสชาติเค็มๆ เปรี้ยวๆ เป็นมันฝรั่งทอดกรอบที่รสชาติเหมือนน้ำจิ้มเกี๊ยวซ่าเป๊ะ
- ขนมปังเกี๊ยวซ่า – ขนมปังที่ข้างนอกกรอบ แต่ข้างในเป็นไส้เกี๊ยวซ่าชุ่มฉ่ำกับซอสพริกที่ทำให้น้ำลายสอได้ทุกครั้ง
ค้นหาและจองที่พักในโทชิกิได้เลย

ของอร่อยที่โทชิกิ | ซาโนะราเมง
หนึ่งเรื่องที่เรารู้กันดีก็คือ ราเมงเป็นอาหารดังสัญชาติญี่ปุ่น เพราะฉะนั้นเมื่อไปเยือนถิ่นราเมงทั้งที ก็ควรลองอาหารประเภทบะหมี่ในน้ำซุปนี้สักหน่อย โดยเฉพาะแบบที่มีขายในเมือง ซาโนะ (Sano) เท่านั้น ความพิเศษของซาโนะราเมงคือการใช้น้ำคุณภาพสูงจาก บ่อน้ำอิซูรูฮานะ เบนเท็น (Izuruhara Benten) หนึ่งในร้อยแหล่งน้ำพุที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น บะหมี่ทำมือที่ใช้ในอาหารชามนี้ ผ่านการตีไล่อากาศด้วยลำต้นไผ่ที่ยังสดและเขียวๆ อยู่ ก่อนจะนำไปต้มในซุปใส ได้รสนวลๆ อ่อนๆ จากโชยุ หรือซอสถั่วเหลือง ด้วยกระบวนการทำต่างๆ นี้ทำให้เส้นซาโนะราเมงเรียบ แบน ใกล้เคียงกับเท็กซ์เจอร์แผ่นเกี๊ยวที่หลายคนคุ้นเคย
3 ร้านเด็ดที่ต้องไปลองซาโนะราเมง
- นิกโก้เคน (Nikkoken) ที่อยู่ 138 Wakamatsucho, Sano – เปิดทุกวันตั้งแต่ 11.00 – 20.00 น.
- ราเมง ยามาโตะ (Ramen Yamato) ที่อยู่ 1-5-2 Kitamorocho, Sano – เปิดตั้งแต่ 11.00 – 15.00 น. และ 17.00 – เที่ยงคืน
- ราเมง โอกาเนะ (Ramen Ogane) ที่อยู่ 3229-7 Ohashicho, Sano – เปิดตั้งแต่ 11.30 – 15.00 น. และ 17.00 – 19.30 น.
ค้นหาและจองที่พักในโทชิกิได้เลย

ของอร่อยที่โทชิกิ | สาเก
จังหวัดโทชิกิ เป็นจังหวัดที่มีแหล่งน้ำสะอาดอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์มาก ทำให้มีการผลิตสาเกชั้นเลิศขึ้นเต็มไปหมดจนกลายเป็นเมืองที่เชี่ยวชาญด้านนี้ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์นี้ถือเป็นเครื่องดื่มประจำชาติของญี่ปุ่นเลย และหาดื่มง่ายทั้งตามซุ้มอาหารเล็กๆ ข้างถนนไปจนถึงในวัง น้ำจากภูเขาไหลมาจากยอดเขานับสิบแห่ง เช่นเขานาสุ เขาโอฮิระ และเขานันไต มารวมกับแม่น้ำ 3 สายหลักของจังหวัด แล้วค่อยๆ สะอาดบริสุทธิ์ขึ้นขณะที่ไหลลัดเลาะมาเรื่อยๆ จึงมั่นใจได้เลยว่าวัตถุดิบหลักของสาเกที่นี่สะอาด สดชื่น และบริสุทธิ์จริง ด้วยความดีงามทั้งหมดนี้ จึงทำให้เราควรใส่ทัวร์โรงหมักสาเก รวมถึงเวิร์กช็อปสาเก และแหล่งเรียนรู้เรื่องสาเกไว้ในแพลนเที่ยว โทชิกิ
ทัวร์โรงหมักสาเกในจังหวัดโทชิกิ
- โรงหมักสาเกนิชิโบริ (Nishibori Sake Brewery Co., Ltd.) ที่อยู่ 1452, Awanomiya, Oyama – เปิดวันจันทร์ – เสาร์ เวลา 8.00 – 17.00 น. (ทัวร์โรงหมักสาเก มีช่วง 14.00 – 15.00 น. ทุกวันอังคารและวันอาทิตย์)
- โรงหมักสาเกเท็นทากะ (Tentaka Sake Brewery Co., Ltd.) ที่อยู่ 2166, Hiruhata, Otawara – เปิด 11.00 -15.30 น. (เดือนต.ค. – เม.ย.) และเปิด 9.00 – 15.30 น. (เดือนพ.ค. – ก.ย.)
- โรงหมักสาเกชิมาซากิ (Shimazaki Sake Brewery) ที่อยู่ 1-11-18 Chuo, Nasukarasuyama – เปิดตั้งแต่ 10.00 – 16.00 น. (กลางเดือนมี.ค. – กลางเดือนธ.ค.)
ค้นหาและจองที่พักในโทชิกิได้เลย
ค้นหาโรงแรมและที่พักอื่นๆ ในโทชิกิ
Richmond Hotel Utsunomiya Ekimae Annex
Utsunomiya Tobu Hotel Grande
JR-East Hotel Mets Utsunomiya