เกาหลี เกาใจ ไปกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ ตามมาเที่ยว ถ่ายรูป ค้นหาคาเฟ่เก๋ๆ กาแฟเข้มๆ พร้อม Tips and Tricks กับทริปเที่ยวกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ด้วยกันเลยค่ะ
มาถึงโซลแล้ว! จุดแรกที่เราต้องไม่พลาดก็คือวัดบงอึนซา โดยตามความเชื่อของคนเกาหลี ถ้าเราถวายข้าวสารที่วัดนี้ การค้าขายจะเจริญรุ่งเรือง หน้าที่การงานจะเจริญก้าวหน้า ครอบครัวของเมย์เลยถวายกันไปคนละแพ็ค ราคา 5,000 วอน
หลังจากนั้นเรามุ่งหน้าไปที่ห้าง Coex ที่มี Landmark เป็นห้องสมุด Starfield สายถ่ายรูปต้องชอบแน่นอน แต่งตัวจัดเต็มมาทั้งทีเลยพลาดไม่ได้จริงๆ
ถ่ายรูปไปสักพักก็ถึงเวลาอาหารกลางวัน วันนี้อาหารของเราคือจิมดัก (Jim Dak) หรือไก่ผัดซอสหวานที่มีเส้นมันหนึบๆ กินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ และตัดรสหวานด้วยกิมจิ อร่อยอย่างบอกไม่ถูก
พอกินข้าวเสร็จเราก็นั่งรถไปที่โรงแรม Travelodge Myeongdong Namsan ที่เราเลือกที่นี่เพราะใกล้กับตลาดเมียงดงและเดินทางสะดวกมาก มีทั้งรถเมล์และรถไฟอยู่ใกล้ๆ หลังจากเช็คอินเก็บกระเป๋าเสร็จ ก็เริ่มเที่ยวกันเลย
ซึ่ง Landmark ที่ 2 ก็คือ Molto Italian Espresso Bar Cafe คาเฟ่นี้จะมีวิวเป็นโบสถ์ Myeongdong Cathedral อยู่ด้านหลัง ตอนที่เราไปคิวยาวเหยียด รอโต๊ะอยู่ประมาณ 40 นาที แต่ก็คุ้มค่ากับการรอเพราะเราได้โต๊ะที่มุมถ่ายรูปสวยสุดๆ อย่าลืมชิมครัวซองต์ Espresso Affogato (ไอศกรีมวานิลลาใส่ช็อต espresso) และกาแฟ อร่อยแบบ Must eat เลย! หลังจากนั้นเราก็ไปเดินเล่นที่ตลาดเมียงดง ทานมื้อเย็นที่ตลาด แนะนำไก่ผัดซอสสุดปังจากร้าน Yoogane Chicken Galbi Myeongdong อร่อยสมชื่อสุดๆ
เช้าวันนี้เราตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อไปตามหาร้านป้าจาก Netflix ที่ตลาด Gwangjang แนะนำให้ไปถึงแต่เช้า เมย์ไปตอนประมาณ 7 โมงครึ่ง สิ่งที่พลาดไม่ได้เลยก็คือก๋วยเตี๋ยวเส้นสดที่ใส่เกี๊ยวหมู กินคู่กับกิมจิคือที่สุดแล้วจริงๆ
หลังจากนั้นเราก็ไปเดินเล่นที่ Seongsu Street แถวนี้มีตึกและสถาปัตยกรรมที่แปลกตาและที่สำคัญเป็นแหล่งช็อปปิง ใกล้ๆ กับถนนเส้นนี้จะมีคาเฟ่ชื่อว่า Nudake ตั้งแต่ทางเข้าร้านจะเห็นโต๊ะกลมๆ สีดำ มีเค้กหน้าตาแปลกๆ ประมาณ 20 แบบที่ไม่ได้หาง่ายๆ ทั่วไป ราคาแอบแรงนิดนึงแต่คุ้มค่ากับการลอง
หล้งจากนั้นเราก็นั่งรถบัสไปที่ Garosugil streets ถนนสายแฟชั่นสุดฮิปในเกาหลี แถวนี้จะคึกคักไปด้วยตึกดีไซน์เก๋ๆ ใครเป็นติ่ง Jennie BLACKPINK มาลองแบรนด์น้ำหอม TAMBURINS ได้ที่นี่เลยค่ะ ส่วนเราแวะถ่ายรูปกับโปสเตอร์ก็พอใจแล้ว
ตกบ่ายเราก็พาคุณแม่ไปดูดอกพ็อดกดหรือดอกซากุระที่สวนสาธารณะ Jamsil Hangang Park อยู่ใกล้ๆ สวนสนุก Lotte World แต่สงสัยยังไหว้พระไม่พอเพราะวันนี้ดอกพ็อดกดร่วงหมดทุกต้น แอบเสียดายเหมือนกันแต่ไม่เป็นไรไว้ค่อยมาใหม่ค่ะ
พอตอนเย็นเราก็ต้องไปตามหา Landmark สุดท้ายที่ Dongdaemun Design Plaza (DDP) กลุ่มอาคารรูปทรงสถาปัตยกรรมแปลกตาใจกลางกรุงโซล แนะนำให้ไปชมตอนเย็นเพราะเค้าจะเปิดไฟสวยงามมาก นอกจากจะเป็นที่ถ่ายรูปสวยๆ เคยอยู่ในซีรีส์เกาหลีหลายๆ เรื่องแล้ว ที่นี่ก็ยังเป็นสถานที่สำคัญในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างประเทศอีกด้วย
และแล้ววันที่สองก็จบลงด้วยการทานหมูย่างเกาหลี ร้านที่เราเลือกอยู่ในย่านเมียงดงราคาเพียง 16,900 วอนต่อคน ทานแบบคุ้มสุดๆ ทั้งหมูสามชั้น สันคอหมู ซุปกิมจิ และผักเครื่องเคียงต่างๆ โดยที่ร้านก็มีเมนูอื่นๆ อีกมากมาย เช่น เนื้อบดเกาหลี (คล้ายๆ ก้อยเนื้อสับบ้านเรา) อร่อยมากๆ แนะนำเลย
วันนี้เรามีแผนไป Onion Cafe คาเฟ่ตึกร้างที่ดัดแปลงเป็นร้านเก๋ๆ แต่พอไปถึงคิวยาวสุดๆ เลยยอมแพ้ เราตัดสินใจไปอีกคาเฟ่ที่อยู่ใกล้ๆ กันชื่อว่า Cheongsudang Cafe ซึ่งมุมสุดฮิตของที่นี่คือธารน้ำที่อยู่กลางร้าน เค้กที่นี่รูปร่างแปลกตาคล้ายก้อนหิน แต่รสชาติว้าวมากๆ อย่าลืมไปลองกันนะคะ
อิ่มท้องแล้วก็ต้องไปแวะ Ewha University มหาวิทยาลัยหญิงล้วนอันดับต้นๆ ของเกาหลีใต้ เนื่องจากเราเดินทางด้วยรถบัสเลยไปหลงอยู่ที่ประตูหลังของมหาวิทยาลัย ต้องใช้เวลาประมาณ 30 นาทีเพื่อเดินไปที่ประตูหน้า ตอนนั้นคุณพ่อคุณแม่เราเริ่มเดินกันไม่ไหว แต่โชคดีเจอ scooter จอดอยู่ 4 คัน เลยโหลดแอป กรอกข้อมูลก็เช่าขับได้เลย สนุกมากๆ นี่แหละเครื่องทุ่นแรงของเรา!
สถานที่ต่อไปคือ Cafe Rain Report ที่ Itaewon ร้านนี้ไม่เหมาะกับผู้สูงอายุ เพราะเส้นทางจากป้ายรถบัสไปคาเฟ่ลาดชันมากๆ ร้านตกแต่งด้วยสีดำชิคๆ มีมุมที่โชว์สภาพอากาศอยู่กลางร้านและจำลองฝนตกที่มุมด้านนอก เนื่องจากร้านนี้เป็นโรงคั่วกาแฟเองด้วย เมล็ดกาแฟเลยมีให้เลือกหลากหลาย
พอบ่ายแก่ๆ เราก็พาครอบครัวไปนั่งปิกนิกที่แม่น้ำฮัน เมย์อยากรู้มานานแล้วว่าฟีลลิ่งการไปกินรามยอนที่แม่น้ำฮันจะรู้สึกยังไง บอกเลยว่าแปลกใหม่ดี วิวแม่น้ำสวย อากาศดี คนออกมาปั่นจักรยาน พาน้องหมาออกมาเดินเล่นกันเยอะมาก เหมือนอยู่ในซีรีส์เกาหลีสุดๆ
และแล้วเราก็เดินทางมาถึงวันสุดท้าย วันนี้เลยจะเก็บตกร้านกาแฟดังๆ และทานอาหารอร่อยๆ ก่อนกลับไทยค่ะ
แถวเมียงดงจะมีร้าน Cafe Dictionary Express ที่เค้าเคลมว่าเป็น God ของ Latte เมย์เลยต้องลองเมนูพิเศษนี้กับเค้าบ้าง ซึ่งก็อร่อยของจริงไม่จกตาแต่อย่างใด อย่าลืมไปลองกันนะคะ
พอถึงเวลาทานอาหารกลางวันเราก็จัดกันเต็มที่ ทั้งต็อกโบกี คิมมารี ซุนแด จาจังมยอน ข้าวผัดกิมจิ และไก่ตุ๋นโสมที่ร้านชื่อดัง Myeongdong Grandmother Noodle ร้านนี้คนท้องถิ่นแนะนำเลยนะ แม้ว่าร้านจะอยู่ในตรอกลึกลับนิดนึง แต่ถ้าปักหมุดตาม Map ก็ไม่หลงทางแน่ ใครไปกินอย่าลืมบอกว่าเป็นคนไทยนะ เพราะเจ้าของร้านจะลดราคาให้ 10% เพราะเจ้าของร้านเป็นเขยอุดรจ้า
พอกินข้าวเสร็จก็ถึงเวลาที่ต้องไปสนามบิน จบไปแล้วกับทริปเกาหลีของเมย์ ดีใจมากเพราะทุกย่านที่ไปคือเด็ดสุดๆ มีของกินอร่อยอยู่ทุกมุมเลย และนอกจากของกินก็ยังมีถนนที่เที่ยวช็อปปิงอีกเพียบ อย่าลืมเตรียมเงินวอนให้พร้อม แล้วไปละลายทรัพย์ด้วยกันจ้า
