เริ่มต้นการเดินทางสู่ฟุกุโอกะด้วยคู่มือสุดพิเศษนี้! สำรวจวัดศักดิ์สิทธิ์, ตลาดช็อปปิงที่แสนวิเศษ, และสัมผัสกับงานศิลปะระดับโลก พร้อมที่พักที่จะทำให้ทริปของคุณน่าจดจำยิ่งขึ้น!
เช้านี้เราเริ่มที่ Dazaifu Tenmangu ซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในฟุกุโอกะ เรียกได้ว่าเป็นแลนมาร์คของจังหวัดนี้ ที่นี่เด่นเรื่องขอพรด้านการศึกษา ใครที่กำลังจะเรียนต่อหรือจะสอบ ถ้าแวะมาญี่ปุ่นผมขอแนะนำที่นี่เลย
ไปต่อที่ shopping street ใกล้ๆ วัดมีอาหารและของที่ระลึกน่ารักๆ เยอะมากครับ บ่ายวันนี้เราไปย่าน Tenjin ซึ่งเป็นแหล่งช็อปปิงและคีบตุ๊กตาที่ฮิตที่สุดในเมือง โดยคืนนี้เราพักกันที่โรงแรม Solaria Nishitetsu Hotel Fukuoka ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ให้บริการห้องพักที่หรูหราและมีบริการห้องอาหารที่ยอดเยี่ยม อย่าลืมลิ้มรสอาหารมื้อเย็นที่โรงแรมซึ่งโด่งดังเรื่องอาหารท้องถิ่นที่อร่อยสุดๆ
เริ่มต้นที่วัด Nanzoin ที่ขึ้นชื่อเรื่องรูปปั้นพระนอนขนาดใหญ่ ว่ากันว่าใหญ่พอๆ กับเทพีเสรีภาพเลยนะครับ หลังจากนั้นแวะช็อปปิงที่ LaLaport Fukuoka ศูนย์การค้าสุดโมเดิร์น เพลิดเพลินกับการถ่ายรูปกับโมเดลกันดั้มขนาดยักษ์ ส่วนในช่วงเย็นเราก็กลับมาเดินเล่นย่าน Tenjin อีกครั้ง อย่าลืมลองชิมอาหารจาก Yatai Stalls หรือร้านอาหารกลางถนนที่เป็นเอกลักษณ์ของฟุกุโอกะ สามารถชิมอาหารท้องถิ่นเช่น โอเด้ง เท็มปุระ เกี๊ยวซ่า ราเมน โดยไม่ต้องไปนั่งกินที่ร้านอาหารแพงๆ เลย แค่มาฝากท้องกับ street food พวกนี้ก็อิ่มอร่อย ได้ใจก๊อปมากครับ
คืนนี้พักกันที่ lyf Tenjin Fukuoka โรงแรมสีขาวเด่น ดูโมเดิร์นมาก แถมอยู่ใกล้ metro สถานี Tenjin Minami และสวนสาธารณะ เดินทางสะดวกมากครับ ฝั่งตรงข้ามเป็นร้านยากินิกุ คนไม่เยอะ ราคาไม่แรงแต่อร่อยมากๆ คืนนี้ก่อนนอนหาอะไรกินใกล้ๆ ก็ฟินแล้วครับ
วันที่ 3 เราเน้นเที่ยวแบบ slow life ไม่รีบร้อน นอนอิ่มๆ แล้วออกไปเที่ยวช่วงสายกันครับ วันนี้มาที่ Mojiko Retro เมืองท่าเรือที่เป็นจุดท่องเที่ยวและถ่ายภาพสวยมากครับ ยิ่งมากับแฟนยิ่งโรแมนติกสุดๆ ไปจากฟุกุโอกะก็ไม่ยากครับ นั่งรถไฟประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว ไปเช้าเย็นกลับแบบสบายๆ แชร์ความรู้นิดนึงว่าเมื่อก่อนเมืองนี้เป็นเมืองท่าที่ทำการค้ากับชาติอื่นๆ เลยได้รับวัฒนธรรมจากต่างแดนเยอะ เห็นได้จากสถาปัตยกรรมของเมืองนี้ที่เป็นแบบยุโรป ทำหลายคนสับสนเลยครับว่ามาเที่ยวที่ไหนกันแน่ และสิ่งที่ห้ามพลาดถ้ามาเที่ยวเมืองนี้คือตามนี้ครับ
- เดินเล่นที่ Kaikyo Plaza ซึ่งอยู่ใจกลาง Mojiko Retro เป็นแหล่งช็อปปิงของเมืองนี้
- เช็คอินที่ Blue Wing Moji ถ่ายภาพสวยๆ ไปอวดเพื่อน
- ชมวิวที่ Mojiko Retro Observation Room ที่ตั้งอยู่ชั้น 31 ของคอนโด Mojiko Retro High Mart
- แวะถ่ายรูปกับมาสคอต Bananaman ถ้าไม่มีรูปกับเพื่อนตรงนี้ถือว่าพลาดนะครับ
คืนนี้กลับไปพักผ่อนที่โรงแรม 9h nine hours Hakata station นั่งรถไฟประมาณ 1 ชั่งโมงก็กลับถึงโรงแรมสบายๆ เลยครับ ขอแนะนำที่นี่เพราะอยู่ใกล้ย่านท่องเที่ยว แต่ก็สงบเสียงไม่ดังเลยแม้จะเป็น Capsule hotel ก็ตาม ระบบที่นี่ทันสมัยมากเป็น Smart Check-in ไม่มีพนักงาน พอเช็คอินแล้วจะได้คีย์การ์ดสำหรับเข้าห้องพักและเก็บของใน locker แถมที่พักก็อยู่ใกล้ Lawson ดึกๆ ไม่ต้องกังวลว่าจะหิวเลยครับ
เริ่มต้นวันที่ 4 ด้วยการเดินทางไปเกาะแมว Ainoshima เรียกได้ว่าเหมือนไปคาเฟ่น้องแมวน่ารักขนาดใหญ่ พร้อมชมวิวทะเลสวยๆ สาย cat-lover ใจฟูกับเหล่าน้องแมวที่เกาะแบบอยู่ได้ทั้งวันแน่นอนครับ จากนั้นเราต่อด้วยการเยี่ยมชม Fukuoka Art Museum กันครับ
ชื่นชมพิพิธภัณฑ์เสร็จก็แวะมาเดินเล่นที่ Ohori Park ถือว่าเป็นโอเอซิสของเมืองฟุกุโอกะเลยแหละ จะเห็นสวนที่มีความเป็นญี่ปุ่นมาก แถมในสวนยังมีโรงน้ำชาและกิจกรรมเช่าเรือหงส์อีกด้วยนะ ค่าบริการก็ประมาณ 200-300 บาทต่อ 30 นาทีครับ
ไปต่อกันกับช่วงบ่ายวันสุดท้ายด้วยการแวะช็อปปิงที่ Hakata Station สักหน่อยครับ มาญี่ปุ่นทั้งทีก็ต้องซื้อของฝากกลับไปให้เพื่อนและครอบครัว แนะนำเลยคือคือ Menbei ขนมข้าวกรอบญี่ปุ่นที่มีรสชาติไข่ปลาเมนไทโกะ หรือถ้าเป็นสายหวานหน่อยก็ต้องขนม Manju ครับ หาได้แค่ที่ฟุกุโอกะเท่านั้น ทานคู่กับชากาแฟเข้ากันดีมากๆ
ซื้อของฝากเสร็จก็ต้องรีบนั่ง metro จากสถานีนี้ไปสนามบินครับ ไม่งั้นต้องได้ซื้อตั๋วเครื่องบินใหม่แน่ ซึ่งมีสายตรงไปสนามบินเพียงแค่ 3 สถานีเท่านั้นครับ จบทริปนี้มันส์มากครับ ช็อปเยอะไม่แพ้ตอนไปโตเกียวเลย ได้พักผ่อนกายผ่อนใจแบบเต็มที่!