แจกแพลนทริปลอนดอน 5 วัน แบบเก็บแลนด์มาร์ค มุมถ่ายรูป และร้านอาหารปังๆ มีที่ไหนน่าสนใจบ้าง มาดูกันเลย
เริ่มวันแรกไปตะลุยลอนดอนฝั่ง West กันก่อนเลยครับ ส่วนใหญ่มาลอนดอนใช้เวลาบินค่อนข้างนาน อาจจะต้องวางแผนการเดินทางดีๆ รวมถึงการต่อเครื่องด้วยครับ แนะนำเผื่อเวลาต่อเครื่องประมาณ 2 ชั่วโมงอย่างต่ำครับผม ใครอยากเก็บครบเต็มๆ วันผมแนะนำให้บินแบบถึงปลายทางตอนเช้าเพื่อให้เราได้เที่ยวเลยครับ พอมาถึงตอนเช้าเข้าไปฝากกระเป๋าที่ Royal Eagle Hotel แล้วไปเดินชิคๆ ย่าน Notting Hill สุดน่ารัก และเดินตลาด Portobello Road Market ย่านนี้คือเดินเพลินมาก ถ่ายรูปสวยไปหมด เป็นย่านที่ดังมากในลอนดอนเพราะหนังหลายๆ เรื่องมักจะมาถ่ายทำที่นี่ครับ ด้วยมู้ดที่แสนโรแมนติก ใครที่เป็นคอหนังผมเชื่อเลยว่าจะต้องเห็นสักจุดนึงอยู่ในหนัง Notting Hill แน่นอนครับ ไปต่อกันที่ Victoria & Albert Museum เดินดูงานศิลปะที่สวยงามของอังกฤษ ว่ากันว่าที่นี่รวบรวมผลงานศิลปะหลายแขนงไว้เยอะที่สุดในลอนดอนเลย ข้างๆ เป็น Natural History Museum มาโซนนี้แล้วต้องเก็บให้ครบ เพราะที่นี่เป็นหนึ่งในโลเคชั่นหลักของภาพยนตร์ดังอย่าง Night at the Museum ครับ! สวยและอลังมาก เรียกได้ว่าวันแรกถูกใจคอหนังสุดๆ เดินต่อออกมาอีกนิดนึงก็จะเจอห้าง Harrods ด้วยนะ ช็อปต่อก่อนกลับที่พักได้เลย
เช้าวันที่สองไปเดินเล่นที่สวนชื่อว่า Primrose Hill ซึ่งเป็นเนินเขาสูงๆ สนามหญ้าโล่งพร้อมวิวเมืองสวยๆ เหมาะมานั่งปิคนิคเลย ช่วงที่ผมไปเริ่มเข้าฤดูใบไม้ร่วงแล้ว การได้เห็นต้นไม้เริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้มก็สวยงามไปอีกแบบครับ ไปต่อกันที่โซนใจกลางเมือง museum ประจำวันนี้คือ British Museum ข้างนอกดูขลังแต่เข้ามาข้างในคือทันสมัยเลยครับ ข้างในจะเป็นโถงสวยอลังการ ถ่ายรูปดีมาก มีวัตถุโบราณและประวัติศาสตร์มากมาย พอเริ่มหิวก็ไปกันต่อที่ย่าน Chinatown แม้มายุโรปแต่ขอแวะทานอาหารเอเชียหน่อยครับ ที่นี่เป็นแหล่งรวมของอร่อยในลอนดอน ขอแนะนำร้าน Gold Mine เป็ดย่างในตำนานสุดอร่อย และชานมที่ร้าน Heytea อันนี้ของดีมาก มาลองเพราะอยากรู้ครับว่ารสชาติจะเหมือนกันทั่วโลกมั้ย เดินไปอีกนิดเป็นย่าน Covent Garden น่ารักมากๆ ต้องมาเลยครับ เป็น Market street ที่เดินเพลินมาก ปิดท้ายวันนี้ที่โรงละครดูเรื่อง Phantom of the Opera สุดประทับใจ มาอังกฤษทั้งที โอเปร่าคือพลาดไม่ได้ครับ ต้องลองมาดูสักครั้งในชีวิต
วันที่สามแล้ว วันนี้จะเน้นไปฝั่ง East London ไปย่าน Westminster มาตรงนี้เก็บแลนด์มาร์คได้รัวๆ ตั้งแต่ Big Ben, London Eye และ Westminster Abbey ผมแนะนำให้เดินเป็นสเต็ปตามนี้ครับ ทยอยเก็บทีละจุด เก็บครบช่วงเข้าแล้ว บ่ายๆ ไปตะลุยกิน street food ที่ Borough Market มีของกินเยอะมาก นอกจากผักผลไม้แล้ว ที่นี่ก็มีขนมปังสไตล์ยุโรปหลากหลายมากครับ บางแบบก็ไม่เคยลองทานที่ไทยเลย และที่สำคัญมีเนื้อหลากหลายส่วน เปิดหูเปิดตามากครับๆ สำหรับใครที่อยากเห็นวิว Landmark ชัดๆ ผมขอแนะนำที่นี่ครับ London Marriott Hotel County Hall ติดริมแม่น้ำเทมส์ รับรองได้วิวสวยคุ้มราคาแน่นอนครับ
วันที่สี่เริ่มกันที่ย่าน Financial District เดินไปริมน้ำจะเจอ Tower Bridge บรรยากาศดีมาก นั่งรถบัสต่อไปอีกนิดที่ Millennium Bridge เดินข้ามแม่น้ำโดยมีโบสถ์ St.Paul สวยๆ เป็น background โบสถ์นี้สวยอลังที่สุดในลอนดอนแล้ว เหมือนเข้าไปอยู่ในหนังสักเรื่องเลยครับ วิวสวย อากาศดี ตกเย็นเข้ามาเดินใจกลางเมืองที่ Trafalgar Square เดินชิลล์ๆ โดยรอบมีประติมากรรมและรูปปั้นมากมายครับ และแวะเข้า National Gallery ดูงานศิลปะกันสักหน่อย
และสุดท้ายวันที่ 5 วันนี้เราเน้นตะลุยกินเก็บตกร้านที่อยากไป มื้อเช้าเริ่มที่ Notting Hill ที่ร้าน Granger & Co. เป็นร้าน brunch เก๋ๆ ฟีล Londoner มากๆ ไปกินขนมหวานต่อที่ร้านชีสเค้กชื่อดังอย่าง Cakes & Bubbles นั่งข้างนอกถ่ายรูปสวยสุดๆ ตรงนี้คือ Regent Street ถนนที่สวยสุดในลอนดอนเลย ตอนฟ้ามืดเปิดไฟสวยมากๆ ส่วนมื้อเย็นวันนี้ก็ไปกินร้าน Bancone พาสต้ามิชลินไกด์ก่อนจบทริปครับ ใครที่ชอบเมืองที่ aesthetic เรียบง่าย มีสไตล์ขอแนะนำเลยครับ แต่อย่าลืมว่ามาลอนดอน เช็คสภาพอากาศดีๆ นะครับ ขึ้นชื่อว่าฝนตกตลอดทั้งปีเลย ส่วนทริปหน้าจะเป็นที่ไหน ฝากติดตามกันด้วยครับผม