Skip to content

ปักหมุดเที่ยวสงกรานต์ 2567 | อีเวนต์สงกรานต์แบบฉ่ำๆ ทั่วไทย

ปักหมุดเที่ยวสงกรานต์ 2567 | อีเวนต์สงกรานต์แบบฉ่ำๆ ทั่วไทย

ถึงเดือนเมษายนทีไร แม้อากาศจะร้อนแค่ไหน แต่คนไทยก็คึกคักกันได้ทุกที เพราะนี่คือช่วงเวลาแห่งเทศกาลสงกรานต์ ที่เราจะได้เที่ยวกันฉ่ำและเล่นน้ำกันแบบจุกๆ ซึ่งปีนี้พิเศษกว่าทุกปีด้วย เพราะถือเป็นสงกรานต์ปีแรกหลังจากยูเนสโกประกาศให้วันสงกรานต์เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของโลก เพราะฉะนั้นเราเลยอยากชวนทุกคนมาเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลที่ก้าวสู่ระดับโลกอย่างเป็นทางการ กับงานอีเวนต์ที่ทั่วประเทศพร้อมใจกันจัดแบบเต็มแม็กซ์ถึง 21 วัน (1–21 เม.ย. 2567) ภายใต้ชื่อธีมงานใหญ่ๆ ว่า “Maha Songkran World Water Festival เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์ 2567” ซึ่งเรารวมลิสต์มาให้แล้ว เล็งพิกัด ปักหมุด จองที่พัก เอฟปืนฉีดน้ำซักกระบอก แล้วไปเปียกด้วยกันเลย

สงกรานต์กรุงเทพ-ข้าวสาร

ไฮไลต์สงกรานต์ในกรุงเทพ

ถนนข้าวสาร

ถ้าพูดถึงสงกรานต์ใน กรุงเทพ แลนด์มาร์กห้ามพลาดเลยก็คือ ถนนข้าวสาร เมืองหลวงแห่งสงกรานต์อย่างแท้จริง ที่นี่เน้นเล่นน้ำแบบจริงจังสุดๆ ตลอด 3 วันเต็ม (13-15 เม.ย.) อยากแนะนำให้แต่งตัวแบบพร้อมเปียกตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วไปลองลุยสักครั้งในชีวิต

ลานคนเมือง

ไหนๆ ก็ไปสาดน้ำที่ถนนข้าวสารแล้ว ไม่ไกลกันยังมีอีกหนึ่งอีเวนต์ที่จัดพร้อมกันบริเวณ ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพฯ จุดนี้มีพระพุทธสิหิงค์ให้ไปไหว้เสริมสิริมงคลรับปีใหม่กัน รวมถึงกิจกรรมตักบาตรตอนเช้า รดน้ำขอพรผู้สูงอายุ อีกสีสันคือตลาดโบราณที่จะมีร้านค้าต่างๆ นำของเล่นไทยโบราณ สินค้าที่เป็นมรดกทางภูมิปัญญามาให้เราช้อปกัน ความเก๋ของอีเวนต์ตรงนี้คือมีเดรสโค้ดเป็นเสื้อผ้าลายดอก ดังนั้นรื้อตู้เสื้อผ้ารอได้เลย

คลองผดุงกรุงเกษม

แลนด์มาร์กน้องใหม่มาแรงต้องยกให้คลองผดุงกรุงเกษมเพราะปีก่อนเขาจัดงาน “สงกรานต์ @คลองผดุง (คน) กรุงเกษม” ไปแล้วประสบความสำเร็จสุดๆ ความดีงามนอกจากกิจกรรมสงกรานต์ริมคลองที่เพิ่งรีโนเวตพื้นที่ไปหมาดๆ แล้ว งานสงกรานต์ที่นี่ยังเดินทางสะดวกสุด เพราะนั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่ หัวลำโพง ได้เลย อีกกิมมิกเล็กๆ ที่อยากแนะนำนอกจากเล่นน้ำ คือมาตามเก็บภาพฝาท่อสวยๆ บริเวณนี้เป็นที่ระลึกกันได้

ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

ใครอยากเล่นน้ำไปด้วย ดื่มด่ำกับวิวสวยๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาไปด้วย เราแนะนำให้ล็อกเป้าไว้ที่ ไอคอนสยาม อีกแลนด์มาร์กที่ครบเครื่องสุดๆ เพราะนอกจากพื้นที่เล่นน้ำแล้ว ยังมีกิจกรรมสรงน้ำพระ และการแสดงทางวัฒนธรรม แล้วด้วยความเป็นห้างทำให้มีทั้งอาหารแก้หิว มีอุปกรณ์เล่นน้ำขาย มีที่นั่งพัก และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มาที่เดียวสนุกได้เช้ายันค่ำ งาน “The Iconic Songkran Festival 2024” จัดตั้งแต่ 10-21 เม.ย. (แต่เล่นน้ำริมเจ้าพระยาได้แค่ 10-16 เม.ย.นะ) อีกแลนด์มาร์กริมน้ำเจ้าพระยาคือ เอเชียทีค ซึ่งเปิดให้เข้าไปเล่นน้ำ ร่วมกิจกรรมวันสงกรานต์ช่วงเย็นๆ ตั้งแต่ 13-15 เม.ย.

สยามสแควร์ | เซ็นทรัลเวิลด์ | สีลม | สามย่านมิตรทาวน์

ใจกลางเมืองกรุงเทพมีอีเวนต์สงกรานต์กระจายตัวเป็นย่อมๆ ที่จัดพื้นที่ให้เราเล่นน้ำกันแบบจุกๆ 3 วันเต็ม (13-15 เม.ย.) เริ่มที่ สยามสแควร์ แหล่งเล่นน้ำที่วัยรุ่นทั่วไทยและทั่วโลกมารวมตัวกันโดยไม่ได้นัดหมายเสมอ ขยับไปอีกนิดก็จะเป็นงานสงกรานต์บริเวณลานด้านหน้า เซ็นทรัลเวิลด์

อีกหนึ่งพิกัดเล่นน้ำที่เพิ่งจัดได้ไม่กี่ปี แต่ปังทุกปี นั่นคือ สามย่านมิตรทาวน์ ปีนี้จัดงานวันที่ 13-15 เม.ย. 67 นอกจากจะสาดน้ำได้เต็มที่แล้ว ยังมีฟรีคอนเสิร์ต 3 วันรวด

ปิดท้ายสงกรานต์ย่านกลางเมืองกันที่ สีลม ซึ่งทุกปีชาว LGBTQ+ จะมารวมพลกันที่นี่แล้วฉีดน้ำกันเพลินๆ ตั้งแต่ต้นถนนสีลมจนสุดปลายสาย โหลดน้ำไว้ให้เต็มกระบอกแล้วฉีดรัวๆ ยาวๆ ไปเลย

พระรามเก้า

ใครเป็นสายตื๊ดสายแดนซ์ เรามี Songkran Music Festival มาแนะนำ 2 งาน ซึ่งจัดในย่าน พระรามเก้า และเปิดขายบัตรแล้วทั้งคู่ งานแรกคือ “Pepsi presents S2O Songkran Music Festival 2024” จัดแบบมาราธอนยาวๆ ตั้งแต่ 16.00 น. ของวันที่ 13 เม.ย. ถึง 23.59 น.วันที่ 15 เม.ย. ที่ Live Park พระราม 9 (ต้องอายุเกิน 20 ปีถึงจะเข้าได้) อีกงานคือ “Siam Songkran Music Festival 2024” จัดที่ RCA Central Park 4 วัน (12 – 15 เม.ย.) ทั้ง 2 งานนี้จะมีดีเจดังจากทั่วโลกผลัดกันมาสร้างความบันเทิงกลางสายน้ำ ให้เราเล่นน้ำไป แดนซ์ไปแบบมันๆ

Thunderdome Stadium

ยังมีงานสงกรานต์สำหรับสายปาร์ตี้อีกหนึ่งที่ นั่นคืองาน Water Bomb Bangkok 2024 ณ Thunderdome ใน เมืองทองธานี เล่นน้ำในร่ม พร้อมดูคอนเสิร์ตจากศิลปินดังระดับโลกตลอด 2 วัน (13-14 เม.ย.)

สงกรานต์อยุธยา

ไฮไลต์สงกรานต์ภาคกลาง

จังหวัดอ่างทอง

อ่างทอง คืออีกจังหวัดที่จัดงานสงกรานต์ได้สุดทุกปี กับงาน “มหาสงกรานต์ เฟสติวัล 2024” บริเวณถนนข้าวสุก ตั้งแต่แยก วิเศษชัยชาญ แล้วเลียบคลองชลประทานยาวไปอีก 3 กิโลเมตรเต็มๆ จะเลือกเดินเล่นน้ำไปชิลล์ๆ ก็ได้ หรือจะโดดขึ้นรถกระบะก็ได้สนุกกับชาวบ้านอีกฟีลหนึ่ง งานนี้จัดตั้งแต่ 13 – 15 เม.ย.

จังหวัดกาญจนบุรี

ใครอยากเล่นสงกรานต์นานหน่อย ให้มา กาญจนบุรี ที่นี่มีงาน “ประเพณีสงกรานต์ชาวมอญสังขละบุรี” ตั้งแต่ 13 – 17 เม.ย. ไฮไลต์ที่ทำให้น่ามาเยือนคือการสรงน้ำพระผ่านรางไม้ไผ่ยาวเหยียด เป็นพิธีท้องถิ่นที่ชาวบ้านจะออกมารวมตัวอีกทุกปี ซึ่งทำเลจัดงานก็ตามชื่อเลย คือที่ สังขละบุรี

จังหวัดอยุธยา

งานสงกรานต์ประจำปีนี้ของ อยุธยา มาในชื่อแสนจะมงคลว่า “อยุธยามหาสงกรานต์ สนุก สุข ศักดิ์สิทธิ์” มาพร้อมกิจกรรมแน่นเว่อร์ ทั้งขบวนแห่พระคู่บ้านคู่เมืองให้ประชาชนได้สรงน้ำ ขบวนแห่นางสงกรานต์ กิจกรรมรดน้ำขอพรปีใหม่ผู้สูงอายุ ปิดท้ายด้วยการเล่นน้ำแบบจัดเต็ม งานนี้จัดแค่วันเดียวคือ 13 เม.ย. บริเวณพื้นที่เกาะเมือง ส่วนอีกหนึ่งงานที่พลาดไม่ได้คือ “งานสงกรานต์เล่นน้ำกับช้าง” ซึ่งจะจัดขึ้น ณ บริเวณถนนศรีสรรเพชญ์ เตรียมสนุกกับกิจกรรมสงกรานต์กันให้เต็มอิ่ม และเตรียมแต่งชุดไทยไปเล่นสาดน้ำกับน้องๆ ช้างสุดน่ารักจากวังช้างอยุธยา แล เพนียดกันได้ รับรองว่างานนี้คึกคักแน่นอน

จังหวัดสุพรรณบุรี

สุพรรณบุรี เป็นอีกจังหวัดที่มีชาวบ้านออกมาเล่นน้ำกันตามถนนหนทางทั่วเมืองตั้งแต่วันที่ 13-15 เม.ย. แต่ไฮไลต์อยู่ที่ถนนอาทิวราห์ อำเภอเมือง ที่มีขบวนแห่สุดอลังการ กับการประกวดเทพีสงกรานต์ประจำจังหวัดในวันที่ 13 เม.ย.

จังหวัดสมุทรสงคราม

สงกรานต์ไม่ใช่ประเพณีที่มีแต่การเล่นน้ำเท่านั้น ใครที่อยากลองเปลี่ยนบรรยากาศพาครอบครัวเที่ยวงานสงกรานต์แบบร่มรื่นเย็นใจ เป็นสงกรานต์เชิงวัฒนธรรมอันงดงามจริงๆ อยากให้ปักหมุดตรง “อุทยาน ร.2” ที่ อัมพวา จังหวัด สมุทรสงคราม เพราะที่นี่มีกิจกรรมแบบพื้นบ้านที่หาดูที่อื่นไม่ได้เต็มไปหมด เช่น การแสดงละครชาตรีโบราณ การแห่กลองยาว การบรรเลงปี่พาทย์และดนตรีไทยจากเยาวชนท้องถิ่น และขาดไม่ได้กับการสรงน้ำพระ รวมถึงรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ รับพรดีๆ เอาฤกษ์เอาชัยในปีใหม่ไทย

จบจากงานสงกรานต์เชิงวัฒนธรรมจ๋าแล้ว เปลี่ยนฟีลไปอีกขั้วในจังหวัดเดียวกันกับ “แม่กลองสะเทือน ปลาทูสะดุ้ง Songkran Music Festival 2024” เทศกาลดนตรีแบบเปียกๆ 6 วันเต็ม ตั้งแต่ 12-17 เม.ย ที่เปิดขายบัตรแล้วเรียบร้อยแล้ว งานจัดที่ลานหน้าร้านทริปเปิ้ลทอยส์ ติดถนนบายพาสหลังโรงเรียนสารสาสน์ งานนี้นอกจากจะมีดีเจมาเปิดเพลงสร้างสีสันแล้ว ยังมีคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังของเมืองไทยด้วย

จังหวัดสมุทรปราการ

ทุกๆ ปี สงกรานต์ของ สมุทรปราการ จะมาช้าหน่อย แต่มาชัวร์! ซึ่งงานใหญ่ประจำปีจะจัดขึ้นที่ พระประแดง ในวันที่ 21 เม.ย.นี้ เป็นเทศกาลสำคัญมากของชาวไทยเชื้อสายมอญที่จะมารวมตัวกันฉลองปีใหม่ไทย งานนี้มีทั้งขบวนแห่นางสงกรานต์ การละเล่นพื้นบ้าน (สะบ้า) การประกวดนางกรานต์กับหนุ่มลอยชาย ซึ่งสร้างสีสันให้งานสงกรานต์พระประแดงทุกๆ ปี

จังหวัดนครปฐม

ขับรถยิงตรงจากกรุงเทพไปตามถนนเส้นเพชรเกษมแป๊บเดียวก็ถึง นครปฐม แล้ว นี่เป็นอีกจังหวัดที่น่าไปเที่ยวช่วงสงกรานต์ เขาจัดงานตั้งแต่ 13-17 เม.ย. บริเวณรอบๆ องค์ พระปฐมเจดีย์ ส่วนกิจกรรมก็มีทั้งเล่นน้ำ ก่อเจดีย์ทราย สรงน้ำพระ รวมถึงโชว์จากวงโยธวาทิต ขบวนแห่นางสงกรานต์ การแสดงดนตรี ฯลฯ

จังหวัดสิงห์บุรี

ชวนเพื่อนๆ ไปนุ่งโจง ห่มสไบ แล้วชวนกันไปร่วมงานสงกรานต์แบบวิถีชาวบ้านบางระจันกันที่งาน “สงกรานต์บ้านระจัน” ในจังหวัด สิงห์บุรี กิจกรรมในงานนี้ก็น่าสนใจไม่แพ้จังหวัดไหนๆ ทั้งขบวนแห่สงกรานต์วิถีโบราณ พิธีสรงน้ำพระอาจารย์ธรรมโชติ รวมถึงชมประเพณีไทยโบราณสมัยบ้านบางระจัน ใครอยู่สิงห์บุรีอย่าลืมไปร่วมจอยกันได้ที่วัดโพธิ์เก้าต้น และตลาดไทยย้อนยุคบางระจันได้ตั้งแต่วันที่ 13-15 เม.ย.

สงกรานต์เชียงใหม่

ไฮไลต์สงกรานต์ภาคเหนือ

จังหวัดเชียงใหม่

อีกแลนด์มาร์กห้ามพลาดของเทศกาลสงกรานต์ คือ เชียงใหม่ เพราะขึ้นชื่อเรื่องความสนุกแบบคูณแสนคูณล้าน โดยเฉพาะบริเวณคูเมืองตรง ประตูท่าแพ ที่มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเต็มพื้นที่สองข้างทางเสมอ ส่วนบนถนนก็จะเป็นรถกระบะบรรทุกน้ำเต็มถังคอยสาดคอยฉีดน้ำไปตลอดทาง เป็นส่วนหนึ่งของ “ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง” หรือ “ประเพณีปีใหม่เมือง” ที่จัดขึ้นวันที่ 12-15 เม.ย.ของทุกปีนั่นเอง

อีกหนึ่งอีเวนต์ใหญ่ประจำสงกรานต์ของเชียงใหม่ คืองาน Water War Chiang Mai 2024 หรือเทศกาลดนตรีสาดน้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ จัดที่ เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต งานนี้มีศิลปินดังของไทยมารวมตัวกันมากมาย รวมถึงโปรดักชั่นสุดอลังการทั้งแสง สี เสียง และเอฟเฟกต์ฉีดน้ำสูงกว่า 20 เมตร ที่รับประกันว่าได้เปียกสมใจแน่ๆ ไม่ว่าจะยืนดูคอนเสิร์ตตรงจุดไหนก็ตาม

จังหวัดลำปาง

“สลุงหลวงกลองใหญ่” คืองานสงกรานต์ที่ใหญ่ที่สุดประจำจังหวัด ลำปาง ซึ่งปีนี้จะสตาร์ตตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย. โดยมีกิจกรรมเชิงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น การแสดงแสง สี เสียง อัดแน่นไปจนถึงวันที่ 13 เม.ย. ซึ่งเป็นวันปีใหม่เมือง ก็จะมี “ขบวนแห่ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองนครลำปาง” สุดยิ่งใหญ่ปิดท้ายเทศกาล โดยงานทั้ง 7 วันจัดขึ้นใน 3 โลเคชั่นหลักคือมิวเซียมลำปาง วัดปงสนุก และ ข่วงนครห้าแยกหอนาฬิกา

จังหวัดสุโขทัย

สายประวัติศาสตร์ต้องหาวันมาเที่ยวงานสงกรานต์ที่ สุโขทัย ให้ได้สักครั้ง เพราะ “งานประเพณีสรงน้ำโอยทาน สงกรานต์ศรีสัชนาลัย” จัดขึ้นตามบันทึกบนศิลาจารึกเลย พิกัดการจัดงานอยู่ที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระยาลิไท และ อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย นอกจากพิธีสรงน้ำตามประเพณีแล้ว ยังมีการแสดงดนตรีและเทศกาลอาหารให้สายกินได้ฟินกันด้วย

จังหวัดแพร่

ช่วงวันสงกรานต์ 13-15 เม.ย.อาจไปเที่ยวเล่นที่อื่นกันก่อนได้ แต่พอเข้าวันที่ 16 เม.ย. ปุ๊บ มาเช็กอินที่ แพร่ ได้เลย เพราะจังหวัดนี้มีทีเด็ดอยู่ตรงประเพณีสงกรานต์เด่นชัย ของอำเภอ เด่นชัย ที่ชาวบ้านจะพร้อมใจกันใส่ชุดพื้นเมือง (ม่อฮ่อม) ออกมาเล่นน้ำกันบริเวณถนนรอบๆ สถานีรถไฟเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร

จังหวัดพิษณุโลก

เรื่องสงกรานต์ ชาวสองแคว พิษณุโลก ก็ยืนหนึ่งไม่แพ้กัน งาน “ถนนเล่นน้ำสงกรานต์วิถีไทยสองแคว” ประจำปี 2567 จะจัดขึ้นในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก และยังจัดเต็มเรื่องความสนุกเหมือนเดิม ทุกๆ ปีจะมีการรณรงค์ให้ประชาชนสวมใส่ผ้าไทยหรือเสื้อลายดอกแล้วออกไปเล่นน้ำ ปีนี้พิเศษเพราะสามารถสนุกกันให้ฉ่ำใจได้ตั้งแต่วันที่ 9-15 เม.ย. นี้เลย

สงกรานต์ภูเก็ต

ไฮไลต์สงกรานต์ภาคใต้

จังหวัดภูเก็ต

ในเมื่อทะเลเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ ประจำซัมเมอร์อยู่แล้ว ก็ถือโอกาสเที่ยวทะเลด้วย เล่นสงกรานต์ด้วยไปเลยที่ ภูเก็ต ซึ่งทุกปีจะมีงาน “อันดามัน สงกรานต์เฟสติวัล ภูเก็ต” อยู่แล้ว รวมถึงมีแลนด์มาร์กสำหรับเล่นน้ำกระจายตัวอยู่ทั่วจังหวัด ทั้ง หาดป่าตอง ถนนบางลา และ สะพานหิน

จังหวัดสงขลา

ใครมีแพลนไปเที่ยวภาคใต้ อยากชวนแวะสาดน้ำรับสงกรานต์กันที่ สงขลา ซึ่งปีนี้ทางจังหวัดจะจัดงานวันที่ 13-14 เม.ย. บริเวณถนนสะเดา (ติดสวนสาธารณะเมืองสงขลา)

อีกทำเลในสงขลาที่มีเทศกาลสงกรานต์แบบสุดเหวี่ยงทุกปีคือ หาดใหญ่ กับงาน “Hatyai Midnight Songkran” ที่เราจะได้เล่นน้ำกันแบบไม่ต้องกลัวแดด แล้วก็สนุกกับปาร์ตี้โฟมได้อีกต่างหาก เป็นอีกหนึ่งอีเวนต์ที่การันตีว่าประทับใจชัวร์

จังหวัดนครศรีธรรมราช

“เทศกาลมหาสงกรานต์ แห่นางดานเมืองนครศรีธรรมราช” ถือเป็นงานใหญ่ประจำทุกๆ ปีของจังหวัด นครศรีธรรมราช เลย 2 ไฮไลต์เด็ดซึ่งมีที่นี่ที่เดียวคือ “พิธีแห่นางดาน” ประเพณีเก่าแก่ของจังหวัด กับพิธีตักน้ำศักดิ์สิทธิ์จาก 6 แหล่งน้ำในจังหวัดมารวมกันในขันใบประวัติศาสตร์ที่ร.5 เคยใช้สรงน้ำในอดีต จบจากพิธีสำคัญแล้วก็ได้เวลาเล่นน้ำให้ชุ่มสมใจอยากตามถนนหนทางในตัวเมือง

สงกรานต์ภาคตะวันออก-ประเทศไทย

ไฮไลต์สงกรานต์ภาคตะวันออก

จังหวัดฉะเชิงเทรา

“สงกรานต์แปดริ้ว” ของ ฉะเชิงเทรา จัดขึ้นช่วงวันที่ 12-15 เม.ย. ของทุกปีตรง ศาลากลางจังหวัด นอกจากพิธีสรงน้ำพระ กิจกรรมเล่นน้ำปะแป้งแล้ว ที่เมืองแปดริ้วยังมีขบวนแห่หลวงพ่อโสธร (องค์จำลอง) พระคู่บ้านคู่เมืองให้นักท่องเที่ยวและชาวบ้านได้สักการะเสริมสิริมงคลด้วย

จังหวัดชลบุรี

สำหรับคนที่วันลาเหลือเฟือ ยื่นใบลายาวๆ แล้วมาฉลองสงกรานต์แบบวันเว้นวันกันได้เลยที่ ชลบุรี เพราะนี่เป็นอีกหนึ่งตัวท็อปด้านสงกรานต์ เริ่มจากเมืองท่องเที่ยวอย่าง พัทยา ที่จัดงานยาวๆ ตั้งแต่ 13 เม.ย. ไปจนถึงช่วงวันไหล (ราวๆ 5-6 วันหลังสงกรานต์) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อีกหลายพื้นที่ในชลบุรีก็จัดงานวันไหลเช่นกัน อาทิงานวันไหลบางแสน (16 – 17 เม.ย.), ลานโพธิ์นาเกลือ (ประมาณวันที่ 18 เม.ย.), และวันไหลที่ บ้านบึง (ประมาณวันที่ 21-23 เม.ย.) เรียกได้ว่ามาจังหวัดเดียว อยู่เที่ยวเล่นได้ตั้งแต่ช่วงสงกรานต์ไปจนถึงอีก 1 สัปดาห์หลังสงกรานต์

สงกรานต์สุรินทร์

ไฮไลต์สงกรานต์ภาคอีสาน

จังหวัดขอนแก่น

ถ้ากรุงเทพมีถนนข้าวสารเป็นผู้นำด้านสงกรานต์ ขอนแก่น ก็มี ถนนข้าวเหนียว เป็นท่านผู้นำเช่นกัน ซึ่งปีนี้ทางจังหวัดจะจัดงานตั้งแต่วันที่ 8-15 เม.ย. และกิจกรรมที่ขาดไม่ได้ของงานสงกรานต์บนถนนข้าวเหนียวคือการทำ Human Wave หรือคลื่นมนุษย์ ที่เคยสร้างสถิติการเล่นเวฟที่ยาวนานที่สุดในโลกลงในกินเนสบุ๊กมาแล้ว!

แต่ถ้าใครอยากซึมซับประเพณีสงกรานต์แบบดั้งเดิมจริงๆ อยากให้ลองไปสัมผัสงานสงกรานต์ที่วัดไชยศรี บ้านสาวะถี เพราะที่นี่มีกิจกรรมไล่เรียงไปตั้งแต่ตักบาตรตอนเช้า บายศรี แห่ดอกไม้ ก่อเจดีย์ทราย สรงน้ำพระ และขอพรผู้หลักผู้ใหญ่ในชุมชน เป็นสงกรานต์อีกฟีลที่จะได้เย็นใจจริงๆ แบบไม่ต้องพึ่งให้คนอื่นมาสาดน้ำเลย

จังหวัดนครพนม

13-15 เม.ย.นี้ จังหวัด นครพนม จัดงานสงกรานต์แบบยิ่งใหญ่อีกครั้งกับงานประเพณีสงกรานต์ถนนข้าวปุ้นประจำปี เริ่มต้นเช้าวันขึ้นปีใหม่ไทยด้วยการตักบาตร ตอนกลางวันไปเล่นน้ำกันตรงถนนสุนทรวิจิตร ริมแม่น้ำโขง ก่อนจะจบวันด้วยการชมการแสดงแสงสีเสียงยามค่ำคืน

จังหวัดสุรินทร์

ด้วยความที่ สุรินทร์ เป็นเมืองแห่งช้าง งานสงกรานต์ของจังหวัดนี้เลยมีกิมมิกอยู่ที่การเล่นน้ำกับช้างนี่แหละ ซึ่งไม่ต้องกลัวอันตราย เพราะเป็นช้างที่ผ่านการฝึกมาอย่างดี และมีควาญช้างคอยประกบให้เราเล่นสงกรานต์กันได้แบบสนุกสนานไร้กังวล

จังหวัดอุบลราชธานี

งานสงกรานต์ที่ใหญ่สุดใน อุบลราชธานี ต้องยกให้ Ubonratchathani Songkran Festival 2024 มหกรรมความสนุกสุดเปียก ที่ปีนี้จะจัดขึ้นวันที่ 12-16 เม.ย. ณ เซ็นทรัลพลาซ่า อุบลราชธานี ซึ่งในงานจะมีคอนเสิร์ตตลอดทั้ง 5 วันให้เราสาดน้ำกันไป ร้องเพลงไป เต้นไป เก็บเกี่ยวความสุขกันให้ฉ่ำปอดไปเลย

จังหวัดอุดรธานี

ปีนี้ อุดรธานี จัดเต็มกับเทศกาลสงกรานต์ภายใต้ชื่อ “Maha Songkran World Water Festival 2024”สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม ตั้งแต่วันที่ 13-16 เม.ย. ไฮไลต์อยู่ที่ขบวนแห่รถบุพชาติ 28 ขบวน การประกวดนางสงกรานต์ และกิจกรรมทางวัฒนธรรมอีกมากมาย ซึ่งแน่นอนว่ามีการแบ่งโซนไว้ให้นักท่องเที่ยวและชาวบ้านเข้าไปเล่นน้ำกันได้แบบเต็มที่

จังหวัดหนองคาย

“งานมหาสงกรานต์ อีสานหนองคาย” งานสงกรานต์ประจำปีของ หนองคาย จะจัดอย่างยิ่งใหญ่ตั้งแต่วันที่ 12-18 เม.ย. ปีนี้มีกิจกรรมไฮไลต์คือ “สงกรานต์ผ้าขาวม้า สมมาหลวงพ่อพระใส” เตรียมไปสรงน้ำพระ เสริมสิริมงคล แล้วเล่นน้ำกันให้สะใจได้เลย

จังหวัดบุรีรัมย์

บุรีรัมย์ เค้าก็จัดงานสงกรานต์หลากหลายสถานที่ แต่ไฮไลต์ที่ห้ามพลาดคือ “งานสืบสานประเพณีสงกรานต์แห่ผ้าขึ้นภูเขาไฟ ไหว้พระใหญ่” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 13-14 เม.ย. ณ วนอุทยานเขากระโดง อีกหนึ่งงานที่น่าสนใจไม่แพ้กันคืองาน “ก่อเจดีย์ทราย เทศกาลสงกรานต์ย้อนยุคงานวัด วัดกลางพระอารามหลวง” ใครสะดวกที่ไหน ไปงานนั้นเลย หรือจะไปทั้งสองงานก็ไม่ว่ากัน

ทั้งหมดนี้คือไฮไลต์งานสงกรานต์ประจำภาคประจำจังหวัดต่างๆ ของประเทศไทย ซึ่งยังมีงานเล็กๆ อยู่อีกมากมายทั่วประเทศ เตรียมเสื้อผ้าชุดที่พร้อมเปียกสุดๆ แล้วหาพิกัดที่สะดวก จากนั้นไปสนุกกับกิจกรรมดีๆ เหล่านี้เพื่อร่วมฉลองในประเพณีที่ก้าวขึ้นมาเป็นมรดกของโลกกัน

บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

เสน่ห์ของเซี่ยงไฮ้: ที่เที่ยวยอดนิยม ของกินห้ามพลาด และเคล็ดลับการเดินทาง

เสน่ห์ของเซี่ยงไฮ้: ที่เที่ยวยอดนิยม ของกินห้ามพลาด และเคล็ดลับการเดินทาง

เมื่อกล่าวถึงประเทศจีน ภาพหลากหลายจะปรากฏขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมโบราณที่เต็มไปด้วยความงามและประวัติศาสตร์ยาวนาน เมืองใหญ่ที่มีตึกระฟ้า และอาหารอร่อย ตั้งแต่ร้านข้างทางไปจนถึงภัตตาคารหรู เซี่ยงไฮ้ ผสมผสานทุกองค์ประกอบเหล่านี้เข้าด้วยกันเป็นมหานครที่เจริญรุ่งเรือง

ท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน สัมผัสกับธรรมชาติอันอุดมและวัฒนธรรมอันหลากหลายในเฮียวโกะ

ท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน สัมผัสกับธรรมชาติอันอุดมและวัฒนธรรมอันหลากหลายในเฮียวโกะ

จังหวัดเฮียวโกะ ดินแดนที่มีภูมิทัศน์อันหลากหลายและได้ชื่อว่าเป็น “ประเทศญี่ปุ่นย่อส่วน” มีวัฒนธรรม อาหารการกิน และระบบนิเวศอันโดดเด่นให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสไปพร้อมกับผ่อนคลายทั้งกายและใจ บทความนี้จะพาทุกคนไปสำรวจถิ่นที่อยู่ของนกกระสาโคโนะโทริที่เป็นนกพันธุ์หายากในโลก สัมผัสประสบการณ์เซน และเพลิดเพลินกับร้านอาหาร farm-to-table บนเกาะอาวาจิ เพื่อฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจ รวมถึงผลิตภัณฑ์ “Made in Hyogo” ที่มีเอกลักษณ์มากมาย เช่น เสื้อผ้าสวมใส่สบายที่ผลิตจากผ้าทอ Banshu-ori แบบดั้งเดิมของ เมืองนิชิวากิ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับเป็นของฝาก เมืองโทโยโอกะ จังหวัดเฮียวโกะ เมืองที่คนและนกกระสาโคโนะโทริสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน นกกระสาโคโนะโทริที่โผบินลงมาที่รังนกเทียม ในอดีต นกกระสาโคโนะโทริ (Oriental White Storks) สูญพันธุ์ไปจากญี่ปุ่นเนื่องจากการสูญเสียแหล่งอาหารตามธรรมชาติ เช่น กบ ซึ่งเกิดจากการใช้ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลง ที่ เมืองโทโยโอกะ จังหวัดเฮียวโกะ ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยสุดท้ายของนกกระสาชนิดนี้ ได้ริเริ่มแผนส่งเสริมการนำกระสาโคโนะโทริกลับคืนสู่ธรรมชาติเป็นครั้งแรกของโลกในปี 2003 โดยการฟื้นฟูแม่น้ำ พื้นที่เกษตรกรรม และป่า “ซาโตยามะ” (พื้นที่รอยต่อระหว่างป่าและบริเวณที่มีคนอยู่อาศัย) และเมืองโทโยโอกะก็ประสบความสำเร็จในการปล่อยนกกระสาโคโนะโทริกลับคืนสู่ธรรมชาติในปี 2005 “สวนนกกระสาโคโนะโทริ จังหวัดเฮียวโกะ” แหล่งที่อยู่อาศัยของนกกระสาโคโนะโทริจำนวนมาก ณ เดือนสิงหาคม ปี […]

สำรวจรากเหง้าของเฮียวโกะบนเส้นทางสู่ Expo 2025 - ดินแดนแห่งการเริ่มต้นสู่อนาคต

สำรวจรากเหง้าของเฮียวโกะบนเส้นทางสู่ Expo 2025 - ดินแดนแห่งการเริ่มต้นสู่อนาคต

จังหวัดเฮียวโกะ คือดินแดนที่โอบล้อมด้วยทะเลและขุนเขา ที่นี่เต็มไปด้วยเมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตั้งแต่เมืองท่าอย่าง โกเบ ที่ทันสมัยไปจนถึง เมืองน้ำพุร้อนอาริมะ ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและตั้งอยู่ตรงเชิง เขาร็อคโค หนึ่งในยอดเขาชื่อดังของญี่ปุ่น (Hyakumeizan) นอกเหนือจากเสน่ห์ที่แตกต่างกันของแต่ละเมืองแล้ว สถานที่เหล่านี้ยังเป็นแหล่งกำเนิดทางวัฒนธรรมที่หล่อหลอมวิถีชีวิตของเฮียวโกะ ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมท่าเรือ วัฒนธรรมน้ำพุร้อน การผลิตสาเก หรือรากฐานตำนานของญี่ปุ่น เมืองแต่ละเมืองมีเรื่องราวความเป็นมาเป็นของตัวเอง และความรู้และคุณค่าที่ส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นมอบข้อมูลเชิงลึกสำหรับการกำหนดอนาคต มรดกที่คงอยู่ยาวนานเหล่านี้สะท้อนถึงธีมของงาน Expo 2025 โอซาก้า คันไซ ซึ่งก็คือ “ออกแบบสังคมแห่งอนาคตเพื่อชีวิตของเรา” การได้สัมผัสกับต้นกำเนิดของจังหวัดเฮียวโกะด้วยตัวเองจะเพิ่มมิติและความหมายใหม่ๆ ให้กับการมาเยี่ยมชมงาน Expo ของคุณ​ ท่าเรือที่หล่อหลอมเมืองและวัฒนธรรมสากลอันโดดเด่นของโกเบ ทิวทัศน์ที่มองจากโกเบฮาร์เบอร์แลนด์ นับตั้งแต่การเปิดท่าเรือในปีค.ศ. 1868 โกเบได้กลายเป็นประตูสู่เส้นทางการค้าของยุโรป และเป็นจุดหลอมรวมของอิทธิพลจากตะวันตก พ่อค้าชาวยุโรปได้สร้างที่พักอาศัยและศูนย์กลางการค้าในเมือง ทำให้เกิดการผสมผสานวัฒนธรรมตะวันตกที่ยังคงเป็นเอกลักษณ์มาจนถึงทุกวันนี้ บริเวณริมน้ำของท่าเรือโกเบที่คึกคัก ซึ่งปัจจุบันเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศ ยังเป็นที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น สวนเมริเคน (Meriken Park) และ โกเบฮาร์เบอร์แลนด์ (Kobe Harborland) อดีตเรือนต่างชาติหมายเลข 15 ของโกเบ (Kobe Former Foreign […]

ทริปเที่ยวเฮียวโกะ: เชื่อมโยงกับผู้คนและวัฒนธรรมท้องถิ่น

ทริปเที่ยวเฮียวโกะ: เชื่อมโยงกับผู้คนและวัฒนธรรมท้องถิ่น

จังหวัดเฮียวโกะ ตั้งอยู่ใกล้เกียวโตและโอซาก้า มีแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมมากมายสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เช่น เมืองโกเบ และ ปราสาทฮิเมจิ ภูมิภาคนี้มีทัวร์พร้อมไกด์ภาษาอังกฤษหลากหลายรูปแบบ ที่ช่วยให้นักเดินทางได้เชื่อมโยงกับชุมชนและวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างลึกซึ้ง บทความนี้นำเสนอประสบการณ์การท่องเที่ยวในท้องถิ่นที่เฉลิมฉลองเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่ ตั้งแต่เมืองน้ำพุร้อนชื่อดังอย่าง อาริมะ และยูมุระ ไปจนถึงเมืองท่าแบบดั้งเดิมอย่างชิโอยะในโกเบ และแหล่งประวัติศาสตร์ที่กระจายตัวอยู่ทั่ว อาซาโกะ ซึ่งการได้เชื่อมโยงสัมผัสกับคนท้องถิ่นจะยิ่งทำให้ประสบการณ์การท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้น่าประทับใจขึ้นไปอีก สัมผัสประสบการณ์วัฒนธรรมยุกาคิและพูดคุยกับคุณยายที่ยุมุระออนเซ็น “อารายุ” ตั้งอยู่ใจกลางเมืองยุมุระออนเซ็น ยุมุระออนเซ็นตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดเฮียวโกะ มีแหล่งต้นน้ำอยู่ถึง 63 แห่ง ภายในพื้นที่น้ำพุร้อนขนาดเล็กรัศมีราว 400 เมตร บริเวณต้นน้ำ “อารายุ” ทุกๆ นาทีจะมีน้ำไหลออกมา 470 ลิตร ที่ยุมุระออนเซ็นยังมี “วัฒนธรรมยุกาคิ” คือการใช้น้ำพุร้อนอารายุต้มวัตถุดิบอาหารมาตั้งแต่สมัยโบราณด้วย ซึ่งวัฒนธรรมนี้ถือเป็นรากฐานวัฒนธรรมของที่นี่ ในปัจจุบันก็ยังสืบทอดวัฒนธรรมนี้เรื่อยมาไม่เปลี่ยนแปลง ต้มไข่ใช้เวลาประมาณ 10-11 นาที ไข่ที่ใช้น้ำพุร้อนอารายุต้มจะให้รสสัมผัสชุ่มฉ่ำอ่อนๆ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสวัฒนธรรมยุคากินี้ได้โดยตรง เนื่องจากร้านค้าในท้องถิ่นและ “ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอารายุ” มีจำหน่ายวัตถุดิบที่เตรียมไว้สำหรับการต้มโดยเฉพาะ “Obaa Cafe” คาเฟ่ที่มีพนักงานกระตือรือร้นและสดใสคอยต้อนรับ หากต้องการพูดคุยกับคนท้องถิ่น ขอแนะนำ “Obaa Cafe (คาเฟ่คุณยาย)” ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ […]

ดื่มด่ำกับโลกแห่งอนาคตที่ Expo 2025 ค้นพบญี่ปุ่นยุคปัจจุบันผ่านรสชาติอาหารท้องถิ่นในเฮียวโกะ

ดื่มด่ำกับโลกแห่งอนาคตที่ Expo 2025 ค้นพบญี่ปุ่นยุคปัจจุบันผ่านรสชาติอาหารท้องถิ่นในเฮียวโกะ

​​ในงาน Expo 2025 โอซาก้า คันไซ ผู้เยี่ยมชมสามารถสำรวจเทคโนโลยีแห่งอนาคตและสัมผัสกับวัฒนธรรมอาหารระดับโลกขณะเยี่ยมชมศาลาต่างๆ จากทั่วโลก จุดเด่นสำคัญของงานเอ็กซ์โปนี้คืออาหารอันหลากหลาย ตั้งแต่อาหารนานาชาติที่เสิร์ฟในห้องอาหารอันกว้างขวาง ไปจนถึงศาลาที่จัดแสดงอาหารประจำชาติชั้นดีที่สุด เติมเต็มประสบการณ์การเยี่ยมชมนิทรรศการของคุณด้วยการลิ้มรสชาติของ “ญี่ปุ่นยุคปัจจุบัน” กันได้เลย จังหวัดเฮียวโกะ อยู่ห่างจากสถานที่จัดแสดงนิทรรศการเพียงระยะทางสั้นๆ เป็นแหล่งรวมของอาหารเลิศรสท้องถิ่นอันอุดมสมบูรณ์ที่เกิดจากประเพณีของภูมิภาคและธรรมชาติโดยรอบ ในเมืองต่างๆ เช่น เมืองอากาชิ เมืองฮิเมจิ เมืองทัตสึโนะ เมืองอิซุชิ และ เมืองทัมบะ-ซาซายามะ นักท่องเที่ยวสามารถลิ้มลองอาหารพิเศษประจำภูมิภาคพร้อมกับดื่มด่ำกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเฉพาะตัวของแต่ละพื้นที่อย่างลึกซึ้ง การเดินทางครั้งนี้ ซึ่งเป็นการเดินทางระหว่างอนาคตระดับโลกและปัจจุบันของท้องถิ่น มอบประสบการณ์การเดินทางในญี่ปุ่นที่จะคงอยู่ในความทรงจำไปอีกนานแม้การเดินทางจะสิ้นสุดลงไปแล้ว​ เริ่มเช้าวันใหม่ในฮิเมจิด้วยกาแฟและอัลมอนด์โทสต์ อัลมอนด์บัตเตอร์โทสต์ของซาโบไทริคุ จากฮิเมจิถึงอากาชิ — เริ่มต้นทัวร์ชิมเมนูท้องถิ่น! เมืองฮิเมจิ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากชินโอซาก้าเพียงประมาณ 30 นาทีโดยรถไฟชินคันเซ็น มีชื่อเสียงในเรื่อง “วัฒนธรรมยามเช้า” โดยมีร้านกาแฟสไตล์ย้อนยุคที่เปิดต้อนรับผู้ตื่นเช้าในทุกๆ วัน ว่ากันว่าวัฒนธรรมนี้เริ่มต้นขึ้นเพื่อรองรับแรงงานอุตสาหกรรมที่เฟื่องฟูในพื้นที่ แต่คุณฮาจิเมะ โอคาโมโตะ เจ้าของร้านซาโบไทริคุ ได้กล่าวว่า “สมัยก่อน ทุกคนก็ตื่นเช้ากันทั้งนั้นแหละครับ” ไฮไลต์ยามเช้าของเมืองฮิเมจิก็คือ “อัลมอนด์โทสต์” ซึ่งเป็นขนมปังปิ้งที่ทาด้วย “อัลมอนด์บัตเตอร์” เมนูพิเศษประจำท้องถิ่นที่ประกอบด้วยขนมปังแผ่นหนาอบกรอบ ทาด้วย “อัลมอนด์บัตเตอร์” […]

ทริปดื่มด่ำทัศนียภาพอันงดงามของเฮียวโกะ

ทริปดื่มด่ำทัศนียภาพอันงดงามของเฮียวโกะ

จังหวัดเฮียวโกะ มอบทัศนียภาพอันงดงามมากมาย ทั้งปราสาทโครงสร้างไม้สูงตระหง่านอวดรูปโฉมสีขาวสง่างาม ทัศนียภาพยามราตรีแสนงดงามมูลค่าล้านดอลลาร์ และหนึ่งในน้ำวนขนาดใหญ่ระดับโลก ทิวทัศน์อันน่าทึ่งเหล่านี้สะท้อนถึงความกลมกลืนระหว่างศิลปะของธรรมชาติ ความชาญฉลาดของคนรุ่นก่อน และความทุ่มเทของผู้ที่อนุรักษ์สิ่งเหล่านี้ไว้ในปัจจุบัน ดูที่เที่ยวสุดฮิตใกล้โกเบและเฮียวโกะ เยี่ยมชม “ปราสาทกลางเวหา” ที่โอบล้อมด้วยทะเลหมอกยามเช้าตรู่ปลายฤดูใบไม้ร่วง ปราสาททาเคดะ (เครดิตภาพถ่าย: เมืองอาซาโกะ จังหวัดเฮียวโกะ) ปราสาททาเคดะ ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาโคะโจ เมืองอาซาโกะ จังหวัดเฮียวโกะ เนื่องจากมีลักษณะที่ดูคล้ายเสือกำลังหมอบ ที่นี่จึงมีชื่อเรียกอื่นๆ อีกว่า “ปราสาทโทระฟุสึ” และ “ปราสาทโคงะ” (ปราสาทเสือหมอบ) ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นในช่วงปีค.ศ. 1443 และมีการสร้างกำแพงหินในช่วงปีค.ศ. 1585 โดยกำแพงหินของที่นี่เป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในสภาพสมบูรณ์ ปราสาทแห่งนี้จึงได้รับสมญานามว่าเป็น “มาชูปิกชูของญี่ปุ่น” อุทยานนิโนะมารูกลางทะเลหมอก (เครดิตภาพถ่าย: เมืองอาซาโกะ จังหวัดเฮียวโกะ) ภาพของปราสาททาเคดะซึ่งโอบล้อมด้วยทะเลหมอกที่ลอยฟุ้งขึ้นมาจากแม่น้ำมารุยามะบริเวณเชิงเขาทำให้ที่นี่ได้รับการขนานนามว่า “ปราสาทกลางเวหา” โดยสามารถรับชมทัศนียภาพอันงดงามราวภาพฝันเช่นนี้ได้ตั้งแต่ช่วงพระอาทิตย์ขึ้นจนถึงประมาณ 8 โมงเช้าในวันที่อากาศแจ่มใสเป็นพิเศษในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง นักท่องเที่ยวนิยมชมทิวทัศน์ดังกล่าวจากบริเวณฐานหอคอยปราสาททาเคดะหรืออุทยานธรรมชาติริตสึรินเคียวบนฝั่งภูเขาอาซาโกะที่อยู่ตรงข้าม ทั้งนี้อย่าลืมนำไฟฉาย ชุดกันฝน และอุปกรณ์กันหนาวติดตัวไปด้วย ปราสาทมรดกโลกที่ผสานความงามสง่าและประโยชน์ใช้สอยได้อย่างลงตัว ปราสาทฮิเมจิ หากปราสาททาเคดะคือเสือ ปราสาทฮิเมจิ ก็คือนกกระยางขาว จากสถานีชินโอซากา เดินทางด้วยรถไฟชินคังเซ็นประมาณ 30 […]

การเดินทางในเฮียวโกะ: สัมผัสจิตวิญญาณของญี่ปุ่น

การเดินทางในเฮียวโกะ: สัมผัสจิตวิญญาณของญี่ปุ่น

โรงตีเหล็กดาบญี่ปุ่น คิเคียว ฮายามิตสึ จังหวัดเฮียวโกะ เป็นที่ตั้งของเส้นทางการแสวงบุญที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น นั่นคือการแสวงบุญไซโกะคุกันนอน (Saikoku Kannon Pilgrimage) ค่านิยมหลักที่เป็นรากฐานของจิตวิญญาณญี่ปุ่น นั่นคือการเคารพมารยาทและความชื่นชมในสิ่งต่างๆ ได้รับการฟูมฟักพัฒนาผ่านธรรมชาติและผู้คนที่พบเจอระหว่างการแสวงบุญนี้ ตลอดหลายศตวรรษ ค่านิยมเหล่านี้ได้พัฒนาเป็นรูปแบบและประเพณีที่แตกต่างกัน ซึ่งยังคงมีอยู่ในจังหวัดเฮียวโกะ ออกเดินทางเพื่อสำรวจและค้นพบแก่นแท้ของจิตวิญญาณญี่ปุ่นกันเถอะ ค้นพบแหล่งกำเนิดของจิตวิญญาณญี่ปุ่นที่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในวัดโชชาซันเอ็นเกียวจิ วัดโชชาซันเอ็นเกียวจิ—หอมนิเด็น “ผู้ที่ไปเยือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ 33 แห่งที่อุทิศให้กับพระโพธิสัตว์คันนนั้นจะนำพาไปสู่สวรรค์” นี่คือความเชื่อที่เป็นแนวทางเบื้องหลังการแสวงบุญไซโกะคุกันนอน ซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อเกือบ 1,300 ปีที่แล้วตามคำสอนของเอนมะ พระราชาแห่งโลกหลังความตาย ก่อนที่พระพุทธศาสนาจะได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง กล่าวกันว่าระบบการแสวงบุญเช่นนี้ช่วยให้ชาวญี่ปุ่นฝึกฝนความขยันหมั่นเพียร ความตระหนักรู้ และความเมตตากรุณา วัดโชชาซัน เองเกียวจิ (Shoshazan Engyoji Temple) ใน เมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโกะ ก่อตั้งโดยโชกุ โชนินในปี 966 และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งที่ 27 ของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ไซโงกุ คันนง ตลอดหลายปีที่ผ่านมา วัดแห่งนี้ได้รับการอุปถัมภ์จากราชวงศ์และขุนนาง ตลอดจนการบริจาคจากซามูไรและสามัญชน ปัจจุบัน พื้นที่อันกว้างใหญ่ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 31 เฮกตาร์ และมีห้องโถงและหอคอยที่แตกต่างกัน 30 แห่งกระจายอยู่ทั่วไป […]

เที่ยวเฮียวโกะและเทศกาล Setouchi ชมผลงานชิ้นเอกของธรรมชาติ แล้วไปดื่มด่ำศิลปะร่วมสมัย

เที่ยวเฮียวโกะและเทศกาล Setouchi ชมผลงานชิ้นเอกของธรรมชาติ แล้วไปดื่มด่ำศิลปะร่วมสมัย

เมืองโทโยโอกะ ทางตอนเหนือของ จังหวัดเฮียวโกะ ซึ่งอยู่ห่างจากเกียวโตเพียง 2 ชั่วโมงโดยรถไฟด่วน ถือเป็นสวรรค์แห่งความงามทางธรรมชาติ ซึ่งได้รับการกำหนดให้เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานธรณีโลกซันอินไคกัน (San’in Kaigan) ของยูเนสโก เพราะน้ำทะเลสีฟ้าบริสุทธิ์ หาดทรายขาวที่พร่างพราย และการก่อตัวทางธรณีวิทยาอันน่าทึ่งที่สืบเนื่องมาจากประวัติศาสตร์ของโลก เฮียวโกะมีจุดชมวิวและกิจกรรมต่างๆ มากมายตลอดทั้งปีที่คุณสามารถดื่มด่ำไปกับธรรมชาติได้ ​​หากเดินทางด้วยรถไฟด่วนและรถไฟหัวกระสุนประมาณสี่ชั่วโมงครึ่ง เมืองโทโยโอกะจะพาคุณไปยังหมู่เกาะอันเงียบสงบของทะเลเซโตะใน ซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน Setouchi Triennale 2025 ที่นี่ งานศิลปะร่วมสมัยได้รับการทออย่างเงียบสงบเข้ากับทัศนียภาพของเกาะ โดยรูปทรงของงานศิลปะกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมได้อย่างลงตัว​ ​​จากการออกแบบที่น่าตื่นตาตื่นใจซึ่งรังสรรค์โดยธรรมชาติไปจนถึงการแสดงออกอย่างพิถีพิถันของศิลปินที่ถูกหล่อหลอมโดยสภาพแวดล้อม การพบปะแบบคู่ขนานนี้มอบโอกาสอันหายากที่จะได้เจาะลึกสู่ความอุดมสมบูรณ์ของศิลปะและวัฒนธรรมญี่ปุ่น ฟีเจอร์นี้เน้นที่ด้านธรรมชาติอันน่าดึงดูดใจของการเดินทาง โดยเน้นที่จุดหมายปลายทางที่ต้องไปชมในและรอบๆ โทโยโอกะ​ ค้นหาที่ท่องเที่ยวใกล้เฮียวโกะ น้ำทะเลใสดุจคริสตัลของหาดทาเคโนะ ชายหาดทาเคโนะและคาบสมุทรเนโกะซากิ หาดทาเคโนะตั้งอยู่ภายในอุทยานธรณีซันอินไคกัน และมีชื่อเสียงด้านน้ําทะเลใสเป็นพิเศษ หรือที่เรียกว่า “ทาเคโนะบลู” เนื่องจากน้ำที่ใสแจ๋วจนไม่มีใครเทียบได้ ชายหาดแห่งนี้มีหาดทรายขาวตามธรรมชาติกว่า 1 กิโลเมตร เป็นหนึ่งในหาดที่สวยงามที่สุดในภูมิภาคคันไซ ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจํานวนมากในช่วงฤดูร้อน หาดทาเคโนะมีกิจกรรมทางน้ํามากมาย เช่น ว่ายน้ํา ดําน้ําตื้น พายเรือแคนู ดําน้ําลึก และตกปลา ทําให้เป็นจุดหมายปลายทางที่สมบูรณ์แบบสําหรับนักผจญภัย สําหรับผู้ที่ต้องการเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์เหล่านี้อย่างเต็มที่ ก็ขอแนะนำให้พักค้างคืนที่หาดทาเคโนะ เพราะจะได้สามารถสํารวจสถานที่แห่งนี้ได้อีกในวันรุ่งขึ้น และผ่อนคลายด้วยการไปที่ […]

ออกเดินทางชิมอาหารชั้นเลิศของเฮียวโกะ แล้วไปต่อกับเทศกาลศิลปะ Setouchi Triennale!

ออกเดินทางชิมอาหารชั้นเลิศของเฮียวโกะ แล้วไปต่อกับเทศกาลศิลปะ Setouchi Triennale!

เฮียวโกะล้อมรอบด้วยภูเขาเขียวขจีและทะเลอันงดงาม เป็นแหล่งขุมทรัพย์ของวัตถุดิบระดับพรีเมียมสำหรับอาหารกูร์เมต์ แม้ว่าเนื้อโกเบจะโดดเด่นแต่เฮียวโกะยังเป็นแหล่งอาหารทะเลชั้นยอด เช่น ปูหิมะแดงคาสุมิ ปลาทรายแดงอาคาชิ และปลาไหลอาวาจิ ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน บทความนี้เราจะแนะนำอาหารอร่อยที่ต้องลองเมื่อมาเยือนเฮียวโกะ เพราะท้ายที่สุดแล้วการเดินทางชิมอาหารในภูมิภาคนี้ถือเป็นความสุขที่แท้จริงของการเดินทางอย่างหนึ่ง เมื่อมาเที่ยวทั้งที ก็ห้ามพลาดของดีในเฮียวโกะเด็ดขาด! ​​หลังจากลิ้มลองอาหารที่ดีที่สุดของจังหวัดเฮียวโกะแล้ว ขอแนะนำให้ไปสำรวจอาหารต่อที่เทศกาล Setouchi Triennale เทศกาลศิลปะร่วมสมัยนี้จัดขึ้นทุกสามปีครั้ง โดยจัดขึ้นทั่วหมู่เกาะในทะเลเซโตะใน และนำเสนอวิธีการเฉพาะตัวในการสัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่น รวมไปถึงอาหารด้วย ไฮไลท์หนึ่งคือ Shima Kitchen บนเกาะเทชิมะ ซึ่งเป็นบ้านแบบดั้งเดิมที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ที่กลายมาเป็นร้านอาหารและเป็นส่วนหนึ่งของโครงการศิลปะของเทศกาล อาหารจานต่างๆ ประกอบด้วยปลาท้องถิ่นที่จับได้สดๆ ผสมผสานกับผักที่ปลูกบนเกาะ ในขณะที่เครื่องดื่มต้นตำรับทำจากผลไม้ตามฤดูกาลที่เก็บเกี่ยวจากเกาะเทชิมะ เทศกาลนี้จัดขึ้นเป็นระยะเวลาประมาณ 100 วัน ผู้เยี่ยมชมจะได้เพลิดเพลินไปกับเมนูอาหารที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากทั้งสี่ฤดูกาล​ ตระเวนชิมเนื้อโกเบพรีเมียมในเฮียวโกะ ดื่มด่ำกับอาหารค่ำสุดหรูกับเนื้อโกเบระดับพรีเมียม เนื้อโกเบที่เป็นที่ชื่นชอบทั่วโลก มีรสชาติเข้มข้นและเนื้อสัมผัสที่ละลายในปากไม่ซ้ำใคร ซึ่งเป็นผลมาจากการคัดเลือกพันธุ์และการเพาะปลูกอย่างพิถีพิถัน มีเพียงเนื้อวัวตรงตามมาตรฐานที่เข้มงวดเท่านั้นที่ได้รับการรับรองว่าเป็นเนื้อโกเบที่พบในเมืองโกเบ อาริมะออนเซ็น และสถานที่อื่นๆ ทั่วเฮียวโกะ จุดเด่นของเนื้อโกเบคือรสชาติที่ละเอียดอ่อนแต่ลุ่มลึก ไขมันลายหินอ่อนชั้นดีที่เรียกว่าซาชิทำให้เกิดรูปลักษณ์ที่สวยงามของชิโมฟุริ (แปลว่า”น้ำค้างแข็ง”) นำมาซึ่งความหวานอ่อนๆ และรสอูมามิที่เข้มข้นเนื่องจากไขมันของเนื้อโกเบละลายที่อุณหภูมิต่ำกว่าเนื้อวากิวอื่นๆ (เนื้อญี่ปุ่น) จึงละลายในปากโดยไม่รู้สึกหนักเหมือนไขมันตามปกติ ดูแพ็คเกจเที่ยวอาริมะออนเซ็น ยูกิ คิทาดะ ผู้จัดการร้านสเต็กเทปันยากิแบบดั้งเดิม “สาขาหลักมิโซโนะโกเบ” ร้านอาหารมิโซโนะก่อตั้งในปี […]

พักผ่อนด้วยการนั่งรถเที่ยวชมทิวทัศน์ในเกาะอาวาจิ

พักผ่อนด้วยการนั่งรถเที่ยวชมทิวทัศน์ในเกาะอาวาจิ

เกาะอาวาจิ อยู่ที่ฝั่งตะวันออกของทะเลเซโตะไนไค ใช้เวลาในการเดินทางด้วยรถยนต์จากสนามบินนานาชาติคันไซประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที และใช้เวลาในการเดินทางจาก สถานีรถไฟชินโอซาก้า ข้ามสะพานอะคะชิไคเกียวประมาณ 1 ชั่วโมง เกาะอาวาจินี้มีเกาะแก่งเล็ก ๆ มากมายแต่เดินทางได้สะดวก และมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย จึงเป็นพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้นในปัจจุบัน

เที่ยวชมปราสาทและวัดโบราณในฮิเมจิ สัมผัสบรรยากาศสุดคลาสสิกในภาพยนตร์ชื่อดัง

เที่ยวชมปราสาทและวัดโบราณในฮิเมจิ สัมผัสบรรยากาศสุดคลาสสิกในภาพยนตร์ชื่อดัง

ฮิเมจิ ใช้เวลาเดินทางโดยรถบัสลีมูซีนประมาณ 2 ชั่วโมงจาก สนามบินนานาชาติคันไซ หรือนั่งรถไฟชินคันเซ็นประมาณ 30 นาทีจาก สถานีโอซาก้า (2 สถานี) พื้นที่ฮิเมจิเป็นที่ตั้งของปราสาทเก่าแก่ที่สามารถสัมผัสได้ถึงโรแมนติก ทั้งยังมีวัดพุทธที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปีมากมาย และยังเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดังอีกหลายเรื่องอีกด้วย

ปล่อยใจไปกับธรรมชาติที่ 2 ออนเซ็นรีสอร์ตในทาจิมะ

ปล่อยใจไปกับธรรมชาติที่ 2 ออนเซ็นรีสอร์ตในทาจิมะ

คิโนะซากิออนเซ็น คือ หมู่บ้านออนเซ็นที่สามารถเดินทางไปเที่ยวได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องต่อรถ สามารถเดินทางมาจาก เกียวโต โดยรถด่วน JR ได้ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 20 นาที นอกเหนือจากคิโนะซากิออนเซ็นแล้ว ยุมุระออนเซ็นก็ถือเป็นออนเซ็นสำคัญอีกหนึ่งแห่งในเขตพื้นที่ทาจิมะ พื้นที่ภูมิทัศน์งดงามท่ามกลางอ้อมกอดของธรรมชาติอันยิ่งใหญ่

จากงานเอ็กซ์โป 2025 สู่อะริมะออนเซ็น ดูนวัตกรรมล้ำสมัย แล้วเที่ยวผ่อนคลายสไตล์ลักชูรี

จากงานเอ็กซ์โป 2025 สู่อะริมะออนเซ็น ดูนวัตกรรมล้ำสมัย แล้วเที่ยวผ่อนคลายสไตล์ลักชูรี

อะริมะออนเซ็น ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่อุดมไปด้วยน้ำพุร้อนที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากห้อมล้อมไปด้วยภูเขาอันเงียบสงบ “สถานที่พักผ่อนแห่งคันไซในบรรยากาศส่วนตัว” เหล่านี้ไม่เพียงมอบความผ่อนคลายจากน้ำพุร้อน แต่ยังรวมถึงอาหารท้องถิ่นอร่อยๆ ที่นี่จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเหมาะสำหรับมาผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับอาหารรสชาติดี

เที่ยวสถานที่เรโทรโมเดิร์นพร้อมจุดถ่ายรูปสวยๆ ในเฮียวโกะ

เที่ยวสถานที่เรโทรโมเดิร์นพร้อมจุดถ่ายรูปสวยๆ ในเฮียวโกะ

จังหวัดเฮียวโกะ คือจังหวัดน่าเที่ยวแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีจุดถ่ายรูปสวยๆ มากมาย และเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและอินฟลูเอนเซอร์ วันนี้เราจะพาทุกท่านไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวที่คัดเลือกโดยบรรดาช่างภาพเป็นเวลา 2 วัน

จากทะเลเซโตะในสู่ฮาริมะ: เกลือ ฮิชิโอะ และเรื่องราวของการหมัก

จากทะเลเซโตะในสู่ฮาริมะ: เกลือ ฮิชิโอะ และเรื่องราวของการหมัก

การข้ามทะเลเซโตะอันเงียบสงบจะพาคุณไปยังโชโดะชิมะ เกาะที่เกลือและการหมักบ่มได้หล่อหลอมศิลปะการทำโชยุมายาวนานหลายศตวรรษ ที่นี่ กลิ่นหอมของโชยุโคอิคุจิที่หมักในถังไม้มากว่า 400 ปี ผสานกับมรดกของโชยุอุสึคุจิจากทัตสึโนะ สะท้อนรสชาติอันประณีตที่ขาดไม่ได้ในอาหารเกียวโต การเดินทางครั้งนี้ชวนให้คุณสัมผัสวัฒนธรรมการหมักบ่มของญี่ปุ่นผ่านรสชาติ กลิ่นหอม และภูมิปัญญาช่างฝีมือที่สืบทอดกันมา

สำรวจประเพณีเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารของญี่ปุ่นผ่านการท่องเที่ยวเชิงอาหาร

สำรวจประเพณีเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารของญี่ปุ่นผ่านการท่องเที่ยวเชิงอาหาร

เมื่อคุณเดินทาง อาหารแต่ละจานที่ได้ลิ้มลองล้วนสะท้อนถึงผืนแผ่นดินและวัฒนธรรมของถิ่นนั้น ๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยวสายอาหาร หรือ Gastronomy Tourism ซึ่งเน้นการค้นหาเรื่องราวเบื้องหลังอาหาร ไม่ใช่แค่รสชาติ ได้รับความสนใจจากทั่วโลก สำหรับครั้งนี้ การเดินทางจะพาเราไปยังเกียวโต ดินแดนแห่งศิลปะเครื่องเขินอันประณีต และทัมบะ-ซาซายามะในจังหวัดเฮียวโงะ เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องเครื่องปั้นดินเผาทัมบะ โดยมีแนวคิดแบบญี่ปุ่น “ฮาเระ” (สิ่งพิเศษ) และ “เคะ” (ชีวิตประจำวัน) เป็นแนวทาง เราจะได้สำรวจโลกอันรุ่มรวยที่อาหารและภาชนะบนโต๊ะอาหารถักทอเรื่องราวร่วมกัน

อิ่มอร่อยกับปูและทิวทัศน์: การผจญภัยโดยรถไฟผ่านดินแดนแห่งประเพณีอันล้ำค่า

อิ่มอร่อยกับปูและทิวทัศน์: การผจญภัยโดยรถไฟผ่านดินแดนแห่งประเพณีอันล้ำค่า

ในภูมิภาคซันอิน ฤดูปูหิมะแดงจะเริ่มขึ้นในฤดูใบไม้ร่วง ตามด้วยปูหิมะมัตสึบะในฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงเวลายอดนิยมสำหรับทริปตามล่าปู หนึ่งในเมืองศูนย์กลางคือฮามาซากะ จังหวัดเฮียวโกะ ซึ่งเป็นแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่มี “ซอมเมอลิเย่ร์ปู” คอยดูแลมื้ออาหาร มอบประสบการณ์การรับประทานที่ไม่เหมือนใคร ใช้เมืองออนเซ็นฮามาซากะเป็นฐาน แล้วออกเดินทางด้วยรถไฟสู่เนินทรายทตโตริ ระหว่างทางจะได้ชมทิวทัศน์อันตื่นตาของซันอินไคกัน ยูเนสโก้ โกลบอลจีโอพาร์ค

การเดินทางด้วยรถไฟที่เชื่อมโยงทิวทัศน์: จากคิโนซากิออนเซ็นสู่เกียวโตริมทะเล

การเดินทางด้วยรถไฟที่เชื่อมโยงทิวทัศน์: จากคิโนซากิออนเซ็นสู่เกียวโตริมทะเล

จังหวัดเฮียวโกะขึ้นชื่อเรื่องเส้นทางรถไฟชมวิวสวยงาม โดยหนึ่งในขบวนยอดนิยมคือรถไฟ Tango AO-MATSU ที่พาผู้โดยสารท่องเที่ยวทั้งเฮียวโกะและเกียวโต พร้อมพักผ่อนในเมืองออนเซ็นเก่าแก่คิโนะซากิออนเซ็น การเดินทางเริ่มต้นที่คิโนะซากิออนเซ็น ซึ่งอยู่ห่างจากโกเบ โอซาก้า หรือเกียวโตประมาณสองชั่วโมงครึ่งโดยรถด่วนพิเศษ เส้นทางนี้เชื่อมโยงบ่อน้ำพุร้อน สาเกชั้นดี และวิวทะเลญี่ปุ่นอันตระการตาเข้าด้วยกัน

การเดินทางผ่านเงา: ควันและแสงเหนือเมืองหลวงโบราณของญี่ปุ่น

การเดินทางผ่านเงา: ควันและแสงเหนือเมืองหลวงโบราณของญี่ปุ่น

จุนอิจิโร ทานิซากิ หนึ่งในนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่น ได้ถ่ายทอด “ความงามแห่งเงามืด” ที่ซ่อนอยู่ในสถาปัตยกรรมและวิถีชีวิตญี่ปุ่นไว้อย่างลึกซึ้งในบทความ In Praise of Shadows เมื่อปี 1933 เขาเขียนไว้ว่าหัวใจของความงามแบบญี่ปุ่นไม่ได้อยู่ที่ความสว่างไสว แต่คือการเล่นแสงและเงาอย่างแผ่วเบา—แสงจันทร์ที่ลอดผ่านกิ่งไม้ แสงนวลหลังฉากกระดาษโชจิ เงาสะท้อนจาง ๆ บนเครื่องเขิน หนึ่งในสถานที่ที่หล่อหลอมรสนิยมทางศิลปะของทานิซากิคือเกียวโต เมืองหลวงเก่าแก่ เงาเงียบสงบในวัดและสวนของที่นั่นได้เติมเต็มโลกวรรณกรรมของเขา อีกสถานที่พักผ่อนที่เขาไปบ่อยครั้งก็คืออาริมะออนเซ็นในจังหวัดเฮียวโกะ

ค้นพบชีวิตและศิลปะในทะเลเซโตะใน: การเดินทางผ่านอิเอชิมะและนาโอชิมะ

ค้นพบชีวิตและศิลปะในทะเลเซโตะใน: การเดินทางผ่านอิเอชิมะและนาโอชิมะ

เพียงนั่งเรือระยะสั้นจากฮิเมจิจะพาคุณมาถึงอิเอะชิมะ เมืองประมงเงียบสงบที่เรือจอดลอยอยู่ในท่า และปลาที่จับได้ในแต่ละวันถูกจัดวางไว้ใต้ชายคาริมทะเล เดินเล่นไปตามตรอกที่มีแสงแดดส่องถึง พร้อมทักทายชาวเกาะที่เป็นมิตรและแมวที่นอนพักผ่อน คุณจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของชีวิตบนเกาะ จากนั้นข้ามน้ำต่อไปยังนาโอชิมะ ที่ซึ่งศิลปะร่วมสมัยและสถาปัตยกรรมโดดเด่นเปลี่ยนภูมิทัศน์ของเกาะ ผสมผสานความธรรมดาในชีวิตประจำวันเข้ากับสิ่งพิเศษใจกลางทะเลเซโตะใน

การเดินทางผ่านสีขาวและสีแดงของญี่ปุ่น

การเดินทางผ่านสีขาวและสีแดงของญี่ปุ่น

สีขาว—ความบริสุทธิ์ ความศักดิ์สิทธิ์ และการเริ่มต้นใหม่ สีที่เป็นศูนย์กลางของพิธีกรรมและการเฉลิมฉลอง สีแดง—สัญลักษณ์ของดวงอาทิตย์ โลหิต ชีวิต และคำอธิษฐานเพื่อการเก็บเกี่ยวที่อุดมสมบูรณ์ ใน จังหวัดเฮียวโกะ, เมืองฮิเมจิ และ อะโกะ จะพาคุณออกเดินทางสู่โลกสองเฉดสีอันเป็นสัญลักษณ์นี้ เพื่อสำรวจต้นกำเนิดของสุนทรียศาสตร์ญี่ปุ่นที่แสดงออกผ่านสีขาวและสีแดง