เที่ยวญี่ปุ่น – 13 ที่เที่ยวน่าสนใจในโอซาก้า

ใครกำลังมองหากิจกรรมสนุกๆ ในโอซาก้า แนะนำให้จองตั๋วออนไลน์ไปเที่ยวที่เที่ยวสมัยใหม่อย่าง ยูนิเวอร์ซัล สตูดิโอ เจแปน (Universal Studios Japan) และ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูกังแห่งโอซาก้า (Osaka Aquarium Kaiyukan) หรือจะซึมซับวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่าง ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) หรือไปเดินเล่นที่ ย่านโดตมโบริ (Dotombori) ก็ได้

1. สนุกกับเครื่องเล่นไม่จำกัดด้วยตั๋วรวมเครื่องเล่น 2 วันที่ยูนิเวอร์ซัล สตูดิโอ เจแปน

เป็นที่รู้กันว่ากิจกรรมน่าสนใจที่สุดอย่างหนึ่งในโอซาก้าก็คือการไปเที่ยว ยูนิเวอร์ซัล สตูดิโอ เจแปน แบบเต็มๆ วัน ทุกปีมีคนกว่า 10 ล้านคนก็มาเที่ยวที่สวนสนุกนี้ ถ้าอยากรู้ว่าเป็นอย่างไร ก็ลองซื้อตั๋ว Studio pass แบบ 1 หรือ 2 วันเพื่อเข้าไปเล่นในสวนสนุกทั้ง 8 โซนแบบไม่จำกัดดูได้เลย โซนดังๆ ของที่นี่ก็มี The Wizarding World of Harry Potter และ Minion Park ถ้าซื้อ USJ Express Pass เพิ่มก็จะสามารถเข้าช่องทางด่วนเพื่อไปเล่นเครื่องเล่นที่ฮิตสุดๆ ได้โดยไม่ต้องต่อคิวยาวนัก อย่างเช่น The Flying Dinosaur ในโซน Jurassic Park หรือ The Amazing Adventures of Spider-Man ของโซน New York

โซนต่างๆ ในสวนสนุก Universal Studios Japan

• Universal Wonderland
• Amity Village
• Waterworld
• The Wizarding World of Harry Potter
• Jurassic Park
• San Francisco
• Minion Park
• New York
• Hollywood

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Universal Studios Japan ได้ที่นี่

เข้าพักที่ Hotel Sobial Osaka แล้วออกไปเที่ยวที่ Universal Studios Japan

ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดใกล้ Universal Studios Japan

2. ซึมซับประวัติศาสตร์อันงดงามพร้อมกับถ่ายภาพใบไม้เปลี่ยนสีที่ปราสาทโอซาก้า

การเที่ยวชม ปราสาทโอซาก้า ไม่ได้เป็นเพียงกิจกรรมสุดป๊อบของโอซาก้าเท่านั้น แต่ปราสาทโอซาก้าถือเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว ปราสาทแห่งนี้มีบทบาทสำคัญทางประวัติศาสตร์เมื่อสมัยรวมประเทศญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 16 ซึ่งมีการสร้างหอคอยกลางขึ้นเป็นครั้งแรก ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวมุมกว้างของรอบๆ ปราสาทได้จากลานชมวิวที่ พิพิธภัณฑ์ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle Museum) ซึ่งตั้งอยู่ที่หอคอยกลาง และยังสามารถชมสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์ 13 อย่างได้อย่างใกล้ชิดอีกด้วย ปราสาทโอซาก้า เปิดให้เข้าชมตลอดปี แต่ละฤดูกาล ภูมิทัศน์โดยรอบก็จะขับเน้นให้ปราสาทสวยงามด้วยบรรยากาศที่ต่างกัน ช่วงฤดูใบไม้ผลิ ต้นซากุระใน สวนนิชิโนะมารุ (Nishinomaru Garden) และดอกบ๊วยใน ป่าดอกบ๊วย (Ume Grove) จะบานสะพรั่ง ส่วน ป่าแห่งความทรงจำ (Omoide-no-mori) นั้นถ่ายรูปใบไม้เปลี่ยนสีได้สวยตรึงใจมากที่สุด

สิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์ 13 อย่างในปราสาทโอซาก้า

• ประตูโอเตะมอน (Ote-mon Gate)
• ประตูซากุระมอน (Sakura-mon Gate)
• ป้อมอิจิบังยากุระ (Ichiban-yagura Turret)
• ป้อมอินุยยากุระ (Inui-yagura Turret)
• ป้อมโรคุบังยากุระ (Rokuban-yagura Turret)
• ป้อมเซ็นกังยากุระ (Sengan-yagura Turret)
• ป้อมทามอนยากุระ (Tamon-yagura Turret)
• บ่อน้ำคินเมซุย (Kinmeisui Well)
• ห้องคลังคินโซ (Kinzo Storehouse)
• โรงเก็บดินปืนเอ็นโชกุระ (Enshogura Gunpowder Magazine)
• กำแพงปราสาทรอบประตูโอเตมอน (สามส่วน)

เวลาทำการและราคาตั๋วเข้าชม Osaka Castle

เข้าพักที่ Hotel The Lutheran แล้วออกไปเที่ยวที่ ปราสาทโอซาก้า

ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดใกล้ Osaka-Jo Hall

3. เล่นมุ้งมิ้งกับสิงโตทะเลและให้อาหารปลาฉลามที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูกังแห่งโอซาก้า

เที่ยว พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูกังแห่งโอซาก้า (Osaka Aquarium Kaiyukan) ก็เหมือนได้ท่องมหาสมุทรแปซิฟิกของจริง เพราะเราจะได้เห็นสัตว์ทะเลที่มหัศจรรย์ที่สุดของโลกหลายชนิดอย่างใกล้ชิดสุดๆ เมื่อเดินตามเหล่าสิงโตทะเลและฝูงปลาในอุโมงค์เกลียวไปเรื่อยๆ ก็จะพบว่าเราเดินเพลินจากชั้น 7 ไปยังชั้น 4 ซึ่งรวมโซนจัดแสดงสุดว้าวทั้งหมดของพิพิธภัณฑ์เอาไว้ เช่น ป่าญี่ปุ่น (Japan Forest) และ ทวีปแอนตาร์กติกา (Antarctica) ระหว่างทัวร์ 2 ชั่วโมงครึ่ง นักท่องเที่ยวจะได้ชมการให้อาหารปลา ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ เช่นสัมผัสวิถีชีวิตตามธรรมชาติของแมวน้ำ รวมถึงได้จับปลาฉลามและปลากระเบนตัวจริงด้วย

นิทรรศการถาวรในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูกัง

• Fish Underpass – Aqua Gate
• Japan Forest
• Aleutian Islands
• Monterey Bay
• Gulf of Panama
• Ecuador Rain Forest
• Antarctica
• Tasman Sea
• Great Barrier Reef
• Pacific Ocean
• Seto Inland Sea

เข้าพักที่ Hotel Universal Port แล้วออกไปเที่ยวที่ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูกัง

ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดใกล้ สถานีรถไฟใต้ดิน Osakako

4. อิ่มหนำกับวัฒนธรรมการกินของญี่ปุ่นและสำราญไปกับกิจกรรมน่าทำในโอซาก้าที่โดตมโบริ

เป็นที่รู้กันในหมู่นักกินว่ากิจกรรมดีงามที่สุดอย่างหนึ่งในโอซาก้าก็คือการตระเวนกินย่านโดตมโบริ (Dotonbori) ถ้าใครยังเป็นมือใหม่ในย่านนี้ ขอให้ตรงไปที่ตรอกโฮเซ็นจิโยะโคโจ (Hozenji Yokocho) ก่อนเลย บนถนนปูหินในโซนมินามิ (Minami) ซึ่งอยู่ทางฝั่งใต้นี้เต็มไปด้วยบาร์และร้านอาหารญี่ปุ่นเจ้าเก่าที่คอยยั่วให้เรากินจนตัวแตก ตามคำกล่าวที่ว่า kuidaore ซึ่งแทนความหมายของวิถีการกินดุที่โอซาก้า ถ้าอยากลองสัมผัสประสบการณ์การกินแบบเลิศล้ำสุดๆ ในย่านนี้ ลองมองหาหุ่นปูยักษ์บนผ้าใบของร้าน Kani Doraku แล้วสั่งอาหารแบบเทคอะเวย์ตรงหน้าร้านดูสิ อันนี้ถือเป็นของต้องลองของโอซาก้าเขาเลยนะ หรือถ้าใครอยากนั่งแกะปูแบบฟินๆ ในร้าน ก็ควรจองล่วงหน้ามาก่อนเพราะถ้ารอเลยอาจต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมง แม้ว่าใครต่อใครจะหลงรัก โดตมโบริ เพราะของกิน แต่ย่านนี้ก็ยังมีโรงละคร ไนต์คลับ ร้านบูติก และที่เที่ยวอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ป้ายไฟ กูลิโกะแมน (Glico Man) ที่สะพาน เอบิสึ (Ebisu Bridge) และ Kuidaore Taro มือกลองตัวตลกหน้าตึก Nakaza Cuidaore Building

ของกินที่ต้องลองในย่านโดตมโบริ

• ทาโกยากิ
• โอโคโนมิยากิ
• ราเมง
• คิตสึเนะอุด้ง
• คุชิคัทสึ
• ขนมไทยากิ

เข้าพักที่ Dotonbori Hotel แล้วออกไปเที่ยวที่ ป้ายกูลิโกะ

ค้นหาที่พักราคาดีใกล้ สถานี Osaka-Namba ในย่านโดตมโบริ

5. ชมภูเขาร็อกโกะจากตึก Umeda Sky Building และจุดชมวิวสวนลอยฟ้า KUCHU TEIEN OBSERVATORY

สวนลอยฟ้า KUCHU TEIEN OBSERVATORY ที่ตึก Umeda Sky Building ตรงริมแม่น้ำโยโดะ (Yodo River) นั้นมองลงไปจะเห็น เกาะอะวะจิ (Awaji Island) และแนวสันเขาของ ภูเขาร็อกโกะ (Mount Rokko) ที่งดงามจนไม่อยากละสายตา เช่นเดียวกับวิวมุมกว้างของเมือง โอซาก้า ลานชมวิว Kuchu Teien Observatory หรือที่เรียกอีกอย่างว่า สวนชมวิวลอยฟ้า (Floating Garden Observatory) เป็นเหมือนสะพานเชื่อมอาคารสองหลังเข้าหากัน ที่ชั้นล่างในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี นักท่องเที่ยวจะได้พบกับจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ สวน Naka-Shizen no mori หรือจะหาซื้ออาหารกลางวันที่ฟู้ดสตรีท Takimikoji บนชั้นใต้ดินของตึกก็ยังได้ ในช่วงเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม ตึก Umeda Sky Building จะประดับไฟสวยงามอะร้าอร่ามไปทั่วเนื่องจากมีงานเทศกาล ตลาดนัดวันคริสมาสต์เยอรมัน (German Christmas Market) ซึ่งจัดเป็นประจำทุกปี

เข้าพักที่ Hotel Monterey Osaka แล้วออกไปเที่ยวที่ สวยลอยฟ้า Kuchu Teien Observatory

ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดใกล้ ตึก Umeda Sky Building

6. ชมอ่าวโอซาก้าและเกาะอะวะจิจากวิวสูงบนชิงช้าสวรรค์ยักษ์เท็มโปซาน

ตลอด 17 นาทีที่นั่งอยู่บน ชิงช้าสวรรค์ยักษ์เท็มโปซาน (TEMPOZAN GIANT FERRIS WHEEL) ใน หมู่บ้านท่าเรือเท็มโปซาน (Tempozan Harbor Village) นั้น เราจะได้เห็น โอซาก้า ในมุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ชิงช้าสวรรค์ยักษ์เท็มโปซาน เคยเป็นชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในโลก เมื่อขึ้นไปจะมองเห็นวิวสวยอลังการของ อ่าวโอซาก้า (Osaka Bay), ภูเขาอิโกะมะ (Mount Ikoma) และ สะพานอากาชิไคเกียว (Akashi Kaikyo Bridge) ซึ่งเชื่อม เกาะอะวะจิ เข้ากับแผ่นดินใหญ่ คนชอบถ่ายรูปจะต้องปลื้มที่นี่ตอนกลางคืนแน่นอน เพราะชิงช้าสวรรค์จะเปิดไฟสว่างไสวตามสีของสภาพอากาศในวันรุ่งขึ้น สีส้มบอกว่าอากาศสดใส สีเขียวแทนความหมายว่ามีเมฆมาก สีฟ้าบอกให้นักท่องเที่ยวรู้ว่าอาจมีฝนตก

เข้าพักที่ Hotel Seagull Tempozan Osaka แล้วออกไปเที่ยวที่ ชิงช้าสวรรค์ยักษ์เท็มโปซาน

ที่เที่ยวน่าสนใจในโอซาก้าใกล้ หมู่บ้านท่าเรือเท็มโปซาน

7. ถ่ายภาพสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นที่ศาลเจ้าซูมิโยชิอันเก่าแก่

ศาลเจ้าซูมิโยชิ (Sumiyoshi-Taisha) หรือที่รู้จักกันอีกชื่อหนึ่งว่าศาลเจ้าใหญ่ซูมิโยชิ (Sumiyoshi Grand Shrine) โด่งดังทางด้านสถาปัตยกรรมและได้รับการยกย่องให้เป็นโบราณสถานสำคัญทางประวัติศาสตร์ ถือเป็นศาสนสถานที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น มีการค้นพบศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 3 ก่อนจะมีการเผยแพร่ศาสนาพุทธ และที่นี่ยังเป็นหนึ่งในสามศาลเจ้าที่มีรูปแบบ “ญี่ปุ่นขนานแท้” เมื่อดูจากการก่อสร้างในสไตล์ที่เรียกว่าสุมิโยชิ-ซึคุริ (Sumiyoshi-zukuri) เมื่อเดินข้ามสะพานโค้งอันโด่งดังอย่างสะพานโซริฮาชิ (Sorihashi) ไปก็จะถึงบริเวณศาลเจ้า ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมศาลเจ้าหลักทั้ง 4 แห่ง และเดินชมต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่อายุยืนยาวกว่า 1,000 ปีได้ด้วย หากมาเที่ยว ศาลเจ้าซูมิโยชิ ในช่วง 3 วันแรกของปี จะได้เห็นชาวญี่ปุ่นกว่า 2 ล้านคนมาขอพรให้มีสุขภาพดีและร่ำรวยในช่วงฮัทซึโมเดะ (hatsumōde) หรือการไปวัดชินโตครั้งแรกของปีในช่วงเทศกาลปีใหม่ญี่ปุ่น

สิ่งน่าสนใจในศาลเจ้าซูมิโยชิ

• แผ่นป้ายหิน และน้ำตก
• บริการพื้นที่งานแต่งงานและชุดให้เช่า
• สวนอูโนะฮานะ (Unohana Garden)

เข้าพักที่ For Leaves Inn Nagai แล้วออกไปเที่ยว ศาลเจ้าซูมิโยชิ

ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดใกล้ ศาลเจ้าซูมิโยชิ

8. ชมศิลปะหายากและแปลกตาของญี่ปุ่นซึ่งทำจากภาพพิมพ์แกะไม้ที่พิพิธภัณฑ์คามิกาตะ ยูคิโยเอะ

เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์หนึ่งเดียวในโลกที่มีงานจัดแสดงถาวรของคามิกาตะ ยูคิโยเอะ (Kamigata ukiyoe) หรือภาพพิมพ์แกะไม้จากภูมิภาคโอซาก้า-เกียวโตสมัยก่อนซึ่งมีชื่อเรียกว่าคามิคาตะนั่นเอง พิพิธภัณฑ์คามิกาตะ ยูคิโยเอะ (Kamigata Ukiyoe Museum) มีคอลเล็คชั่นศิลปะที่จัดแสดงถาวรมากกว่า 50 ชิ้น บอกเล่าเรื่องราวของวัฒธรรมและศิลปะเก่าแก่จากสมัยเอโดะ (Edo) โดยเฉพาะเหล่านักแสดงคาบุกิ (Kabuki) ในยุคนั้น

เข้าพักที่ Richmond Hotel namba Daikokucho แล้วออกไปเที่ยว พิพิธภัณฑ์คามิกาตะ ยูคิโยเอะ

ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดใน นัมบะ

9. ล่องเรือชมแสงไฟริมน้ำย่านโดตมโบริกับ TOMBORI RIVER CRUISE

เพลิดเพลินไปกับการล่องเรือริมน้ำ 20 นาทีเลียบทางเดิน Tombori River Walk เพื่อชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญย่าน โดตมโบริ Tombori River Cruise จะพาไปเก็บบรรยากาศสวยๆ ตามที่เที่ยวดังและให้เราได้แอบส่องย่านนานิวะ (Naniwa Ward) ในมุมมองแปลกใหม่ที่คนอื่นอาจไม่เคยเห็น ซื้อตั๋วล่องเรือได้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ต Don Quijote Dotombori ชั้น 1 และลงเรือที่ด่านจอดเรือ Tazaemon-bashi Bridge หรือที่เรียกกันว่าท่าเทียบเรือ Tombori River Cruise Landing Platform

แลนด์มาร์กห้ามพลาดใกล้ทางเดินริมน้ำย่านโดตมโบริ

• มินาโตมาชิ ริเวอร์เพลซ
• ดองกิโฮเต้ สาขาโดตมโบริ
• ร้าน Kani Doraku Dotombori Honten (ร้านปูยักษ์)
• ป้ายกูลิโกะ
• รูปปั้นจิโซ (Shusse Jizo, Jizoson statue)

เข้าพักที่ Osaka Teikoku Hotel แล้วออกไปเที่ยว ทางเดินริมน้ำย่านโดตมโบริ

ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดใน ย่านโดตมโบริ

10. ทัวร์โอซาก้าด้วยรถบัสและเรือเฟอร์รี่ WONDER LOOP OSAKA & OSAKA WONDER CRUISE

ซื้อตั๋วเรือและตั๋วรถบัสแบบ 2 วันแวะเที่ยวได้ทุกสถานี แล้วทีนี้จะขึ้นรถลงเรือไปทำกิจกรรมสนุกๆ อะไรในโอซาก้าก็ย่อมได้ อย่างถ่ายรูปเซลฟี่ริมชายฝั่งกับ ป้ายนักวิ่งกูลิโกะแมน หรือชม ปราสาทโอซาก้า ระหว่างล่องไปตาม แม่น้ำโอคาวะ (O River) ลงเรือที่ท่าเรือ Wonder Cruise Dotonbori River Port หรือขึ้นรถบัสป้ายไหนก็ได้ของเส้นทาง 14 Wonder Loop Osaka

ป้ายรถบัสสำหรับเดินทางไป Wonder Loop Osaka

• สถานี Osaka Station
• ร้าน Kitashinchi Yuki
• MUJI Tenmabashi Keihan Citymall
• Hotel New Otani Osaka
• สวนปราสาทโอซาก้า
• สถานี Matsuyamachi
• ห้าง Daimaru Shinsaibashi
• สวนนัมบะพาร์ค
• ร้าน Kushikatsu Daruma Shinsekai sohonten
• ห้าง Abeno Q’s Mall
• วัดชิเทนโนจิ (Shitennoji temple)
• นิปปอนบาชิ
• โดตมโบริ
• สถานี Sakaisuji-Honmachi

ซื้อตั๋วเข้า Wonder Loop Osaka และ Osaka Wonder Cruise ได้เลย

เข้าพักที่ Yamatoya Honten Ryoken Osaka Hotel แล้วออกไปเที่ยวแถว ป้ายกูลิโกะ

ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดใน โดตมโบริ

11. สวมกิโมโนเดินเล่นในเมืองโบราณที่พิพิธภัณฑ์บ้านและความเป็นอยู่ของชาวเมืองโอซาก้า

สัมผัสวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น พร้อมชมนิทรรศการบ้านเรือนญี่ปุ่นโบราณในสมัยเมจิ (Meiji), ไทโช (Taisho) และโชวะ (Showa) ที่ พิพิธภัณฑ์บ้านและความเป็นอยู่ของชาวเมืองโอซาก้า (Osaka Museum of Housing and Living) นอกจากนี้ยังมีบ้านเมืองจำลองสุดอลังการจากสมัยเอโดะ (Edo period) และงานศิลปะหัตถรรมญี่ปุ่นหลายสิบชิ้นซึ่งอายุเก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 1800 ถึง 1950 ผู้เข้าชมสามารถสวมชุดกิโมโนเดินเล่นในบรรยากาศกลางวันและกลางคืนในส่วนจัดแสดงแสงสี พิพิธภัณฑ์บ้านและความเป็นอยู่ของชาวเมืองโอซาก้า อยู่ในย่าน (Kita District) ติดกับ ถนนช้อปปิ้งเท็นจินบาซึ ซูจิ (Tenjimbashisuji Shopping Street)

เข้าพักที่ Guest House N แล้วออกไปเที่ยว พิพิธภัณฑ์บ้านและความเป็นอยู่ของชาวเมืองโอซาก้า

ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดใกล้ ถนนช้อปปิ้งเท็นจินบาซึ ซูจิ

12. เที่ยวสวนลอยฟ้าและถ่ายรูปขอบฟ้าเมืองโอซาก้าจากตึก Umeda Sky Building

ที่ ตึก Umeda Sky Building หรือที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า Shin Umeda City นั้นมองออกไปจะเห็นวิวแม่น้ำโยโดะ (Yodo River) และขอบฟ้าย่าน อุเมดะ (Umeda) บนชั้นที่ 39 ของอาคารสูง 40 ชั้นแห่งนี้มี สวนชมวิวลอยฟ้า (Floating Garden Observatory) ซึ่งเชื่อมตึก 2 ตึกเข้าด้วยกัน ไปถ่ายภาพพานอรามาที่ความสูง 173 เมตร บนดาดฟ้าเปิดโล่ง เสร็จแล้วลงไปข้างล่างเพื่อช้อปปิ้งที่ตลาดใต้ดิน ชั้น G มีสวนขนาดกะทัดรัดเรียบง่ายกับทางเดินเล่น แปลงเพาะชำ และสายน้ำลำธารมองแล้วเพลินตา

ที่เที่ยวน่าสนใจใกล้ตึก Umeda Sky Building

• Shin Umeda City
• สวนโมริ (Naka-Shizen no mori garden)
• ศูนย์การค้าใต้ดิน Umeda Underground shopping street
• ตลาด German Christmas Market (กลางเดือนพฤศจิกายน – วันคริสต์มาส)

เข้าพักที่ Hotel Kinki แล้วออกไปเที่ยว ตึก Umeda Sky Building

ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดใน Shin Umeda City

13. ชมศิลปะหายากของญี่ปุ่นอย่างการแสดงหุ่นเชิดที่โรงละครแห่งชาติบุนราคุ

ชมศิลปะหายากที่มีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 ซึ่งปัจจุบันได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสามการแสดงศิลปะโบราณอันยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่น โรงละครแห่งชาติบุนราคุ (National Bunraku Theater) มีการแสดงหุ่นเชิดญี่ปุ่นโบราณให้ได้ชม ฮอลล์สำหรับการแสดงในย่าน Nippombashi แห่งนี้ยังเป็นที่เดียวในโลกที่เราจะได้ชมโชว์การแสดงหุ่นเชิดโบราณของญี่ปุ่นในปัจจุบัน บุนราคุ เป็นการแสดงที่ผสมผสานการเชิดหุ่น บทบรรยาย และการแสดงดนตรีเข้าด้วยกัน ครั้งหนึ่งเคยเป็นการแสดงยอดนิยมที่สร้างความสำราญให้กับหมู่ชนชั้นสูงของญี่ปุ่น โอซาก้าถือเป็นศูนย์กลางของบุนราคุ และการแสดงเก่าแก่นี้ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโก (UNESCO) ในปี 2003 ให้เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม (Intangible Cultural Heritage of Humanity) ด้วย โรงละครแห่งชาติบุนราคุ จัดการแสดงปีละประมาณ 5 ครั้ง ผู้เข้าชมที่ต้องการชมการแสดงเป็นภาษาอังกฤษสามารถจ่ายเงินเพิ่มเพื่อซื้อออดิโอไกด์ได้ โบรชัวร์มีภาษาอังกฤษ จีน เกาหลี และฝรั่งเศส

เข้าพักที่ Hotel Villa Fontaine Osaka-Shinsaibashi แล้วออกไปเที่ยว โรงละครแห่งชาติบุนราคุ

ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดใกล้ สถานีนิปปอนบาชิ

เที่ยวโอซาก้าฤดูไหนดี

ฤดูใบไม้ผลิ

ชมซากุระกว่า 600 ต้นบานสะพรั่งรอบ ปราสาทโอซาก้า ที่ สวนนิชิโนะมารุ (Nishinomaru Garden) ใน สวนปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle Park) ช่วงฤดูใบไม้ผลิขยายเวลาเปิดให้บริการเป็น 9.00-21.00 น. หลังดวงอาทิตย์ตก นักท่องเที่ยวจะได้ชมสวนซึ่งประดับไฟสวยงาม
ช่วงฤดูใบไม้ผลิจะมีการแข่งขันซูโม่ March Grand Tournament อีเว้นท์ระยะเวลา 2 สัปดาห์นี้จะเริ่มตอนกลางเดือนมีนาคม โดยมีนักซูโม่ชื่อดังของประเทศเข้าร่วม สามารถซื้อตั๋วเข้าชมการแข่งขันได้จากเว็บไซต์หรือที่ สนามกีฬาเอดิออน อารีน่า โอซาก้า (EDION Arena Osaka) หรือโรงยิมเนเซียมจังหวัดโอซาก้าซึ่งเป็นสถานที่จัดการแข่งขัน

ฤดูร้อน

อากาศที่ โอซาก้า เป็นปัจจัยที่ทำให้เมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามของญี่ปุ่นแห่งนี้น่าเที่ยวทั้งปี แต่นักท่องเที่ยวที่อยากจะสัมผัสประเพณีโบราณของญี่ปุ่นควรมาเยือนเมืองนี้ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม เพื่อร่วมงาน เทศกาลเทนจิน (Tenjin Matsuri) หรือเทศกาลหน้าร้อน ซึ่งจะเริ่มต้นในวันที่ 24 กรกฎาคม ที่ ศาลเจ้าเท็มมังกุ (Temmangu) เทศกาลเทนจิน ซึ่งมีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 นั้นจัดว่าเป็น 1 ใน 3 สุดยอดเทศกาลของญี่ปุ่น และดึงดูดผู้เข้าร่วมและชมงานหลายล้านคนทุกๆ ปี ชาวญี่ปุ่นจะเริ่มเทศกาลซึ่งกินเวลา 2 วันนี้ด้วยการสวดมนต์ริมน้ำเพื่อขอพรให้เมืองโอซาก้าสงบร่มเย็น ปลอดภัยและเจริญรุ่งเรือง ในวันที่สองชาวเมืองจะแต่งตัวด้วยชุดโบราณและเข้าร่วมการแสดงบนท้องถนน ก่อนปิดท้ายเทศกาลด้วยการจุดดอกไม้ไฟที่ แม่น้ำโอกาว่า (Okawa River)

ฤดูใบไม้ร่วง

การชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่นนั้นไม่ใช่แค่การเดินทางไปชมทิวทัศน์สวยๆ ทั่วไป แต่ถือเป็นเกมการแข่งขันระดับชาติเลยเชียวละ ชาวญี่ปุ่นเรียกกิจกรรมนี้ว่าโคโยฮันติ้ง หรือการตามล่าหาใบไม้เปลี่ยนสี และผู้เข้าแข่งขันจะได้แต้มจากยอดไลค์ในอินสตราแกรมที่ถ่ายจาก สวนปราสาทโอซาก้า และ สวนลำรึกงานเอ๊กซ์โป 70 (Expo ’70 Commemorative Park) นอกจากทั้งบริเวณสวนจะกลายเป็นสีแดง ส้ม และเหลืองแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถถ่ายเซลฟี่ด้วยสแนปแชทสนุกๆ คู่กับหอคอยดวงอาทิตย์ (Tower of the Sun) และเที่ยว พิพิธภัณฑ์มรดกหอจัดแสดงงานเอ็กซ์โป (70Expo ’70 Pavilion) ได้อีกด้วย

ฤดูหนาว

ระหว่างเดินเที่ยว ถนนมิโดสุจิ (Midosuji Boulevard) ซึ่งเป็นถนนประดับไฟที่ยาวที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ไม่ว่าใครก็คงอดที่จะอุทานอู้หูโอ้โหไปตลอดทางไม่ได้ ถนนส่วนนี้ยาวกว่า 3 กิโลเมตร ประดับไฟพร่างพราวในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนจนถึงสิ้นปี เทศกาลประดับไฟหน้าหนาวถือเป็นโบนัสพิเศษสำหรับแหล่งท่องเที่ยวสุดฮ็อตแห่งนี้ เพราะว่ายังไงเสียมิโดะสุจิบูเลอร์วาร์ดก็เป็นถนนช้อปปิ้งเหนือระดับที่มีร้านสาขาของ Louis Vuitton และ Chanel แถมยังตัดผ่านย่านสำคัญกลางเมืองโอซาก้าอย่าง อุเมะดะ, ชินไซบาชิ (Shinsaibashi), โดตมโบริ, อเมริกามูระ (Americamura) และ นัมบะ (Namba) ด้วย
ช่วงสองสัปดาห์สุดท้ายในเดือนธันวาคม เที่ยว โอซาก้า ต้องไม่พลาดชม โอซาก้า ฮิคะริ-เรเนซองส์ (Osaka Hikari Renaissance) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงาน เทศกาลแสงสีประจำปีแห่งเมืองโอซาก้า (Osaka Festival of Lights) มีการประดับไฟตกแต่งตามท้องถนนยาวกว่า 600 เมตร ตั้งแต่ ศาลากลางเมืองโอซาก้า (Osaka City Hall) ไปจนถึง สวนนากาโนะชิมะ (Nakanoshima Park)

เข้าพักในที่พัก โอซาก้า

RIHGA Royal Hotel Osaka

Hotel Sunplaza2 Annex

Imperial Hotel Osaka

แล้วออกไปเที่ยวที่ ย่านนัมบะ