5 ศิลปะสถาปัตยกรรมในโทจิกิที่ต้องแวะชม

เมื่อพูดถึงสถาปัตยกรรมใน จังหวัดโทจิกิ คงนึกถึงศาลเจ้านิกโกโทโชกูและไทยูอินในวัดนิกโกซังรินโนจิที่ล้วนเป็นมรดกโลก แต่จริงๆ แล้วโทจิกิยังมีพิพิธภัณฑ์ สถานีรถไฟ และที่พักซึ่งออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังระดับนานาชาติ เช่น คุณคุมะ เคนโกะ และคุณบัน ชิเกรุ ไปเที่ยว โทจิกิ พร้อมกับสัมผัสสุนทรียภาพของสถาปนิกกัน

จังหวัดโทจิกิที่มีอาคารที่มีชื่อเสียงมากมาย

จังหวัดโทจิกิ (Tochigi) มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันจากศาลเจ้านิกโกโทโชกู (Nikko Toshogu Shrine) ซึ่งเป็นมรดกโลก แต่อันที่จริงยังมีผลงานที่ยอดเยี่ยมมากมายซึ่งไม่ได้มีแค่สถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์ แต่ยังมีสถาปัตยกรรมร่วมสมัยด้วย

บทความนี้ขอแนะนำ 5 ศิลปะสถาปัตยกรรมใน จังหวัดโทจิกิ ที่ควรไปเยี่ยมชมกัน

1. Art Biotop Nasu ที่ได้สนทนากับธรรมชาติ

Art Biotop Nasu (อาร์ต ไบโอท๊อป นาสุ) เป็นรีสอร์ตในธีมศิลปะและวัฒนธรรม

ภายในรีสอร์ต นอกจาก Suite Villa ห้องพักแบบแยกอิสระซึ่งออกแบบโดยคุณบัน ชิเกรุ สถาปนิกชื่อดังระดับโลก ซึ่งใส่ใจในความกลมกลืนกับธรรมชาติแล้ว ยังมี Residence อพาร์ตเมนต์แบบหรูที่เหมาะสมสำหรับการพักระยะยาว, สตูดิโอเครื่องแก้วและเครื่องปั้นดินเผาที่สามารถสนุกกับการสัมผัสประสบการณ์การผลิต รวมถึงร้านอาหารและห้องสมุด

โดยเฉพาะมิซึนิวะ (Mizuniwa หรือ Water Garden) ที่ได้รับความสนใจจากสื่อต่างๆ ทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ ที่นี่คือแลนด์อาร์ตหรือศิลปะบนผืนโลกที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากแนวคิดดั้งเดิมของสวน ออกแบบโดยคุณอิชิกามิ จุนยะ สถาปนิกรุ่นถัดไป มีการย้ายต้นไม้จากพื้นที่ใกล้เคียงมาปลูก และดึงน้ำจากแม่น้ำเข้ามาในที่ดิน 5,000 สึโบะที่เดิมเป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ แล้วสร้างเป็นสวนแบบภูมิสถาปัตย์นี้ขึ้นมา

ที่นี่แสดงประวัติศาสตร์ของผืนดินแห่งนี้ด้วยการจัดวางองค์ประกอบ 3 อย่าง ได้แก่ น้ำ ไม้ และตะไคร่น้ำ ซึ่งเดิมอยู่บนผืนดินแห่งนี้ออกมาได้อย่างประณีตมาก

จากการผสมผสานธรรมชาติและองค์ประกอบที่สร้างขึ้นเข้าด้วยกันอย่างยอดเยี่ยม โดยได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิดที่ว่าอยากให้เป็นสถานที่ซึ่งผู้มาเดินเล่นได้คิดทบทวนความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ พร้อมหันกลับมามองตัวตนที่แท้จริงภายในตัวเอง

Art Biotop Nasu

• เวลาทำการ: การเข้าชมมิซึนิวะ ต้องจองล่วงหน้า
• ที่อยู่: 2294-3 Michiue, Takaku, Nasumachi, Nasu,Tochigi
• ค่าเข้าชม: ทัวร์มิซึนิวะ 2,970 เยน ลูกค้าที่มารับประทานอาหารที่ร้านอาหารหรือพักที่นี่สามารถชมมิซึนิวะได้ฟรี

2. Nakagawa-machi Bato Hiroshige Museum of Art แหล่งรวมผลงานที่ดีที่สุดในสมัยเอโดะ

อุตากาวะ ฮิโรชิเกะ ศิลปินภาพอุกิโยะที่เกิดในสมัยเอโดะ (ปี 1603 – 1868) มีอิทธิพลอย่างมากต่อจิตรกรแนวอิมเพรสชันนิสต์ตะวันตก

Nakagawa-machi Bato Hiroshige Museum of Art (พิพิธภัณฑ์ศิลปะนาคากาวะ บาโตะ ฮิโรชิเกะ) เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่จัดแสดงผลงานอันทรงค่าของอุตากาวะ ฮิโรชิเกะ ศิลปินภาพอุกิโยะ ซึ่งนักธุรกิจท้องถิ่นครอบครองไว้ก่อนที่จะเสียชีวิต

ที่นี่ออกแบบโดยคุณคุมะ เคนโกะ สถาปนิกชื่อดังที่ออกแบบสนามกีฬาแห่งชาติญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสนามกีฬาหลักสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกโตเกียวปี 2020

ด้านนอกของ Nakagawa-machi Bato Hiroshige Museum of Art ใช้ไม้สนที่ปลูกใน โทจิกิ สร้างเป็นอาคารที่มีหลังคาขนาดใหญ่ดูเหมือนบ้านไม้ชั้นเดียวของญี่ปุ่น อีกทั้งยังใช้เทคนิคและน้ำยาป้องกันเพื่อให้ติดไฟยาก

หากมาที่นี่ จะสามารถใช้เวลาสนุกเพลิดเพลินได้หลากหลายวิธี เช่น ชมแสงอ่อนๆ ที่ส่องผ่านกระดานไม้ที่จะมีทิวทัศน์เปลี่ยนไปตามแต่ละช่วงเวลา, ค่อยๆ ดื่มด่ำกับงานศิลปะแต่ละชิ้น หรือจะนั่งผ่อนคลายที่ JOZO CAFÉ/Gallery Setsugekka by Harukomaya คาเฟที่อยู่ติดกันก็ได้

Nakagawa-machi Bato Hiroshige Museum of Art

• เวลาทำการ: 9:30 – 17:00 น. (เข้าชมรอบสุดท้าย 16:30 น.)
• วันหยุด: ทุกวันจันทร์ (หากวันจันทร์ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะหยุดในวันถัดไปแทน) และวันถัดจากวันหยุดนักขัตฤกษ์ (เปิดในวันเสาร์และวันอาทิตย์)
• ที่อยู่: 116-9 Bato, Nakagawacho, Nasu, Tochigi
• ค่าเข้าชม: นิทรรศการประจำ 500 เยน นิทรรศการพิเศษ 700 เยน (สำหรับนักเรียน 300 เยน และ 400 เยน ตามลำดับ)

สำหรับรายละเอียดอื่นๆ กรุณาตรวจสอบในเว็บไซต์ทางการ

3. Michi no Eki: Mashiko ที่กลมกลืนเข้ากับชนบท มีทั้งผลผลิตทางการเกษตรไปจนถึงงานหัตถกรรมพื้นบ้าน

มิจิโนะเอกิ (Michi no Eki) เป็นจุดแวะพักรถระหว่างทาง แต่ที่นี่ไม่ได้มีแค่ผู้ขับขี่และผู้อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียงแวะมาพักผ่อนเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ซึ่งสามารถหาซื้อผักสด ผลไม้ และของฝากต่างๆ ได้ด้วย

Michi no Eki: Mashiko (มิจิโนะเอกิ มาชิโกะ) ล้อมรอบไปด้วยภูเขาและทิวทัศน์ชนบท เป็นสถานที่ซึ่งเป็นเหมือนแหล่งเติมพลังของมาชิโกะมาจิ (Mashikomachi) ย่านเครื่องปั้นดินเผาชื่อดัง ที่จุดแวะพักแห่งนี้ นอกจากจะมีผลงานมิชิโกะยากิซึ่งเป็นเครื่องปั้นดินเผาดั้งเดิมของท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยเสน่ห์มากกว่า 100 ชิ้นตั้งเรียงรายแล้ว ยังมีร้านอาหารที่สามารถเพลิดเพลินกับอาหารรสเลิศที่ใช้วัตถุดิบต่างๆ ที่ผลิตได้ในท้องถิ่น โทจิกิ และศูนย์ให้คำปรึกษาด้านการท่องเที่ยว การย้ายและตั้งถิ่นฐาน

ตัวอาคารได้รับการออกแบบในรูปลักษณ์ของภูเขา มีหน้าต่างบานใหญ่ก็ทำให้รู้สึกกลมกลืนไปกับทิวทัศน์ภายนอก สำหรับวัสดุก่อสร้างก็ใช้ไม้สนยามิโซะซึ่งผู้คนในท้องถิ่นนี้ใช้กันมาแต่ดั้งเดิม รวมทั้งดินเผาที่ใช้ทำมาชิโกะยากิด้วย

บรรยากาศโดยรวมของที่นี่สะอาดมากๆ ทำให้แค่มานั่งพักที่นี่ก็รู้สึกดี

Michi no Eki: Mashiko

• เวลาทำการ: 9:00 – 18:00 น.
• วันหยุดประจำ: วันอังคารที่ 2 ของทุกเดือน
• ที่อยู่: 2271 Nagatsutsumi, Mashikomachi, Haga, Tochigi
• ค่าเข้าชม: ー

4. STONE PLAZA – Nasu Ashino Stone Museum การฟื้นคืนชีวิตให้กับโกดังหินเก่า

อาชิโนะ (Ashino) ตั้งอยู่ในเมืองนาสุ (Nasu) จังหวัดโทจิกิ ในอดีตเคยรุ่งเรืองในฐานะแหล่งผลิตหิน
คุณคุมะ เคนโกะ สถาปนิกและช่างฝีมือด้านหินที่โดดเด่นได้รวมตัวกันที่อาชิโนะ และในปี 2001 STONE PLAZA – Nasu Ashino Stone Museum (พิพิธภัณฑ์หินสโตนพลาซ่า) ก็สร้างเสร็จสมบูรณ์ ที่นี่เป็นอาคารที่บอกเล่าถึงความลึกลับของธรณีวิทยาและชั้นหิน โดยนำโรงผลิตหินดั้งเดิมในพื้นที่นี้มาใช้ประโยชน์ ที่นี่ยังได้รับรางวัล International Stone Architecture Award 2001 จากประเทศอิตาลีด้วยนะ

STONE PLAZA – Nasu Ashino Stone Museum มีทิวทัศน์อันงดงามที่เกิดจากแสง น้ำ และหินผสานเข้ากับธรรมชาติโดยรอบอย่างกลมกลืน ภายในพิพิธภัณฑ์แผ่นหินบางๆ ที่เว้นระยะห่างและเสาหินหลากสีช่วยสร้างความหลากหลายให้กับภาพที่มองเห็นเบื้องหน้านี้

STONE PLAZA – Nasu Ashino Stone Museum

• เวลาทำการ: 10:00 – 17:00 น. (เข้าชมรอบสุดท้าย 16:30 น.)
• วันหยุดประจำ: ทุกวันจันทร์ (หากวันจันทร์เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์จะหยุดวันธรรมดาในวันถัดไปแทน) และปิดในช่วงฤดูหนาวตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์
• ที่อยู่: 2717-5 Ashino, Nasumachi, Nasu, Tochigi
• ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 800 เยน, นักเรียนประถมและมัธยมต้น 300 เยน

ขอแนะนำพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์นาสุด้วยเช่นกัน

ติดกับ STONE PLAZA – Nasu Ashino Stone Museum ก็คือพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์นาสุ (Nasu History Museum) ซึ่งออกแบบโดยคุณคุมะ เคนโกะ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์นาสุประกอบด้วยอาคาร 3 หลัง ได้แก่ จินยาอุรามง (ซุ้มประตูด้านหลังที่พักซามูไรในสมัยเอโดะ) โกดังดิน และอาคารจัดนิทรรศการ

เมื่อมองดูอาคารที่สะท้อนถึงสถาปัตยกรรมของญี่ปุ่นในอดีต จะสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย นอกจากนี้ ยังสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และสภาพดินฟ้าอากาศของพื้นที่นาสุทั้งหมดได้จากนิทรรศการอันทรงคุณค่าภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ด้วย

Nasu History Museum

• เวลาทำการ: 9:00 – 17:00 น.
• วันหยุดประจำ: ทุกวันจันทร์ (หากวันจันทร์เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะหยุดวันถัดไปแทน) และวันหยุดช่วงปีใหม่ (28 ธันวาคม ถึง 4 มกราคม)
• ที่อยู่: 2893 Ashino, Nasumachi, Nasu, Tochigi
  
• ค่าเข้าชม: 200 เยน

5. Chokkura Plaza และสถานีโฮชาคุจิ สถาปัตยกรรมในรูปแบบศิลปะรูปทรงเรขาคณิต

หลังจากที่ STONE PLAZA ซึ่งนำโรงผลิตหินเก่ากลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ ได้รับคำชื่นชมอย่างมาก คุณคุมะ เคนโกะก็ได้สร้าง Chokkura Plaza (โจคคุระพลาซ่า) ขึ้นที่สถานี JR โฮชาคุจิ (JR Hoshakuji) เพื่อเป็นสถานที่แห่งการแลกเปลี่ยนของชาวเมือง โดยใช้หินโอยะ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของท้องถิ่น

ผนังด้านนอกซึ่งวาดลวดลายสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนต่อเนื่องกัน ทำลายภาพลักษณ์ของวัสดุประเภทหินที่ปกติจะให้ความรู้สึกหนักอึ้งไป เมื่อเดินชมลวดลายเรขาคณิตที่ผนังด้านนอก ไม่นานนักก็จะพบกับทางเข้ารูปสามเหลี่ยม

เมื่อเข้าไปในอาคารแล้ว เรามองเห็นภาพอันงดงามละลานตาจากแสงแดดที่ส่องผ่านระหว่างช่องหิน

โดยเฉพาะที่อาคารของสถานี JR โฮชาคุจิซึ่งอยู่ติดกับ Chokkura Plaza มีเพดานรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนที่ต่อเนื่องเหมือนไม่สิ้นสุดนี้ก็ช่างดูสะดุดตามากๆ

เพดานที่ใช้ลักษณ์ความเป็นลูกคลื่นได้อย่างยอดเยี่ยมนี้ เป็นการออกแบบที่โดดเด่นซึ่งสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลของไม้ สุนทรียศาสตร์ของคุณคุมะ เคนโกะได้เปลี่ยนสถานีรถไฟแห่งนี้ให้กลายเป็นสถานที่ที่น่าจดจำ ไม่ใช่แค่ระบบขนส่งมวลชนซั่งเป็นเพียงแค่ทางผ่านเท่านั้น

Chokkura Information Center

• เวลาทำการ: 9:00-21:00 น.
• ที่อยู่: 2416 Hoshakuji, Takanezawacho, Tochigi
• ค่าเข้าชม: ー