เที่ยวเคปทาวน์, แอฟริกาใต้: 9 ที่เที่ยวสุดว้าวที่ใครๆ ก็ไม่พลาด
เมื่อไปเที่ยวฝั่งทวีปแอฟริกา เมือง เคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ คือจุดหมายปลายทางที่ไม่อาจมองข้ามสำหรับนักเดินทางเลยก็ว่าได้ เพราะทั้งอากาศที่ดีตลอดปี ที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติอันสวยงาม เมื่อไป เที่ยวเคปทาวน์ กิจกรรมห้ามพลาดก็มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการปีนเขา ไปชมแหลม กู๊ดโฮป อันขึ้นชื่อ ดูนกเพนกวินน่ารักๆ ที่ หาดโบลเดอร์ส และที่พลาดไม่ได้ก็คือสถานที่ทางประวัติศาสตร์อย่าง เกาะร็อบเบน สถานที่ที่เนลสัน แมนเดลล่าเคยถูกจองจำเป็นเวลานานถึง 18 ปีเลยทีเดียว
1. สวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติเคียร์ชเตนบอช (Kirstenbosch National Botanical Garden)
สวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติเคียร์ชเตนบอช โดดเด่นทั้งในเรื่องการท่องเที่ยวและการอนุรักษ์ ที่นี่คือหนึ่งในสวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติจากสิบแห่งที่เน้นอนุรักษ์ดูแลสายพันธุ์ต้นไม้พื้นเมืองต่างๆ สวนแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1913 เพื่อเพาะปลูกและอนุรักษ์พืชพื้นเมืองในแอฟริกาใต้ และเต็มไปด้วยสายพันธุ์พืชพื้นเมืองในคาบสมุทรเคปเพนนินซูล่า (Cape Peninsula) มากกว่า 2,500 สายพันธุ์เลยทีเดียว
สวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติเคียร์ชเตนบอช คือสถานที่ที่เหมาะสุดๆ ที่จะไปเที่ยวกับครอบครัวหรือจะไปเที่ยวคนเดียวก็ดีงามเหมือนกัน สวนจัดแสดงต่างๆ เช่น Fragrance Garden และ Braille Trail ก็มีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำแถมได้ความรู้ไปในตัว นอกจากนี้ยังมีคอนเสิร์ตและมีการฉายหนังตอนเย็นที่โรงภาพยนตร์ The Galileo Open Air Cinema ใครอยากชมวิวมุมสูง ขอแนะนำให้ไปเดินข้ามสะพานแขวนที่ Boomslang Canopy Trail อย่าลืมพาเด็กๆ ไปดูรูปปั้นไดโนเสาร์ขนาดเท่าของจริงใกล้ๆ กับ Cycad Amphitheatre ด้วย นอกจากนี้ยังมีสถานที่เที่ยวห้ามพลาดอื่นๆ อีก เช่น Fynbos Walk, และสวนอนุรักษ์ Conservatory and the Kirstenbosch Garden of Extinction
สวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติเคียร์ชเตนบอช ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของ อุทยานแห่งชาติเทเบิ้ลเมาท์เท่น (Table Mountain National Park) ในเขตนิวแลนด์ สวนเปิดให้เข้าตั้งแต่เวลา 8.00-17.00 น. ตั้งแต่เดือนกันยายนถึงมีนาคม และเวลา 8.00-18.00 น. ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงสิงหาคม ผู้ใหญ่เสียค่าเข้า 75 แรนด์ ส่วนเด็กๆ อายุต่ำกว่า 6 ปีเข้าฟรี!
เข้าพักที่ Banksia Boutique Hotel & Spa, แล้วออกไปเที่ยว สวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติเคียร์ชเตนบอช
ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดในเคปทาวน์
2. อุทยานแห่งชาติเทเบิ้ลเมาท์เท่น (Table Mountain National Park)
ว่ากันว่าใครที่ไป เคปทาวน์ แล้วไม่ได้ไปชมวิวจาก ภูเขาโต๊ะ (Table Mountain) ใน อุทยานแห่งชาติเทเบิ้ลเมาท์เท่น แล้วล่ะก็ ถือว่ายังมาไม่ถึงเมืองนี้อย่างเป็นทางการ สวนสวรรค์แห่งนี้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลกยุคใหม่ เต็มไปด้วยพืชพันธุ์สัตว์ป่าอันหลากหลาย และยังมองเห็นวิวอลังการของเมือง เคปทาวน์ และมหาสมุทรแอตแลนติกด้วย
ภูเขาที่มียอดอันราบเรียบแลดูเหมือนโต๊ะแห่งนี้มีความยาวเกือบสามกิโลเมตร ทางเดินเขาอันคดเคี้ยวนำไปสู่ยอดเขาอย่างเช่น Devils peak, Maclear’s Beacon และ Lion’s Head บนเนินเขา Signal Hill บรรดานักเดินเขามักจะเดินไปที่หุบเขา Valley of the Red Gods และช่องเขา Frustration Gorge ก่อนจะข้ามสะพานไปสู่ช่องเขา Skeleton Gorge นอกจากนี้ยังมีถ้ำ Woodstock Cave ที่ควรค่าแก่การสำรวจ และใกล้ๆ ถ้ำก็มีน้ำตกสองแห่งที่เหมาะแก่การไปนั่งพักชิลๆ ด้วย
นักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสความสวยงามของวิวจาก ภูเขาโต๊ะ โดยไม่ต้องเหนื่อยสามารถนั่งรถกระเช้าที่ Table Mountain Aerial Cableway ได้ โดยเปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 8.00-17.00 น. รถเที่ยวสุดท้ายลงจากภูเขาตอนสองทุ่ม ค่าตั๋วไปกลับอยู่ที่ 350 แรนด์สำหรับผู้ใหญ่, 180 แรนด์สำหรับเด็กอายุ 4-17 ปี, และ 100 แรนด์สำหรับผู้สูงอายุ
เข้าพักที่ Alphen Boutique Hotel, แล้วออกไปเที่ยว อุทยานแห่งชาติภูเขาเทเบิ้ลเมาท์เท่น
ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดในเคปทาวน์
3. หาดโบลเดอร์ส (Boulders Beach)
หาดโบลเดอร์ส เป็นสถานที่เที่ยวที่แทบไม่เหมือนที่ไหนบนโลก เพราะชายหาดแห่งนี้เป็นทั้งโซนอนุรักษ์เจ้าเพนกวินและชายหาดสำหรับว่ายน้ำเล่น นี่อาจจะเป็นที่เดียวบนโลกด้วยซ้ำที่นักท่องเที่ยวจะสามารถใกล้ชิดกับเพนกวินแอฟริกันได้ขนาดนี้ ชายหาดบริเวณอ่าว False Bay ถูกรายล้อมด้วยโขดหินน้อยใหญ่ กั้นเป็นชายหาดส่วนตัวพร้อมๆ กับเป็นอ่าวอันปลอดภัยสำหรับเจ้าเพนกวินทั้งหลาย แม้ว่าบริเวณว่ายน้ำจะแยกออกจากบริเวณที่เพนกวินอาศัยอยู่ แต่เจ้าสัตว์น่ารักน่าเอ็นดูพวกนี้จะไปไหนก็ได้ตามอำเภอใจ เพราะฉะนั้นการได้ว่ายน้ำกับเพนกวินจึงถือเป็นเรื่องปกติไปเลยในบริเวณ หาดโบลเดอร์ส
หาดโบลเดอร์ส คือส่วนหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติเทเบิ้ลเมาท์เท่น ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของคาบสมุทรเคปเพนนินซูล่า นักท่องเที่ยวต้องเสียค่าเข้าชมหาด โดยชายหาดจะเปิดตั้งแต่เวลา 8.00-19.30 น. ในเดือนธันวาคมถึงมกราคม, เวลา 8.00-18.30 น. ในเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน, เวลา 8.00-17.00 น. ในเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน และเวลา 8.00-18.30 น. ในเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน
เข้าพักที่ Admiralty B & B, แล้วออกไปเที่ยว หาดโบลเดอร์ส
ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดในเคปทาวน์
4. เกาะร็อบเบน (Robben Island)
หนึ่งในกิจกรรมห้ามพลาดเมื่อมาเยือน เคปทาวน์ ก็คือการไปเที่ยวที่ เกาะร็อบเบน เกาะพื้นที่ราบแห่งนี้เคยถูกใช้เป็นเรือนจำเพื่อคุมขังผู้นำทางการเมืองและนักต่อสู้เพื่ออิสรภาพเป็นส่วนใหญ่ตั้งแต่ช่วงกลางทศวรรษ 1660 จนถึงปีค.ศ. 1996 เกาะแห่งนี้ยังถูกใช้เป็นสถานที่กักกันคนเป็นโรคเรื้อนและสถานที่กักกันสัตว์ในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ด้วย
หนึ่งในนักโทษการเมืองที่มีชื่อเสียงที่เคยถูกจองจำบน เกาะร็อบเบน ก็คือเนลสัน แมนเดลา เขาถูกคุมขังอยู่บนเกาะแห่งนี้นานถึง 18 ปีก่อนที่ปัญหาการเหยียดผิวจะเบาบางลง นักโทษการเมืองอีกสองคนที่เคยถูกคุมขังอยู่ที่นี่คือ Kgalema Motlanthe และ Jacob Zuma ซึ่งกลายมาเป็นประธานาธิบดีของประเทศแอฟริกาใต้เช่นกัน เกาะร็อบเบน ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก้และเป็นมรดกแห่งชาติของแอฟริกาใต้ด้วย
มีทัวร์บริการทุกวันจาก The Nelson Mandela Gateway ไปยังเกาะร็อบเบน และนำทัวร์โดยอดีตนักโทษที่จะเล่าเรื่องส่วนตัวและให้ความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ยาวนาน 500 ปีของเกาะแห่งนี้ ทัวร์ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง โดยรวมการนั่งเรือเฟอร์รี่ไปกลับจากเกาะด้วย ผู้สนใจสามารถจองทางออนไลน์ได้และต้องจองล่วงหน้า ทัวร์จะจัดเพียงสี่รอบต่อวันในเวลา 9.00, 11.00, 13.00 และ 15.00 ค่าทัวร์สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติคือ 550 แรนด์สำหรับผู้ใหญ่ และ 300 แรนด์สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี
เข้าพักที่ Helpmin Hotel, แล้วออกไปเที่ยว เกาะร็อบเบน
ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดในเคปทาวน์
5. แหลมกู๊ดโฮป (Cape of Good Hope)
แหลมกู๊ดโฮป คือสวรรค์ของนักเดินเขา เพราะที่นี่มีวิวและมีเส้นทางเดินสำรวจอันแสนจะดีงาม แหลมนี้ตั้งอยู่บนมหาสมุทรแอตแลนติก ไม่เพียงแหลมนี้จะเป็นจุดชมวิวที่สวยสุดๆ แต่ยังเป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสำหรับสัตว์ป่าและพืชพันธุ์ของทวีปแอฟริกาด้วย ใครจะรู้ว่าเดินๆ อยู่อาจจะได้เจอม้าลายระหว่างทางก็ได้ นอกจากนี้ก็จะได้เห็นส่วนต่างๆ ของแหลมด้วย ไม่ว่าจะเป็น ประภาคาร New Cape Point Lighthouse และ ประภาคาร Cape of Good Hope Old Lighthouse ส่วนใครที่เป็นสายเทร็คจริงจังก็สามารถเลือกทัวร์แบบค้างคืนเพื่อไปสำรวจให้ครบทุกส่วนของ แหลมเคปพ้อยต์ (Cape Point), แหลมกู๊ดโฮป และ อุทยานแห่งชาติเทเบิ้ลเมาท์เท่น ได้เช่นกัน
[เส้นทางเดินแบบง่ายที่แหลมเคปพอยต์และแหลมกู๊ดโฮป]
- Lighthouse Keeper’s Trail – เส้นทางที่จะไปถึง ประภาคาร Cape of Good Hope Old Lighthouse และ ประภาคาร Cape Point
- Cape of Good Hope Trail – เส้นทางนี้จะผ่านป้าย แหลมกู๊ดโฮป ผ่าน หาดดิอาซ (Diaz Beach) และไปยังจุดใต้สุดของคาบสมุทรเคปเพนนินซูล่า
- Antoniesgat Trail – ผ่านเส้นทางที่จะไปชายหาด Buffels Bay Beach ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถลงว่ายน้ำ สำรวจถ้ำ และเอ็นจอยบาร์บีคิวได้
- Shipwreck Trail – เส้นทางเดินสุดพิเศษ (และเป็นที่นิยมที่สุดเส้นทางหนึ่ง) ซึ่งอธิบายถึงความสำคัญของ แหลมเคปพ้อยต์ ในด้านการเดินเรือ
[เส้นทางเดินแบบค้างคืนที่แหลมเคปพ้อยต์และแหลมกู๊ดโฮป]
Buffelsfontein Visitor Centre ซึ่งตั้งอยู่ตรงทางเข้าของแหลม จัดบริการทัวร์คาบสมุทรแบบค้างคืน ผู้ที่สนใจจะต้องจองทัวร์ล่วงหน้า จัดการหาที่นอนเอง และแข็งแรงพอที่จะเดินจนจบเส้นทาง
- เส้นทางเดินแหลมกู๊ดโฮป (Cape of Good Hope Trail) – ทัวร์เดินสองวันหนึ่งคืน เริ่มต้นที่ แหลมเคปพ้อยต์ เดินเป็นเส้นทางวงกลมระยะทาง 33.8 กิโลเมตรรอบเขตอนุรักษ์ธรรมชาติ โดยมีกระท่อมเรียบง่ายให้พัก และสามารถทำอาหารได้
- The Hoerikwaggo Trail – ทัวร์เทร็คกิ้งห้าวันสี่คืน โดยเริ่มต้นที่ปลายใต้สุดของคาบสมุทรเคปเพนนินซูล่า และเดินครอบคลุมระยะทางทั้งหมดของ อุทยานแห่งชาติเทเบิ้ลเมาท์เท่น มีเต้นท์ให้พักระหว่างทาง มีอุปกรณ์และฟืนทำอาหารจัดให้ โดยการเดินจะจบลงที่ Platteklip Wash House ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก ตัวเมืองเคปทาวน์
เข้าพักที่ Watercolours House, แล้วออกไปเที่ยว แหลมกู๊ดโฮป
ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดในเคปทาวน์
6. พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Zeitz Museum of Contemporary Art Africa
พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Zeitz Museum of Contemporary Art Africa คือหนึ่งในสถานที่เที่ยวแห่งใหม่ของ เคปทาวน์ และเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะแอฟริกันร่วมสมัยที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย แค่ตัวตึกพิพิธภัณฑ์ก็น่าตื่นตาแล้ว เพราะครั้งหนึ่งตึกนี้เคยเป็นไซโลเก็บเมล็ดพืช ซึ่งเป็นหัวใจหลักทางด้านอุตสาหกรรมของเมืองริมน้ำแห่งนี้ ด้านในพิพิธภัณฑ์มีศิลปะจัดแสดงในแกลเลอรี่มากกว่า 80 ห้อง ทั้งหมดสร้างมาจากกระบอกคอนกรีตซึ่งครั้งหนึ่งเคยใช้เป็นที่เก็บเมล็ดพืชจำนวนมาก
พิพิธภัณฑ์ศิลปะZeitz Museum of Contemporary Art Africa เปิดให้บริการตอนปลายปีค.ศ. 2017 และตอนนี้ก็ดึงดูดนึกท่องเที่ยวได้มากกว่า 24 ล้านคนในแต่ละปี พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับศูนย์การค้า V&A Waterfront, ชิงช้าสวรรค์ The Cape Wheel, ตลาด Cape Town Fish Market, หอนาฬิกา Clock Tower Waterfront และ พิพิธภัณฑ์ The Nelson Mandela Gateway to Robben Island
พิพิธภัณฑ์เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. ค่าเข้าชม 200 แรนด์สำหรับผู้ใหญ่ เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีเข้าฟรี
หากอยากได้ประสบการณ์เที่ยว เคปทาวน์ แบบแท้ๆ สไตล์ดั้งเดิม ขอแนะนำให้ไปพักที่ The Silo Hotel ซึ่งสร้างจากไซโลเก่า และเชื่อมต่อกับตัวพิพิธภัณฑ์ด้วย
เข้าพักที่ The Silo Hotel, แล้วออกไปเที่ยว ศูนย์การค้า V&A Waterfront
ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดในเคปทาวน์
7. ทางเดินริมทะเล Sea Point Promenade
ทางเดินริมทะเล Sea Point Promenade หรือที่คนท้องถิ่นเรียกกันว่า “The Prom” เป็นมากกว่าทางเดินริมทะเลทั่วๆ ไป ทางเดินนี้ทอดยาวตั้งแต่ Mouille Point ไปจนถึง Sea Point Promenade ด้านหนึ่งติดกับมหาสมุทรแอตแลนติก ส่วนอีกด้านติดภูเขา Signal Hill กลายเป็นเส้นทางเดินวิวงามๆ ที่มักจะมีคนมาปั่นจักรยาน มาเดิน และมาวิ่งอยู่ตลอด นอกจากนี้ยังมีสถานที่มากมายให้แวะระหว่างทาง ไม่ว่าจะเป็นสวนสนุก The Blue Train Park, สวนสาธารณะ, สนามเด็กเล่น รวมถึง ประภาคารกรีนพอยต์ (Green Point Lighthouse) ด้วย ส่วนชายหาด Milton และสระว่ายน้ำ Sea Point Pavilion Swimming Pool ก็เป็นจุดแวะเที่ยวยอดนิยมเช่นเดียวกัน
เข้าพักที่ Blackheath Lodge, แล้วออกไปเที่ยว ทางเดินริมทะเล Sea Point Promenade
ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดในเคปทาวน์
8. ตลาด The Neighbourgoods Market
ใครสายเดินตลาดที่หลงรักของน่ารักๆ และสรรพสิ่งโลคอลจะต้องหลงรักตลาด The Neighbourgoods Market แห่งนี้แน่นอน ตลาดนัดวันเสาร์แห่งนี้เริ่มเปิดบริการมาตั้งแต่ปีค.ศ. 2006 เพื่อสร้างความมีชีวิตชีวาให้กับย่าน Woodstock แห่งนี้ และบรรดาพ่อค้าแม่ขายก็จะขายสินค้าท้องถิ่นมากมาย สร้างความคึกคักให้ชุมชน ตลาดแห่งนี้ประสบความสำเร็จมากมายจนเริ่มมีตลาดคล้ายๆ กันเกิดขึ้นทั่วเมืองเคปทาวน์ ปัจจุบันมีสินค้าขายมากมายตั้งแต่ของสด ขนมของหวาน เสื้อผ้าแฮนด์เมด ไปจนถึงเครื่องประดับ
ตลาด The Neighbourgoods Market เปิดทุกวันเสาร์ตั้งแต่เวลา 9.00-15.00 น. ตลาดตั้งอยู่บริเวณถนนอัลเบิร์ต ระหว่างสถานีรถไฟ Woodstock และ Salt River
เข้าพักที่ Happy Home – Woodstock, แล้วออกไปเที่ยว Cape Town City Centre
ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดในเคปทาวน์
9. พิพิธภัณฑ์ District Six Museum
อีกหนึ่งสถานที่น่าสนใจและควรค่าแก่การแวะอีกหนึ่งแห่งของ เคปทาวน์ ก็คือพิพิธภัณฑ์ District Six Museum ซึ่งถือเป็นอนุสรณ์สถานระลึกถึงผู้คน 60,000 ชีวิตในเขตนี้ที่ถูกบังคับให้ออกจากบ้านของพวกเขาในช่วงการเหยียดผิวในประเทศแอฟริกาใต้ในช่วงทศวรรษ 1970 การเหยียดผิวนี้กินเวลายาวนานตั้งแต่ค.ศ. 1948 จนถึงช่วงต้นทศวรรษ 1990
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้เก็บรวบรวมมรดกและวัฒนธรรมของผู้คนในเขตนี้เอาไว้ในช่วงเวลานั้น โดยบอกเล่าเรื่องราวของพวกเขาผ่านภาพถ่ายและสิ่งของต่างๆ ที่เก็บมาจากพื้นที่ การจัดแสดงป้ายถนน ของตกแต่งบ้าน และสิ่งของที่ใช้ในการโฆษณาชวนเชื่อต่างๆ ช่วยอธิบายถึงความยากลำบากที่ชาวเมืองต้องยอมทน ผู้คนที่เคยอาศัยในเขตนี้หลายคนได้เข้ามาช่วยนำทัวร์ด้วย พร้อมบอกเล่าเรื่องราวส่วนตัวถึงสภาพความเป็นอยู่ใน เคปทาวน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขต District Six ในช่วงการเหยียดผิว
พิพิธภัณฑ์ District Six Museum เปิดตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ เวลา 9.00-16.00 น. ค่าเข้าชมแบบไม่มีคนนำทัวร์ราคา 45 แรนด์ แบบมีผู้ที่เคยอาศัยในเขตนี้นำทัวร์ราคา 60 แรนด์ ทัวร์มีทั้งหมด 4 รอบคือ 9.30, 10.30, 11.30 และ 14.30 น. สามารถซื้อตั๋วหน้างานได้ แต่ขอแนะนำให้จองล่วงหน้าทางออนไลน์ก็จะชัวร์กว่า
พิพิธภัณฑ์ยังตั้งอยู่ใกล้กับ กลางเมืองเคปทาวน์ (Capetown City Centre) ซึ่งก็ใกล้กับสถานที่เที่ยวยอดฮิตอื่นๆ ของเมืองด้วย
[สถานที่เที่ยวใจกลางเมืองเคปทาวน์]
- ตึกรัฐสภา (Parliament Towers), บ้านพักทาสไอซิโก้ (Iziko Slave Lodge) และ ศาลากลางเมืองเคปทาวน์ (Cape Town City Hall) – ตึกสำคัญทางประวัติศาสตร์และการเมือง มีสถาปัตยกรรมงดงาม
- ปราสาทแห่งกู๊ดโฮป (Castle of Good Hope) – ป้อมปราการสมัยศตววรษที่ 17 ที่เคยถูกใช้เป็นฐานทัพของทหารแอฟริกาใต้
- จัตุรัสกรีนมาร์เก็ต (Greenmarket Square) และ ถนนลอง (Long Street) – ตลาดนัดและย่านช้อปปิ้ง
- สวนสาธารณะคอมปานี (The Company’s Garden) – สวนสาธารณะสำคัญที่อยู่ใกล้กับ หอศิลป์แห่งชาติแอฟริกาใต้ (South African National Gallery), พิพิธภัณฑ์ Cape Town Holocaust and Genocide Centre, พิพิธภัณฑ์ Iziko South African Museum และ โรงละคร The Labia Theatre
- ศูนย์ศิลปะ Artscape Theatre Centre – สถานที่จัดแสดงละครเพลง โอเปร่า และเทศกาลห้ามพลาดต่างๆ
เข้าพักที่ Wish U Were Here Cape Town Hotel, แล้วออกไปเที่ยว ใจกลางเมืองเคปทาวน์
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ไขความลับของไฮเดอราบัดด้วยแผนการเดินทาง 3 วันของเรา ตั้งแต่สิ่งมหัศจรรย์ทางประวัติศาสตร์อย่างชาร์มินาร์ไปจนถึงรสชาติของข้าวหมกบริยานีไฮเดอราบัด เริ่มต้นการเดินทางผ่านเมืองแห่งไข่มุก
เริ่มต้นวันหยุดสุดสัปดาห์ที่น่าจดจำในเจียอี้ (Chiayi) ประเทศไต้หวัน! สำรวจป่าโบราณ มรดกทางวัฒนธรรม และอาหารข้างทางที่เย้ายวนใจด้วยแผนการเดินทาง 3 วันที่ครอบคลุมของเรา
เริ่มต้นการผจญภัย 3 วันที่น่าจดจำในอัมสเตอร์ดัม! สำรวจสถานที่ท่องเที่ยวอันเป็นเอกลักษณ์ อัญมณีที่ซ่อนอยู่ และวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา เหมาะสำหรับผู้ที่มาครั้งแรก คู่มือนี้นำเสนอการผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์ ศิลปะ และอาหารเลิศรส
เริ่มต้นการเดินทางทางวัฒนธรรมที่น่าจดจำผ่านนาริตะด้วยแผนการเดินทาง 5 วันของเรา ค้นพบวัดวาอาราม ลิ้มรสอาหารท้องถิ่น และสำรวจอัญมณีที่ซ่อนอยู่กับอโกด้า
ดำดิ่งสู่แผนการเดินทาง 3 วันในมิลานของเรา และค้นพบศิลปะ แฟชั่น และวัฒนธรรมที่ดีที่สุดของมิลาน ค้นพบสถานที่สำคัญอันเป็นสัญลักษณ์ ลิ้มรสอาหารท้องถิ่น และดื่มด่ำไปกับความสง่างามของมิลาน
ค้นพบสุดยอดคู่มือเพื่อความสนุกสนานสำหรับครอบครัวในเซี่ยงไฮ้! แผนการเดินทาง 5 วันของเราเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับเด็ก การผจญภัยทางวัฒนธรรม และเคล็ดลับสำหรับประสบการณ์ที่น่าจดจำ จากดิสนีย์แลนด์ไปจนถึงสวนเก่าแก่ ค้นหาทุกสิ่งที่คุณต้องการสำหรับวันหยุดพักผ่อนของครอบครัวที่มีมนต์ขลังในเซี่ยงไฮ้
สำรวจแผนการเดินทาง Yufu 4 วันของเรา! ดื่มด่ำไปกับวัฒนธรรมออนเซ็น ลิ้มรสอาหารท้องถิ่น และโอบกอดธรรมชาติ
ค้นพบความมหัศจรรย์ของเก็นติ้งไฮแลนด์ด้วยสุดยอดแผนการเดินทางช่วงวันหยุดของครอบครัว 4 วันของเรา สำรวจสวนสนุก สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ และอัญมณีทางวัฒนธรรม
ค้นพบฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา ด้วยแผนการเดินทางท่องเที่ยวขั้นสูงสุดของเรา ดำดิ่งสู่วัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา ทิวทัศน์อันน่าทึ่ง และการผจญภัยอันน่าจดจำใน Valley of the Sun เป็นเวลา 3 วัน
ค้นพบสุดยอดแผนการเดินทางลังกาวี 3 วัน! ดื่มด่ำไปกับชายหาดที่สวยงาม การนั่งกระเช้าลอยฟ้าอันน่าตื่นเต้น และประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา
เริ่มต้นการเดินทาง 3 วันอันน่าหลงใหลผ่านเมดานด้วยแผนการเดินทางสุดพิเศษของเรา ตั้งแต่สถานที่ทางประวัติศาสตร์ไปจนถึงอาหารรสเลิศและทิวทัศน์อันน่าทึ่ง
เริ่มต้นการเดินทาง 3 วันผ่านเซนได เมืองแห่งต้นไม้ของญี่ปุ่น สำรวจสถานที่ทางประวัติศาสตร์ สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ และอาหารเลิศรสในแผนการเดินทางที่ครอบคลุมนี้
ค้นพบขุมทรัพย์แห่งเจนไนด้วยแผนการเดินทาง 3 วันของเรา ดื่มด่ำกับเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมของอินเดียใต้ตั้งแต่วัดวาอารามไปจนถึงชายหาด
ค้นพบเมืองโบกอร์อันมีเสน่ห์ด้วยแผนการเดินทางช่วงสุดสัปดาห์ของเรา ตั้งแต่สวนพฤกษศาสตร์อันเขียวชอุ่มไปจนถึงวิวภูเขาอันตระการตา รับรองว่าการพักผ่อนจะเป็นที่น่าจดจำ
เริ่มต้นการเดินทาง 3 วันอันน่าจดจำผ่านความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของเขาใหญ่ สำรวจอุทยานแห่งชาติอันเขียวชอุ่ม ไร่องุ่นอันเงียบสงบ และสถานที่ทางวัฒนธรรมอันอุดมสมบูรณ์ ดำดิ่งสู่แผนการเดินทางของเราเพื่อหลีกหนีจากการผจญภัยไปสู่ภูมิประเทศอันน่าทึ่งของประเทศไทย
ค้นพบสิ่งที่ดีที่สุดของซกโชด้วยคู่มือกำหนดการเดินทาง 3 วันของเรา จากยอดเขาซอรัคซานไปจนถึงอัญมณีแห่งการทำอาหารของซกโช เริ่มต้นการเดินทางอันน่าจดจำ
ค้นพบสิ่งที่ดีที่สุดของซานฟรานซิสโกในช่วงสุดสัปดาห์! ตั้งแต่ประตูทองอันโด่งดังไปจนถึงอัญมณีที่ซ่อนอยู่ คู่มือของเราครอบคลุมสถานที่กิน เข้าพัก และสำรวจ เริ่มต้นการผจญภัยในเมืองที่น่าจดจำของคุณตอนนี้!
เริ่มต้นการผจญภัย 5 วันในมิริ อัญมณีที่ซ่อนอยู่ของซาราวัก เพื่อสำรวจภูมิทัศน์ทางธรรมชาติที่น่าทึ่ง มรดกทางวัฒนธรรมอันยาวนาน และฉากท้องถิ่นที่มีชีวิตชีวา เริ่มต้นการเดินทางของคุณตอนนี้!
ค้นพบสิ่งที่ดีเลิศของความหรูหราริมชายหาดในไมอามีด้วยคู่มือแนะนำโรงแรมพร้อมวิวทะเลที่หรูหราที่สุดของเมือง พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสุดพิเศษและทิวทัศน์อันน่าทึ่ง
ค้นพบความลับของป้อม Golconda ในไฮเดอราบัดด้วยคู่มือการเดินทางฉบับสมบูรณ์ของเรา ตั้งแต่ประวัติศาสตร์อันน่าหลงใหลของป้อมไปจนถึงที่พักหรูหราและราคาประหยัดในบริเวณใกล้เคียง เริ่มต้นการเดินทางข้ามกาลเวลา
สัมผัสประสบการณ์พระอาทิตย์ขึ้นอันมหัศจรรย์ที่อาลีซาน ประเทศไต้หวัน และสำรวจความงามอันเขียวชอุ่มและความลึกซึ้งทางวัฒนธรรมของพื้นที่จุดชมวิวแห่งชาติอาลีซานพร้อมคู่มือท่องเที่ยวที่ครอบคลุมของเรา
เมื่อไปเที่ยวฝั่งทวีปแอฟริกา เมือง เคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ คือจุดหมายปลายทางที่ไม่อาจมองข้ามสำหรับนักเดินทางเลยก็ว่าได้ เพราะทั้งอากาศที่ดีตลอดปี ที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติอันสวยงาม เมื่อไป เที่ยวเคปทาวน์ กิจกรรมห้ามพลาดก็มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการปีนเขา ไปชมแหลม กู๊ดโฮป อันขึ้นชื่อ ดูนกเพนกวินน่ารักๆ ที่ หาดโบลเดอร์ส และที่พลาดไม่ได้ก็คือสถานที่ทางประวัติศาสตร์อย่าง เกาะร็อบเบน สถานที่ที่เนลสัน แมนเดลล่าเคยถูกจองจำเป็นเวลานานถึง 18 ปีเลยทีเดียว
1. สวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติเคียร์ชเตนบอช (Kirstenbosch National Botanical Garden)
สวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติเคียร์ชเตนบอช โดดเด่นทั้งในเรื่องการท่องเที่ยวและการอนุรักษ์ ที่นี่คือหนึ่งในสวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติจากสิบแห่งที่เน้นอนุรักษ์ดูแลสายพันธุ์ต้นไม้พื้นเมืองต่างๆ สวนแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1913 เพื่อเพาะปลูกและอนุรักษ์พืชพื้นเมืองในแอฟริกาใต้ และเต็มไปด้วยสายพันธุ์พืชพื้นเมืองในคาบสมุทรเคปเพนนินซูล่า (Cape Peninsula) มากกว่า 2,500 สายพันธุ์เลยทีเดียว
สวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติเคียร์ชเตนบอช คือสถานที่ที่เหมาะสุดๆ ที่จะไปเที่ยวกับครอบครัวหรือจะไปเที่ยวคนเดียวก็ดีงามเหมือนกัน สวนจัดแสดงต่างๆ เช่น Fragrance Garden และ Braille Trail ก็มีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำแถมได้ความรู้ไปในตัว นอกจากนี้ยังมีคอนเสิร์ตและมีการฉายหนังตอนเย็นที่โรงภาพยนตร์ The Galileo Open Air Cinema ใครอยากชมวิวมุมสูง ขอแนะนำให้ไปเดินข้ามสะพานแขวนที่ Boomslang Canopy Trail อย่าลืมพาเด็กๆ ไปดูรูปปั้นไดโนเสาร์ขนาดเท่าของจริงใกล้ๆ กับ Cycad Amphitheatre ด้วย นอกจากนี้ยังมีสถานที่เที่ยวห้ามพลาดอื่นๆ อีก เช่น Fynbos Walk, และสวนอนุรักษ์ Conservatory and the Kirstenbosch Garden of Extinction
สวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติเคียร์ชเตนบอช ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของ อุทยานแห่งชาติเทเบิ้ลเมาท์เท่น (Table Mountain National Park) ในเขตนิวแลนด์ สวนเปิดให้เข้าตั้งแต่เวลา 8.00-17.00 น. ตั้งแต่เดือนกันยายนถึงมีนาคม และเวลา 8.00-18.00 น. ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงสิงหาคม ผู้ใหญ่เสียค่าเข้า 75 แรนด์ ส่วนเด็กๆ อายุต่ำกว่า 6 ปีเข้าฟรี!
เข้าพักที่ Banksia Boutique Hotel & Spa, แล้วออกไปเที่ยว สวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติเคียร์ชเตนบอช
ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดในเคปทาวน์
2. อุทยานแห่งชาติเทเบิ้ลเมาท์เท่น (Table Mountain National Park)
ว่ากันว่าใครที่ไป เคปทาวน์ แล้วไม่ได้ไปชมวิวจาก ภูเขาโต๊ะ (Table Mountain) ใน อุทยานแห่งชาติเทเบิ้ลเมาท์เท่น แล้วล่ะก็ ถือว่ายังมาไม่ถึงเมืองนี้อย่างเป็นทางการ สวนสวรรค์แห่งนี้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลกยุคใหม่ เต็มไปด้วยพืชพันธุ์สัตว์ป่าอันหลากหลาย และยังมองเห็นวิวอลังการของเมือง เคปทาวน์ และมหาสมุทรแอตแลนติกด้วย
ภูเขาที่มียอดอันราบเรียบแลดูเหมือนโต๊ะแห่งนี้มีความยาวเกือบสามกิโลเมตร ทางเดินเขาอันคดเคี้ยวนำไปสู่ยอดเขาอย่างเช่น Devils peak, Maclear’s Beacon และ Lion’s Head บนเนินเขา Signal Hill บรรดานักเดินเขามักจะเดินไปที่หุบเขา Valley of the Red Gods และช่องเขา Frustration Gorge ก่อนจะข้ามสะพานไปสู่ช่องเขา Skeleton Gorge นอกจากนี้ยังมีถ้ำ Woodstock Cave ที่ควรค่าแก่การสำรวจ และใกล้ๆ ถ้ำก็มีน้ำตกสองแห่งที่เหมาะแก่การไปนั่งพักชิลๆ ด้วย
นักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสความสวยงามของวิวจาก ภูเขาโต๊ะ โดยไม่ต้องเหนื่อยสามารถนั่งรถกระเช้าที่ Table Mountain Aerial Cableway ได้ โดยเปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 8.00-17.00 น. รถเที่ยวสุดท้ายลงจากภูเขาตอนสองทุ่ม ค่าตั๋วไปกลับอยู่ที่ 350 แรนด์สำหรับผู้ใหญ่, 180 แรนด์สำหรับเด็กอายุ 4-17 ปี, และ 100 แรนด์สำหรับผู้สูงอายุ
เข้าพักที่ Alphen Boutique Hotel, แล้วออกไปเที่ยว อุทยานแห่งชาติภูเขาเทเบิ้ลเมาท์เท่น
ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดในเคปทาวน์
3. หาดโบลเดอร์ส (Boulders Beach)
หาดโบลเดอร์ส เป็นสถานที่เที่ยวที่แทบไม่เหมือนที่ไหนบนโลก เพราะชายหาดแห่งนี้เป็นทั้งโซนอนุรักษ์เจ้าเพนกวินและชายหาดสำหรับว่ายน้ำเล่น นี่อาจจะเป็นที่เดียวบนโลกด้วยซ้ำที่นักท่องเที่ยวจะสามารถใกล้ชิดกับเพนกวินแอฟริกันได้ขนาดนี้ ชายหาดบริเวณอ่าว False Bay ถูกรายล้อมด้วยโขดหินน้อยใหญ่ กั้นเป็นชายหาดส่วนตัวพร้อมๆ กับเป็นอ่าวอันปลอดภัยสำหรับเจ้าเพนกวินทั้งหลาย แม้ว่าบริเวณว่ายน้ำจะแยกออกจากบริเวณที่เพนกวินอาศัยอยู่ แต่เจ้าสัตว์น่ารักน่าเอ็นดูพวกนี้จะไปไหนก็ได้ตามอำเภอใจ เพราะฉะนั้นการได้ว่ายน้ำกับเพนกวินจึงถือเป็นเรื่องปกติไปเลยในบริเวณ หาดโบลเดอร์ส
หาดโบลเดอร์ส คือส่วนหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติเทเบิ้ลเมาท์เท่น ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของคาบสมุทรเคปเพนนินซูล่า นักท่องเที่ยวต้องเสียค่าเข้าชมหาด โดยชายหาดจะเปิดตั้งแต่เวลา 8.00-19.30 น. ในเดือนธันวาคมถึงมกราคม, เวลา 8.00-18.30 น. ในเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน, เวลา 8.00-17.00 น. ในเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน และเวลา 8.00-18.30 น. ในเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน
เข้าพักที่ Admiralty B & B, แล้วออกไปเที่ยว หาดโบลเดอร์ส
ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดในเคปทาวน์
4. เกาะร็อบเบน (Robben Island)
หนึ่งในกิจกรรมห้ามพลาดเมื่อมาเยือน เคปทาวน์ ก็คือการไปเที่ยวที่ เกาะร็อบเบน เกาะพื้นที่ราบแห่งนี้เคยถูกใช้เป็นเรือนจำเพื่อคุมขังผู้นำทางการเมืองและนักต่อสู้เพื่ออิสรภาพเป็นส่วนใหญ่ตั้งแต่ช่วงกลางทศวรรษ 1660 จนถึงปีค.ศ. 1996 เกาะแห่งนี้ยังถูกใช้เป็นสถานที่กักกันคนเป็นโรคเรื้อนและสถานที่กักกันสัตว์ในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ด้วย
หนึ่งในนักโทษการเมืองที่มีชื่อเสียงที่เคยถูกจองจำบน เกาะร็อบเบน ก็คือเนลสัน แมนเดลา เขาถูกคุมขังอยู่บนเกาะแห่งนี้นานถึง 18 ปีก่อนที่ปัญหาการเหยียดผิวจะเบาบางลง นักโทษการเมืองอีกสองคนที่เคยถูกคุมขังอยู่ที่นี่คือ Kgalema Motlanthe และ Jacob Zuma ซึ่งกลายมาเป็นประธานาธิบดีของประเทศแอฟริกาใต้เช่นกัน เกาะร็อบเบน ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก้และเป็นมรดกแห่งชาติของแอฟริกาใต้ด้วย
มีทัวร์บริการทุกวันจาก The Nelson Mandela Gateway ไปยังเกาะร็อบเบน และนำทัวร์โดยอดีตนักโทษที่จะเล่าเรื่องส่วนตัวและให้ความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ยาวนาน 500 ปีของเกาะแห่งนี้ ทัวร์ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง โดยรวมการนั่งเรือเฟอร์รี่ไปกลับจากเกาะด้วย ผู้สนใจสามารถจองทางออนไลน์ได้และต้องจองล่วงหน้า ทัวร์จะจัดเพียงสี่รอบต่อวันในเวลา 9.00, 11.00, 13.00 และ 15.00 ค่าทัวร์สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติคือ 550 แรนด์สำหรับผู้ใหญ่ และ 300 แรนด์สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี
เข้าพักที่ Helpmin Hotel, แล้วออกไปเที่ยว เกาะร็อบเบน
ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดในเคปทาวน์
5. แหลมกู๊ดโฮป (Cape of Good Hope)
แหลมกู๊ดโฮป คือสวรรค์ของนักเดินเขา เพราะที่นี่มีวิวและมีเส้นทางเดินสำรวจอันแสนจะดีงาม แหลมนี้ตั้งอยู่บนมหาสมุทรแอตแลนติก ไม่เพียงแหลมนี้จะเป็นจุดชมวิวที่สวยสุดๆ แต่ยังเป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสำหรับสัตว์ป่าและพืชพันธุ์ของทวีปแอฟริกาด้วย ใครจะรู้ว่าเดินๆ อยู่อาจจะได้เจอม้าลายระหว่างทางก็ได้ นอกจากนี้ก็จะได้เห็นส่วนต่างๆ ของแหลมด้วย ไม่ว่าจะเป็น ประภาคาร New Cape Point Lighthouse และ ประภาคาร Cape of Good Hope Old Lighthouse ส่วนใครที่เป็นสายเทร็คจริงจังก็สามารถเลือกทัวร์แบบค้างคืนเพื่อไปสำรวจให้ครบทุกส่วนของ แหลมเคปพ้อยต์ (Cape Point), แหลมกู๊ดโฮป และ อุทยานแห่งชาติเทเบิ้ลเมาท์เท่น ได้เช่นกัน
[เส้นทางเดินแบบง่ายที่แหลมเคปพอยต์และแหลมกู๊ดโฮป]
- Lighthouse Keeper’s Trail – เส้นทางที่จะไปถึง ประภาคาร Cape of Good Hope Old Lighthouse และ ประภาคาร Cape Point
- Cape of Good Hope Trail – เส้นทางนี้จะผ่านป้าย แหลมกู๊ดโฮป ผ่าน หาดดิอาซ (Diaz Beach) และไปยังจุดใต้สุดของคาบสมุทรเคปเพนนินซูล่า
- Antoniesgat Trail – ผ่านเส้นทางที่จะไปชายหาด Buffels Bay Beach ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถลงว่ายน้ำ สำรวจถ้ำ และเอ็นจอยบาร์บีคิวได้
- Shipwreck Trail – เส้นทางเดินสุดพิเศษ (และเป็นที่นิยมที่สุดเส้นทางหนึ่ง) ซึ่งอธิบายถึงความสำคัญของ แหลมเคปพ้อยต์ ในด้านการเดินเรือ
[เส้นทางเดินแบบค้างคืนที่แหลมเคปพ้อยต์และแหลมกู๊ดโฮป]
Buffelsfontein Visitor Centre ซึ่งตั้งอยู่ตรงทางเข้าของแหลม จัดบริการทัวร์คาบสมุทรแบบค้างคืน ผู้ที่สนใจจะต้องจองทัวร์ล่วงหน้า จัดการหาที่นอนเอง และแข็งแรงพอที่จะเดินจนจบเส้นทาง
- เส้นทางเดินแหลมกู๊ดโฮป (Cape of Good Hope Trail) – ทัวร์เดินสองวันหนึ่งคืน เริ่มต้นที่ แหลมเคปพ้อยต์ เดินเป็นเส้นทางวงกลมระยะทาง 33.8 กิโลเมตรรอบเขตอนุรักษ์ธรรมชาติ โดยมีกระท่อมเรียบง่ายให้พัก และสามารถทำอาหารได้
- The Hoerikwaggo Trail – ทัวร์เทร็คกิ้งห้าวันสี่คืน โดยเริ่มต้นที่ปลายใต้สุดของคาบสมุทรเคปเพนนินซูล่า และเดินครอบคลุมระยะทางทั้งหมดของ อุทยานแห่งชาติเทเบิ้ลเมาท์เท่น มีเต้นท์ให้พักระหว่างทาง มีอุปกรณ์และฟืนทำอาหารจัดให้ โดยการเดินจะจบลงที่ Platteklip Wash House ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก ตัวเมืองเคปทาวน์
เข้าพักที่ Watercolours House, แล้วออกไปเที่ยว แหลมกู๊ดโฮป
ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดในเคปทาวน์
6. พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Zeitz Museum of Contemporary Art Africa
พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Zeitz Museum of Contemporary Art Africa คือหนึ่งในสถานที่เที่ยวแห่งใหม่ของ เคปทาวน์ และเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะแอฟริกันร่วมสมัยที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย แค่ตัวตึกพิพิธภัณฑ์ก็น่าตื่นตาแล้ว เพราะครั้งหนึ่งตึกนี้เคยเป็นไซโลเก็บเมล็ดพืช ซึ่งเป็นหัวใจหลักทางด้านอุตสาหกรรมของเมืองริมน้ำแห่งนี้ ด้านในพิพิธภัณฑ์มีศิลปะจัดแสดงในแกลเลอรี่มากกว่า 80 ห้อง ทั้งหมดสร้างมาจากกระบอกคอนกรีตซึ่งครั้งหนึ่งเคยใช้เป็นที่เก็บเมล็ดพืชจำนวนมาก
พิพิธภัณฑ์ศิลปะZeitz Museum of Contemporary Art Africa เปิดให้บริการตอนปลายปีค.ศ. 2017 และตอนนี้ก็ดึงดูดนึกท่องเที่ยวได้มากกว่า 24 ล้านคนในแต่ละปี พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับศูนย์การค้า V&A Waterfront, ชิงช้าสวรรค์ The Cape Wheel, ตลาด Cape Town Fish Market, หอนาฬิกา Clock Tower Waterfront และ พิพิธภัณฑ์ The Nelson Mandela Gateway to Robben Island
พิพิธภัณฑ์เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. ค่าเข้าชม 200 แรนด์สำหรับผู้ใหญ่ เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีเข้าฟรี
หากอยากได้ประสบการณ์เที่ยว เคปทาวน์ แบบแท้ๆ สไตล์ดั้งเดิม ขอแนะนำให้ไปพักที่ The Silo Hotel ซึ่งสร้างจากไซโลเก่า และเชื่อมต่อกับตัวพิพิธภัณฑ์ด้วย
เข้าพักที่ The Silo Hotel, แล้วออกไปเที่ยว ศูนย์การค้า V&A Waterfront
ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดในเคปทาวน์
7. ทางเดินริมทะเล Sea Point Promenade
ทางเดินริมทะเล Sea Point Promenade หรือที่คนท้องถิ่นเรียกกันว่า “The Prom” เป็นมากกว่าทางเดินริมทะเลทั่วๆ ไป ทางเดินนี้ทอดยาวตั้งแต่ Mouille Point ไปจนถึง Sea Point Promenade ด้านหนึ่งติดกับมหาสมุทรแอตแลนติก ส่วนอีกด้านติดภูเขา Signal Hill กลายเป็นเส้นทางเดินวิวงามๆ ที่มักจะมีคนมาปั่นจักรยาน มาเดิน และมาวิ่งอยู่ตลอด นอกจากนี้ยังมีสถานที่มากมายให้แวะระหว่างทาง ไม่ว่าจะเป็นสวนสนุก The Blue Train Park, สวนสาธารณะ, สนามเด็กเล่น รวมถึง ประภาคารกรีนพอยต์ (Green Point Lighthouse) ด้วย ส่วนชายหาด Milton และสระว่ายน้ำ Sea Point Pavilion Swimming Pool ก็เป็นจุดแวะเที่ยวยอดนิยมเช่นเดียวกัน
เข้าพักที่ Blackheath Lodge, แล้วออกไปเที่ยว ทางเดินริมทะเล Sea Point Promenade
ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดในเคปทาวน์
8. ตลาด The Neighbourgoods Market
ใครสายเดินตลาดที่หลงรักของน่ารักๆ และสรรพสิ่งโลคอลจะต้องหลงรักตลาด The Neighbourgoods Market แห่งนี้แน่นอน ตลาดนัดวันเสาร์แห่งนี้เริ่มเปิดบริการมาตั้งแต่ปีค.ศ. 2006 เพื่อสร้างความมีชีวิตชีวาให้กับย่าน Woodstock แห่งนี้ และบรรดาพ่อค้าแม่ขายก็จะขายสินค้าท้องถิ่นมากมาย สร้างความคึกคักให้ชุมชน ตลาดแห่งนี้ประสบความสำเร็จมากมายจนเริ่มมีตลาดคล้ายๆ กันเกิดขึ้นทั่วเมืองเคปทาวน์ ปัจจุบันมีสินค้าขายมากมายตั้งแต่ของสด ขนมของหวาน เสื้อผ้าแฮนด์เมด ไปจนถึงเครื่องประดับ
ตลาด The Neighbourgoods Market เปิดทุกวันเสาร์ตั้งแต่เวลา 9.00-15.00 น. ตลาดตั้งอยู่บริเวณถนนอัลเบิร์ต ระหว่างสถานีรถไฟ Woodstock และ Salt River
เข้าพักที่ Happy Home – Woodstock, แล้วออกไปเที่ยว Cape Town City Centre
ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดในเคปทาวน์
9. พิพิธภัณฑ์ District Six Museum
อีกหนึ่งสถานที่น่าสนใจและควรค่าแก่การแวะอีกหนึ่งแห่งของ เคปทาวน์ ก็คือพิพิธภัณฑ์ District Six Museum ซึ่งถือเป็นอนุสรณ์สถานระลึกถึงผู้คน 60,000 ชีวิตในเขตนี้ที่ถูกบังคับให้ออกจากบ้านของพวกเขาในช่วงการเหยียดผิวในประเทศแอฟริกาใต้ในช่วงทศวรรษ 1970 การเหยียดผิวนี้กินเวลายาวนานตั้งแต่ค.ศ. 1948 จนถึงช่วงต้นทศวรรษ 1990
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้เก็บรวบรวมมรดกและวัฒนธรรมของผู้คนในเขตนี้เอาไว้ในช่วงเวลานั้น โดยบอกเล่าเรื่องราวของพวกเขาผ่านภาพถ่ายและสิ่งของต่างๆ ที่เก็บมาจากพื้นที่ การจัดแสดงป้ายถนน ของตกแต่งบ้าน และสิ่งของที่ใช้ในการโฆษณาชวนเชื่อต่างๆ ช่วยอธิบายถึงความยากลำบากที่ชาวเมืองต้องยอมทน ผู้คนที่เคยอาศัยในเขตนี้หลายคนได้เข้ามาช่วยนำทัวร์ด้วย พร้อมบอกเล่าเรื่องราวส่วนตัวถึงสภาพความเป็นอยู่ใน เคปทาวน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขต District Six ในช่วงการเหยียดผิว
พิพิธภัณฑ์ District Six Museum เปิดตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ เวลา 9.00-16.00 น. ค่าเข้าชมแบบไม่มีคนนำทัวร์ราคา 45 แรนด์ แบบมีผู้ที่เคยอาศัยในเขตนี้นำทัวร์ราคา 60 แรนด์ ทัวร์มีทั้งหมด 4 รอบคือ 9.30, 10.30, 11.30 และ 14.30 น. สามารถซื้อตั๋วหน้างานได้ แต่ขอแนะนำให้จองล่วงหน้าทางออนไลน์ก็จะชัวร์กว่า
พิพิธภัณฑ์ยังตั้งอยู่ใกล้กับ กลางเมืองเคปทาวน์ (Capetown City Centre) ซึ่งก็ใกล้กับสถานที่เที่ยวยอดฮิตอื่นๆ ของเมืองด้วย
[สถานที่เที่ยวใจกลางเมืองเคปทาวน์]
- ตึกรัฐสภา (Parliament Towers), บ้านพักทาสไอซิโก้ (Iziko Slave Lodge) และ ศาลากลางเมืองเคปทาวน์ (Cape Town City Hall) – ตึกสำคัญทางประวัติศาสตร์และการเมือง มีสถาปัตยกรรมงดงาม
- ปราสาทแห่งกู๊ดโฮป (Castle of Good Hope) – ป้อมปราการสมัยศตววรษที่ 17 ที่เคยถูกใช้เป็นฐานทัพของทหารแอฟริกาใต้
- จัตุรัสกรีนมาร์เก็ต (Greenmarket Square) และ ถนนลอง (Long Street) – ตลาดนัดและย่านช้อปปิ้ง
- สวนสาธารณะคอมปานี (The Company’s Garden) – สวนสาธารณะสำคัญที่อยู่ใกล้กับ หอศิลป์แห่งชาติแอฟริกาใต้ (South African National Gallery), พิพิธภัณฑ์ Cape Town Holocaust and Genocide Centre, พิพิธภัณฑ์ Iziko South African Museum และ โรงละคร The Labia Theatre
- ศูนย์ศิลปะ Artscape Theatre Centre – สถานที่จัดแสดงละครเพลง โอเปร่า และเทศกาลห้ามพลาดต่างๆ
เข้าพักที่ Wish U Were Here Cape Town Hotel, แล้วออกไปเที่ยว ใจกลางเมืองเคปทาวน์
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ