4 ของกินห้ามพลาดในโทจิกิ พร้อมร้านอาหารแนะนำและสถานที่เที่ยวในละแวกใกล้เคียง

จังหวัด โทจิกิ (Tochigi) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่สามารถเดินทางจากโตเกียวโดยรถไฟชินคันเซ็นได้ในประมาณ 1 ชั่วโมง และยังสามารถลิ้มรสอาหารอร่อยๆ มากมาย เช่น ผลไม้สด ราเม็ง และเกี๊ยวซ่า บทความนี้ได้คัดสรรของกินขึ้นชื่อ 4 อย่างที่น่าลิ้มลองจากร้านอาหารชั้นเลิศใน โทจิกิ มาแนะนำ

1. สตรอเบอร์รี่

โทจิกิ มีช่วงแสงแดดส่องยาวนานในฤดูหนาว โดยที่อุณหภูมิระหว่างกลางวันกับกลางคืนต่างกันมาก สภาพอากาศเช่นนี้เหมาะแก่การปลูกสตรอว์เบอร์รี ด้วยเหตุนี้ ปัจจุบัน โทจิกิ จึงเป็นแหล่งปลูกสตรอว์เบอร์รีที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น โทจิกิ มีสตรอว์เบอร์รีชื่อดังพันธุ์ต่างๆ เช่น โทจิโอโตเมะ และสกายเบอร์รี่ นักเดินทางสามารถร่วมกิจกรรมชิมสตรอว์เบอร์รีและเก็บสตรอว์เบอร์รีได้ ฤดูเก็บสตรอว์เบอร์รีใน โทจิกิ มักจะเริ่มในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนพฤษภาคม ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการเก็บสตรอว์เบอร์รี่จะเป็นช่วงเช้าจนถึงประมาณ 11:00 น. ดังนั้นหากอยากสัมผัสประสบการณ์การเก็บสตรอว์เบอร์รี่ ขอแนะนำให้พักค้างคืนใน โทจิกิ ก่อนหนึ่งวันแล้วตื่นแต่เช้าไปเก็บสตรอว์เบอร์รี

สถานที่เก็บสตรอว์เบอร์รี่ยอดฮิต

โทจิกิ มีฟาร์มที่สามารถเก็บสตรอว์เบอร์รี่ได้หลายแห่ง หนึ่งในสถานที่ยอดฮิตของนักท่องเที่ยวต่างชาติคือ Yoshimura Strawberry Park (โยชิมูระสตรอว์เบอร์รี่พาร์ค) ในมาชิโกะ (Mashiko) สามารถเดินจากสถานีคิตายามะ (Kitayama) รถไฟมากะ (Moka Railway) มาแค่ 7 นาที ฟาร์มนี้มีสตรอว์เบอร์รี่สายพันธุ์ต่างๆ ให้เลือกเก็บอย่างโทจิโอโทเมะ (Tochiotome)

Yoshimura Strawberry Park

• ที่อยู่: Tochigi, Mashiko-machi, Hanawa 520
• เวลาทำการ: 9:00-16:00 น. ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมถึงกลางเดือนพฤษภาคม *สวนจะปิดเมื่อสตรอเบอร์รี่หมด
• ค่าเข้า: 2,300 เยนขึ้นไป (ค่าธรรมเนียมแตกต่างกันไปตามฤดูกาล เด็กอายุระหว่าง 3 ถึง 12 ปี มีค่าใช้จ่าย 1,500 เยน)
• ข้อมูลติดต่อ: 0285-72-8189
• เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: https://strawberrypicking.jp/ (ภาษาอังกฤษ)

สถานที่น่าเที่ยวในมาชิโกะหลังจากเก็บสตรอเบอร์รี่

Yoshimura Strawberry Park ตั้งอยู่ในเมืองมาชิโกะ ที่มีชื่อเสียงด้านเครื่องปั้นดินเผา พิพิธภัณฑ์ศิลปะเครื่องปั้นดินเผามาชิโกะ/เครื่องปั้นดินเผาเมซเซะมาชิโกะ (Mashiko Museum of Ceramic Art / Ceramic Art Messe Mashiko) จัดแสดงผลงานเครื่องปั้นดินเผาของศิลปินระดับชาติ ที่จุดพักรถมาชิโกะ นักท่องเที่ยวสามารถซื้อผลผลิตจากฟาร์มท้องถิ่นและเครื่องปั้นดินเผาท้องถิ่น รวมทั้งเพลิดเพลินกับการเก็บสตรอเบอร์รี่ จุดพักรถมาชิโกะยังมีอาคารที่สวยงามและน่าถ่ายรูป ซึ่งได้รับรางวัลทางสถาปัตยกรรมหลายรางวัล มาชิโกะอยู่ห่างจากเมืองอุตสึโนมิยะซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งศาลากลางของจังหวัด โทจิกิ ราว 60 นาทีโดยรถบัส อุตสึโนมิยะยังมีสถานที่น่าสนใจและอาหารเลิศรสมากมาย ดังนั้นขอแนะนำให้พักค้างคืนในอุตสึโนมิยะแล้วไปตระเวนเที่ยวในมาชิโกะ หรือพักในมาชิโกะ แล้วไปตระเวนเที่ยวในอุตสึโนมิยะ

2. อุตสึโนมิยะเกี๊ยวซ่า

อุสึโนมิยะได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีการบริโภคเกี๊ยวซ่าเป็นจำนวนมากทุกปี ที่นี่มีเกี๊ยวซ่าหลากหลายประเภทไม่ว่าจะย่าง ต้ม หรือทอด เกี๊ยวซ่าที่มีต้นกำเนิดในประเทศจีนได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในอุตสึโนมิยะในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากกองทหารจากเมืองนี้ได้เรียนรู้วิธีทำอาหารจานนี้ขณะประจำการอยู่ในประเทศจีน เกี๊ยวซ่าทอดเป็นที่นิยมเป็นพิเศษ เนื่องจากมีผิวที่บางเป็นพิเศษและเนื้อสัมผัสที่กรุบกรอบหลังจากทอด ช่วงหลังมานี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถเพลิดเพลินกับเกี๊ยวซ่าแบบใหม่ๆ ในอุสึโนมิยะ เช่น เบอร์เกอร์เกี๊ยวซ่า เกี๊ยวซ่าชิป และขนมปังเกี๊ยวซ่า นอกจากนี้ ยังมีเทศกาลเกี๊ยวซ่าอุตสึโนมิยะที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยจัดขึ้นในวันเสาร์และวันอาทิตย์แรกของเดือนพฤศจิกายนของทุกปี

ร้านเกี๊ยวซ่าแนะนำในอุสึโนมิยะ

มีร้านเกี๊ยวซ่าหลายร้านในอุสึโนมิยะ ซึ่งแต่ละร้านมีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่เดินทางไปเป็นครั้งแรกควรแวะไปที่ร้าน Kirasse ร้านนี้บริหารโดย Utsunomiya Gyozakai ซึ่งเป็นสมาคมร้านอาหาร 90 แห่งในเมือง ร้านมีสองสาขาคือสาขาหลักและสาขาเดอะพาซิโอ สาขาหลักประกอบด้วยร้านเกี๊ยวซ่ายอดนิยม 5 แห่ง (ร้านค้าถาวร) ร้านค้ารายวันที่มีเกี๊ยวซ่า 30 ชนิด และร้านขายของที่ระลึกที่จำหน่ายวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับเกี๊ยวซ่าต่างๆ รวมถึงเกี๊ยวซ่าแช่แข็ง

Kirasse Main Store

• ที่อยู่: Tochigi, Utsunomiya, Baba-dori 2-3-12, MEGA Don Quijote Lapark Utsunomiya, ชั้นใต้ดิน
• เวลาทำการ: Kirasse เปิดตลอดทั้งปี ร้านค้าถาวร/วันธรรมดา: 11:00-20:30 น. (วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ร้านปิด 21:00 น.) ร้านค้ารายวัน: 11:00-21:00 น. ตลอดทั้งสัปดาห์ ร้านขายของที่ระลึก: 10:00-21:00 น. ตลอดทั้งสัปดาห์
• ข้อมูลติดต่อ: 028-614-5388
• เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: https://www.gyozakai.com/kirasse/ (ภาษาญี่ปุ่น)

สถานที่เที่ยวในอุตสึโนมิยะนอกเหนือจากการกินเกี๊ยวซ่า

อุตสึโนมิยะมีสถานที่น่าสนใจมากมาย เช่น พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์โอยะ (Oya History Museum) ที่สามารถชมซากเหมืองหินใต้ดินขนาดมหึมา วัดโอยาจิ (Ooyaji Temple) ซึ่งมีพระพุทธรูปหินที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น และฟาร์มวาคายามะ (Wakayama Farm) ที่สามารถสัมผัสประสบการณ์ต่างๆ ในป่าไผ่ที่สวยงามได้ ผู้ที่เดินทางไปอุสึโนมิยะสามารถเพลิดเพลินกับการเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ในตอนกลางวัน แล้วตบท้ายด้วยการลิ้มลองเกี๊ยวซ่ากับสาเกอร่อยๆ ในตอนกลางคืนกัน ดังนั้นเราขอแนะนำให้จองที่พักสำหรับหนึ่งหรือสองวัน

3. ซาโนะราเม็ง

เมืองซาโนะ (Sano) ในจังหวัดโทจิกิมีชื่อเสียงในฐานะต้นตำรับของซาโนะราเม็งซึ่งเป็นหนึ่งในราเม็งท้องถิ่นรสเลิศยอดฮิตของญี่ปุ่น เส้นของซาโนะราเม็งทำด้วยวิธีอาโอะทาเคอุจิ (การทุบด้วยไม้ไผ่สด) ซึ่งเป็นการทุบยืดแป้งสาลีที่นวดกับน้ำคุณภาพดีด้วยท่อนไม้ไผ่สด

ร้านซาโนะราเม็งแนะนำในโทจิกิ

ในปี 2020 มีร้านราเมงประมาณ 150 ร้านในซาโนะที่แข่งขันกันทำบะหมี่ราเม็งขึ้นชื่อของตน ร้านราเมนที่มีชื่อเสียงที่สุดคือร้านยามาโตะ (Yamato) น้ำซุปรสเข้มข้นนี้ทำมาจากส่วนผสมต่างๆ เช่น เนื้อไก่และกระดูกหมู ซอสถั่วเหลือง ขิง น้ำมันไก่ และอาหารทะเล ที่ร้านยังมีเกี๊ยวซ่าที่ผ่านการค้นคว้าจนได้รสชาติและเนื้อสัมผัสที่สมบูรณ์แบบและได้รับความนิยมมากๆ

Yamato

• ที่อยู่: Tochigi, Sano, Moroyama-cho 4-8
• เวลาทำการ: วันธรรมดา: 11:00 – 14:00 น./17:00 – 20:00 น. วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ซ 11:00 – 20:00 น. ปิดวันจันทร์
• ข้อมูลติดต่อ: 0283-55-4584
• อินสตาแกรม: https://www.instagram.com/sano_yamato/

สถานที่น่าเยี่ยมชมในซาโนะนอกเหนือจากการชิมราเม็ง

มีร้านค้าประมาณ 180 ร้านที่ Sano Premium Outlets ซึ่งมีสินค้าหลากหลายตั้งแต่เสื้อผ้าไปจนถึงของใช้ในครัวเรือน นอกจากนี้ ยังมีสวนดอกไม้ Ashikaga Flower Park ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ที่ Ashikaga Flower Park นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับดอกไม้หลากหลายชนิดตลอดทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งดอกวิสทีเรียที่บานในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม สวนสาธารณะแห่งนี้ยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางในฝันของ CNN ในปี 2014

4. สาเกญี่ปุ่น

สาเกเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของญี่ปุ่นที่ทำจากข้าวหมักที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ โทจิกิ ขึ้นชื่อเรื่องสาเก โดยมีโรงกลั่นกว่า 30 แห่งทั่วจังหวัด โทจิกิ มีแหล่งน้ำคุณภาพดีซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการผลิตสาเกรสเลิศ โทจิกิมีภูเขาล้อมรอบทางตะวันตกเฉียงเหนือ และมีแม่น้ำสายใหญ่ เช่น แม่น้ำคินุ (Kinu River) และแม่น้ำนาคะ (Naka River) ไหลผ่าน ทำให้ง่ายต่อการหาแหล่งน้ำที่เหมาะกับการทำสาเกรสเลิศ นอกจากนี้ ในช่วงไม่กี่ปีมานี้จังหวัดโทจิกิยังได้พัฒนาข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ยูเมะซาซาระให้เป็นข้าวสาเกที่มีรสชาติในแบบฉบับของ โทจิกิ โดยเฉพาะ

ทัวร์โรงกลั่นสาเกแนะนำ

นอกจากจะซื้อสาเกท้องถิ่นที่ โทจิกิ แล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถเพลิดเพลินกับสาเกพร้อมอาหารที่ร้านอาหาร และไปเที่ยวชมโรงกลั่นสาเกได้ด้วย โรงกลั่นสาเกที่น่าสนใจที่สุดแห่งหนึ่งคือ Shimazaki Brewery (โรงกลั่นสาเกชิมาซากิ) ในเมืองนาซุการาซุยามะ (Nasukarasuyama) Shimazaki Brewery ก่อตั้งในปีค.ศ. 1849 เป็นโรงกลั่นสาเกที่มีเอกลักษณ์ซึ่งใช้พื้นที่โรงงานใต้ดินในถ้ำเพื่อเก็บสาเก สาเกที่บ่มในถ้ำซึ่งมีความแตกต่างของอุณหภูมิตลอดทั้งปีเพียงเล็กน้อยมีรสชาติล้ำเลิศอย่างยิ่ง

Shimazaki Brewery

• ที่อยู่: Tochigi, Nasu-Karasuyama, Kanaga, Aza-Tenjin 149 (ทัวร์ชมถ้ำ), Tochigi, Nasu-Karasuyama, Chuo 1-11-18 (โรงกลั่น)
• เวลาทัวร์: วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10:00 – 16:00 น. สำหรับรายละเอียด โปรดตรวจสอบเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ *ไม่ต้องจองล่วงหน้า
• ค่าเข้า: ผู้ใหญ่ (อายุ 20 ปีขึ้นไป): 200 เยน
• ข้อมูลติดต่อ: 0287-83-1221
• เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: https://azumarikishi.co.jp/en/

นอกจากนี้ยังมีทัวร์วันธรรมดา เริ่มตั้งแต่เวลา 10:30 น. และ 14:30 น. ต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งวันก่อนทัวร์ ทัวร์นี้มีการบรรยายด้วยเสียงที่บันทึกเป็นภาษาอังกฤษและจีน

สถานที่น่าเที่ยวในนาสุ-คาราสึยามะ

ในเมืองนาซุการาซุยามะมีน้ำตกริวมง (Ryumon Falls) น้ำตกขนาดใหญ่ที่กว้าง 65 เมตร สูง 20 เมตร และโอกาเนะ ออนเซ็น แกรนด์ โฮเทล (Ogane Onsen Grand Hotel) ที่ผู้เข้าพักสามารถเพลิดเพลินกับโอกาเนะออนเซ็น (Ogane Onsen) น้ำพุร้อนซึ่งมีความเข้มข้นของแคลเซียมสูงมากแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น สถานี Taki (สาย JR Karasuyama) เป็นสถานีที่ใกล้ที่สุดในการทัวร์ถ้ำที่ Shimazaki Brewery ใช้เวลานั่งรถไฟ 50 นาทีจากสถานี Taki ไปยังอุตสึโนมิยะ ดังนั้น การพักค้างคืนในอุตสึโนมิยะและเพลิดเพลินกับบริเวณรอบๆ ก็น่าสนใจไม่น้อย