ที่เที่ยวสิงคโปร์: 5 แลนด์มาร์กสุดปัง ที่จะทำให้คนกระหน่ำกดไลค์รูปอินสตาแกรม

ที่เที่ยวสิงคโปร์ที่คนส่วนใหญ่สนใจมักเป็นอาคารร่วมสมัยในเมืองหรือแหล่งท่องเที่ยวสุดโมเดิร์น แต่ความจริงแล้วสถาปัตยกรรมล้ำสมัยของเมืองสิงโตแห่งนี้ล้วนสร้างขึ้นรอบแลนด์มาร์กทางประวัติศาสตร์ของประเทศทั้งสิ้น เราขอแนะนำให้ลองดินเนอร์ยามค่ำคืนที่ ไชมส์ (CHIJMES) อาคารเก่าแก่ซึ่งเคยเป็นโบสถ์คาทอลิกมาก่อน หรือเที่ยวชมสถานพำนักและที่ทำงานของประธานาธิบดีที่ วังอิสตานา (The Istana) ในเวลาที่เปิดให้เข้าชม เป็นต้น

เกร็ดน่ารู้: เมอไลออน (Merlion) สัญลักษณ์อย่างเป็นทางการของสิงคโปร์ คือสัตว์ในตำนานที่แสดงถึงต้นกำเนิดของเมืองซึ่งเคยเป็นหมู่บ้านชาวประมงมาก่อนผสานกับชื่อดั้งเดิมของเมืองคือ สิงคปุระ ซึ่งมีความหมายว่า “เมืองสิงโต” (แม้จะไม่เคยมีการพบเสือตามธรรมชาติในสิงคโปร์มาก่อนก็ตาม) อย่างไรก็ดี รูปปั้นและน้ำพุครึ่งปลาครึ่งเสือนี้ก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์สุดฮ็อตที่ใครๆ ก็มาถ่ายรูปเซลฟี่ด้วย ไปถึงแล้วอย่าลืมถ่ายรูป เมอไลออน ตรง มาริน่า เบย์ แล้วแท็กเพื่อนด้วยล่ะ!

1. เที่ยวโบสถ์สไตล์กอธิคและสถานที่แต่งงานที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของสิงคโปร์

โบสถ์ในอดีตที่ปรับเปลี่ยนมาเป็นสถานบันเทิงและไลฟ์สไตล์ครบวงจรแห่งนี้ มีทั้งร้านค้าให้จับจ่ายใช้สอย หรือจะดินเนอร์ในบรรยากาศแบบกอธิคก็ได้ CHIJMES เป็นชื่อย่อของ The Convent of the Holy Infant Jesus Middle School Education ซึ่งเคยเป็นโบสถ์คาทอลิกและสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าในศตวรรษที่ 19 และ 20 กลุ่มอาคารทั้ง 5 หลังได้รับการบูรณะในปี 1996 และปัจจุบันเป็นแหล่งแฮงก์เอาท์ยอดนิยมที่มีร้านอาหารนานาชาติ เป็นสถานที่จัดงานดนตรีและพิธีแต่งงาน งานใหญ่ๆ มักจัดกันที่โบสถ์ CHIJMES Hall และอาคาร Alcove at Caldwell House ซึ่งถ้าเป็นงานแต่งงานก็จองสถานที่ผ่าน Watabe Wedding Singapore ได้ ประตู Gate of Hope ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่สวยงามและไม่ควรพลาดชม

เข้าพักที่ โรงแรมนอมี สิงคโปร์ แล้วออกไปเที่ยว CHIJMES ได้เลย

ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดใน สิงคโปร์

2. เยี่ยมชมทำเนียบรัฐบาลที่วังอิสตานาและพิพิธภัณฑ์ The Istana Heritage Gallery

วังอิสตานา ซึ่งเป็นที่ปฏิบัติงานของประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์นี้ เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้เพียง 5 วันต่อปีเท่านั้น กลุ่มอาคารโบราณที่ถือเป็น ทำเนียบรัฐบาล ด้วยนี้ ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองจำนวนนับไม่ถ้วนมาตั้งแต่ที่เริ่มใช้งานในปี 1869 ในช่วงที่เปิดให้สาธารณชนเยี่ยมชม ใครจะเลือกให้ไกด์พาชมสวนพฤกษศาสตร์ซึ่งมีบึง 4 แห่ง หรือเลือกท่องเที่ยวในตึกใหญ่ของ วังอิสตานา ซึ่งมีห้องสำหรับใช้งานต่างๆ กันก็ได้ ไฮไลต์ของทัวร์คือการเดินรอบบึงหงส์ ดูของกำนัลทรงคุณค่าที่ผู้มาเยือนมอบให้ประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์

ช่วงที่มีการเปิดวังอิสตานา (Istana Open House) ชาวสิงคโปร์และผู้อยู่อาศัยถาวรสามารถเข้าฟรี ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติต้องชำระค่าธรรมเนียมเล็กน้อย โดยวังอิสตานาจะเปิดให้คนทั่วไปเข้าชมได้ในวันหยุดราชการดังต่อไปนี้:

• เทศกาลตรุษจีน: วันที่สองของวันตรุษจีน (วันเที่ยว) ซึ่งมักตรงกับเดือนมกราคมหรือกุมภาพันธ์ ขึ้นอยู่กับปฏิทินจันทรคติ
• วันแรงงาน: 1 พฤษภาคม
• วันฮารีรายอ ปัวซา (Hari Raya Puasa): ช่วงกลางปี หลังจากวันสุดท้ายของเทศกาลถือศีลอด
• วันชาติ: 9 สิงหาคม (กรุณาตรวจสอบวันที่อีกครั้ง เนื่องจาก Istana Open House สำหรับวันชาติ มักจัดขึ้นช่วงสิ้นเดือนกรกฎาคม)
• เทศกาลดีปาวาลี (Deepavali): ตุลาคมหรือพฤศจิกายน ขึ้นอยู่กับปฏิทินจันทรคติของฮินดู

ถ้าอยากไปชม วังอิสตานา แต่ไปเที่ยวไม่ตรงกับวันหยุดที่บอกมาก็ไม่ต้องกังวลไป พิพิธภัณฑ์ The Istana Heritage Gallery ที่ตั้งอยู่ใน สวนสาธารณะอิสตานา (Istana Park) บน ถนนออร์ชาร์ด (Orchard) ซึ่งเปิดให้บริการในปี 2016 มีข้อมูลประวัติศาสตร์ของอิสตานา รวมทั้งบันทึกเหตุการณ์สำคัญในอดีตที่เกิดขึ้นที่นั่นให้ได้ศึกษา

เข้าพักที่ โรงแรมเอลิซาเบธ บาย ฟาร์ อีสต์ ฮอสพิทาลิตี้ แล้วออกไปเที่ยวชม วังอิสตานา ใกล้ถนนออร์ชาร์ด ได้เลย

ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดใกล้ สถานีรถไฟฟ้า MRT – Dhoby Ghaut

3. ดูหนัง ชมการแสดงนาฏยศิลป์ในแกลเลอรีศิลปะ The Arts House

ในอดีต แกลเลอรี The Arts House เคยเป็นอาคารรัฐสภา แต่ในปัจจุบัน นักท่องเที่ยวสามารถชมการแสดงผลงานศิลปะชั้นเยี่ยม การแสดงนาฏยศิลป์ ภาพยนตร์ และคอนเสิร์ตได้ที่นี่ ระหว่างเที่ยว The Arts House อย่าลืมชมรูปปั้นช้างซึ่งเป็นของที่ระลึกจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และ The Chamber ห้องโถงซึ่งเป็นส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของอาคาร ซึ่งปัจจุบันใช้เป็นพื้นที่แสดงดนตรี แฟชั่นโชว์ และจัดพิธีแต่งงาน

เข้าพักที่ ราฟเฟิลส์ สิงค์โปร์ แล้วออกไปเที่ยว The Arts House ได้เลย

ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดใกล้ โรงละครวิคตอเรีย

4. เดินสวนสาธารณะ 4 แห่ง ทะลุผ่านสวนพฤกษาศาสตร์ แล้วข้ามสะพานเฮนเดอร์สันเวฟสุดเท่

ชื่อ เฮนเดอร์สันเวฟ (Henderson Waves) อาจฟังเหมือนที่เที่ยวริมทะเล แต่จริงๆ แล้วแลนด์มาร์กสุดเก๋แห่งนี้คือสะพานเหล็กผสมไม้ที่มีรูปร่างเหมือนเกลียวคลื่น ช่วงสุดสัปดาห์ บนสะพานจะคลาคล่ำไปด้วยคนที่มาวิ่งออกกำลังกายและครอบครัวที่มาพักผ่อนกัน สะพานแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของ เซาท์เทิร์นริดจ์ส (Southern Ridges) หรือสะพานระยะทาง3 ไมล์ ที่เชื่อมพื้นที่สีเขียว อันได้แก่ สวน Kent Ridge Park, HortPark, Telok Blangah Hill Park และ Mount Faber Park เข้าด้วยกัน ถ้าอยากเห็นทิวทัศน์คดโค้งในมุมกว้าง ให้เริ่มต้นเส้นทางจากสระ Kent Ridge Park Pond ตัดสวน Pitter Patter Potter Garden ก่อนถึงจุดสิ้นสุดที่พิพิธภัณฑ์ Singapore Cable Car Museum

เข้าพักที่ วิลลา ซามาทิ สิงคโปร์ บาย ซามาทิ แล้วออกไปดินชม สะพานเฮนเดอร์สันเวฟ ได้เลย

ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดใกล้ สะพานเซาท์เทิร์นริดจ์ส (Southern Ridges)

5. ชมสถาปัตยกรรมโคโลเนียลที่ศาลฎีกาและศาลากลางในหอศิลป์แห่งชาติสิงคโปร์

อาคารศาลฎีกา เก่าแก่ และ อดีตศาลากลาง ซึ่งตั้งอยู่ระหว่าง สวนฟอร์ดแคนนิ่ง (Fort Canning Park) และเอสพลานาด พาร์ค (Esplanade Park) เป็นศิลปะแบบอิตาลี และเป็นจุดที่ญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้ในช่วงที่สงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง อาคารศาลฎีกาแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1939 เป็นอาคารหลังสุดท้ายของสิงคโปร์ที่สร้างในสไตล์โคโลเนียลแบบอังกฤษ พื้นที่จัดแสดงผลงานมีภาพจิตรกรรมฝาผนังฝีมือ Cavaliere Rodolfo Nolli ศิลปินชาวอิตาลี อาคารเปิดใช้งานมาจนถึงปี 2005 ก่อนจะได้รับการดัดแปลงเป็นหอศิลป์แห่งชาติสิงคโปร์ (National Gallery Singapore) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงผลงานศิลปะของชาติเอเชีย และเปิดให้คนเข้าชมในปี 2015

เข้าพักที่ เฮอริเทจ แอท ซิตี้ฮอลล์ อพาร์ตเมนต์ แล้วออกไปชม อาคารศาลฎีกา ได้เลย

ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดใกล้ City Hall MRT Station