รวม 10 ที่เที่ยวสุดเจ๋งสำหรับเดย์ทริปใกล้ปารีส | ดื่มด่ำกับชนบทของฝรั่งเศส

คู่มือท่องเที่ยวบทนี้ ได้รวมสถานที่ไฮไลต์สำหรับการเที่ยวแบบเดย์ทริปใกล้ ปารีส เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งจะช่วยให้ทุกคนได้ออกเดินทางไปไกลกว่าแหล่งท่องเที่ยวเดิมๆ ในปารีส เรามีทั้งคำแนะนำเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ สำหรับไปเช้าเย็นกลับ รวมถึงเคล็ดลับการเดินทางในฝรั่งเศสด้วย คู่มือนี้จะช่วยให้ฝรั่งเศสกลายเป็นทริปที่น่าประทับใจของทุกคนแบบยากจะลืมเลือนแน่นอน แม้ ปารีส จะเป็นศูนย์รวมแหล่งท่องเที่ยวแสนมหัศจรรย์มากมาย แต่บางครั้งการได้ออกไปเยือนชนบทของฝรั่งเศสบ้างก็ดีเหมือนกันนะ!

คู่มือเที่ยวปารีส: เดย์ทริป 10 แบบใกล้ปารีส ประเทศฝรั่งเศส

แม้ ปารีส จะเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวสุดวิเศษมากมาย แต่ต้องไม่ลืมว่ายังมีอีกหลายที่ใน ฝรั่งเศส รอให้ทุกคนไปสำรวจอยู่ คู่มือนี้จะช่วยให้ทุกคนเดินทางออกนอกเมืองและเดินทางกลับเข้าเมืองได้ง่ายๆ แถมยังมีข้อมูลเกี่ยวกับทริปแบบวันเดียวจบที่นอก ปารีส ให้ด้วย เพื่อให้ทุกคนตัดสินใจได้ว่าจะเพิ่มเติมที่ไหนลงไปในแพลนเที่ยว และเพราะว่าฝรั่งเศสคือประเทศที่ไม่เหมือนใคร มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานและน่าสนใจ เพราะฉะนั้นย่อมแปลว่ายังมีที่เที่ยวอีกหลายที่ที่น่าไปเยือนนอกจากเมือง ปารีส

สำหรับคนที่สนใจเรื่องสงครามโลกครั้งที่สอง ต้องไปที่ นอร์มังดี (Normandy) ที่เที่ยวแสนสวยสักครั้ง จะได้ไปเที่ยวที่ Omaha Beach จุดเกิดเหตุวันดีเดย์ที่ทุกคนรู้จักดี หรือหากใครเป็นแฟนธีมปาร์กกับดิสนีย์แลนด์ ฝรั่งเศส คือคำตอบที่ถูกต้องที่สุด เพราะเราสามารถเดินทางจากปารีสไปทั้ง ดิสนีย์แลนด์ปารีส หรือ Parc Astétix ก็ได้ นอกจากนี้ ผู้ที่ชอบเที่ยวแบบผู้ใหญ่ๆ หน่อย ก็เลือกทริปไป Loire Valley หรือ เขตผลิตไวน์ อย่าง เขต Champagne เพื่อดื่มด่ำกับไวน์ที่ดีที่สุดของ ฝรั่งเศส ได้เลย! เอาเป็นว่า ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบหรือสนใจอะไร ฝรั่งเศส มีทริปเจ๋งๆ มากมายที่รองรับนักท่องเที่ยวได้ทุกรูปแบบ ถ้าพร้อมแล้ว ก็กระโดดขึ้นรถไฟแล้วเดินทางออกจาก ปารีส แบบไปเช้าเย็นกลับด้วยกันได้เลย แล้วคุณจะรู้ว่า ตัดสินใจไม่ผิดสักนิด!

เข้าพักที่ โฮเต็ล เล บูย เดอ ปารีส แล้วออกไปเที่ยว มหาวิหารนอเทรอดาม (Notre Dame)

เคล็ดลับเที่ยวเดย์ทริปนอกปารีส – รู้ไว้สักหน่อยก่อนออกเดินทาง

สำหรับคนที่กำลังจะไป ปารีส เป็นครั้งแรก สิ่งแรกที่ควรทำคือ ทำความคุ้นเคยกับการใช้รถไฟใต้ดินหรือ Metro ก่อน เพราะนี่คือระบบรถไฟที่ให้บริการอยู่ทั่วทั้งเมือง ปารีส มีทั้งรถไฟ RER (บริการรถไฟระหว่างในเมืองกับชานเมือง) และรถไฟความเร็วสูง ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเดินทางไปไหน ซึ่งอาจต้องใช้บริการทั้งสองแบบเลยก็ได้

โชคดีของนักท่องเที่ยวที่รถไฟกับรถใต้ดินเชื่อมต่อกันและใช้งานง่าย ถ้าคุ้นเคยแล้วก็จะรู้เลยว่านี่คือวิธีการเดินทางในฝันที่แท้จริง เราจะได้เอนหลัง ผ่อนคลาย ปล่อยใจให้รถไฟวิ่งไป แทนที่จะต้องมานั่งขับรถหรือคลำหาทิศเอง ใครที่กำลังวางแผนเที่ยวเดย์ทริปใกล้ ปารีส อยู่ละก็ เคล็ดลับนี้จะช่วยนำทางท่องเที่ยวแทบชนบทของฝรั่งเศสได้อย่างสะดวกสบาย

• รู้ภาษาฝรั่งเศสไว้สักหน่อยก่อนเดินทาง – เมื่อต้องเดินทางออกนอกเมือง (หรือแม้จะอยู่ใน ปารีส ก็ตาม) เราจะพบว่าชาวฝรั่งเศสบางคนไม่ได้พูดภาษาอังกฤษได้ และ ภาษาฝรั่งเศส ก็เป็นภาษาประจำชาติ ดังนั้นคงจะดีหากเราเรียนรู้ภาษาเขาไว้สักหน่อย อย่าลืมดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นแปลภาษาไว้ด้วยนะ เพราะได้ใช้ประโยชน์กันแน่ๆ!
• นอกเมืองหลักๆ ไม่มีร้านที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง – เราต้องวางแผนล่วงหน้ากันสักหน่อยสำหรับการเที่ยวนอกเขตเมือง เพราะเวลาทำการของร้านรวงและสถานที่ต่างๆ จะสั้นกว่าที่เราเคยเจอ ดังนั้นต้องตรวจสอบเวลาให้แน่ใจก่อนออกเดินทาง ว่าเมื่อไปถึงแล้วร้านเหล่านั้นจะเปิดแน่ๆ
• คนฝรั่งเศสใช่ว่าจะไม่สุภาพ แต่พวกเขามีมารยาทในแบบฉบับของตัวเองต่างหาก – ปัดฝุ่นความรู้เกี่ยวกับวัฒธรรมฝรั่งเศสกันสักหน่อยก่อนเดินทาง คนฝรั่งเศสนี่ขึ้นชื่อเรื่องความไม่สุภาพก็จริง แต่ก็เป็นเพราะพวกเขาคาดหวังความสุภาพไว้มากต่างหาก เช่น การเข้าไปถามคนอื่นว่าพูดภาษาอังกฤษได้ไหม โดยไม่ได้เอ่ยทักทายก่อนก็อาจถูกมองว่าไม่สุภาพได้ หรือเมื่อไปกินอาหารข้างนอก ชาวฝรั่งเศสจะค่อยๆ กินอย่างช้าๆ (และจะไม่มีบริกรมาขัดจังหวะบ่อยๆ ด้วย) การทำความเข้าใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้จะช่วยให้รู้สึกสบายๆ ขึ้นตลอดการท่องเที่ยวใน ฝรั่งเศส แถมยังช่วยให้เราไม่เผลอไปทำอะไรไม่ดีใส่ใครด้วย – merci, s’il vous plait, และ bonjour (ขอบคุณ ขอร้อง และสวัสดี) เข้าไว้เวลาเที่ยวใน ฝรั่งเศส ว่าแล้วก็ปัดฝุ่นเรื่องภาษากันสักนิดก่อนออกเดินทางนะ!

เข้าพักที่ Hotel Relais Bosquet แล้วออกไปเที่ยว Le Repaire de Bacchus Store

เลือกที่พักใกล้ๆ สถานีรถไฟใต้ดิน

ต่อไปนี้คือข้อมูลแบบรวบรัดได้ใจความเกี่ยวกับย่านดังใน ปารีส และที่พักที่สะดวกต่อการเดินทาง พูดก็พูดเถอะ ยิ่งอยู่ใกล้ใจกลาง ปารีส เท่าไหร่ ก็ยิ่งเดินทางออกนอกเมืองได้ง่ายเท่านั้น กลับกัน ยิ่งไปพักห่างจากใจกลางเมือง ตัวเลือกในการเดินทางก็จะยิ่งน้อยลง เพราะฉะนั้นเลือกย่านที่อยู่ใจกลางเมือง ปารีส จะเป็นการง่ายที่สุด

• [The 10th Arrondissement] – ที่นี่ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟหลักอย่าง Gare de L’Est และ Gare du Nord ที่เดินจากแต่ละสถานีเพียง 10 นาทีก็ถึงที่พัก ย่านนี้ยังมีสะพานคนข้ามเจ๋งๆ คาเฟ่เด็ดๆ หลายแห่ง และอาหารรสเลิศอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นย่านที่ดีที่สุดย่านหนึ่ง ทั้งง่ายต่อการเดินทาง บรรยากาศรอบๆ ก็ดี แถมมีอะไรให้กินและดื่มด่ำอีกมากมาย
• [The 13th Arrondissement] – ที่นี่อยู่ใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน Gare D’Austerlitz สถานีหลักอีกแห่งใน ปารีส นอกจากทำเลจะดีแล้ว โรงแรม The 13th Arrondissement ยังเป็นโรงแรมดังประจำไชน่าทาวน์ของ ปารีส ด้วย ที่นี่มีร้านขายของชำแบบเอเชียอยู่หลายร้าน แถมยังมีห้องสมุดประจำ ฝรั่งเศส อย่าง Bibliothèque Nationale François Mitterrand อยู่อีกด้วย นอกจากนั้นก็ยังมีคลับ บาร์ และคาเฟ่เก๋ๆ อีกเพียบ ดังนั้น The 13th Arrondissement คือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดที่ควรค่าแก่การพักในปารีส

เข้าพักที่ Hotel Mayet แล้วออกไปเที่ยว พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์

1. Let them eat cake! ออกเดินทางจากปารีสไปพระราชวังแห่งแวร์ซาย

ถ้าไม่ได้ไป พระราชวังแวร์ซาย ก็เหมือนไปไม่ถึง ปารีส น่ะแหละ! พระราชวังแห่งศตวรรษที่ 17 นี้เริ่มต้นมาจากการเป็นที่พักอาศัยของราชวงศ์ฝรั่งเศส จนกระทั่งเกิดการปฏิวัติฝรั่งเศสขึ้นซึ่งเหตุการณ์นี้ได้เปลี่ยนประวัติศาสตร์ของชาวฝรั่งเศสไปเลย บุคคลมีชื่อเสียงที่เคยอยู่ที่นี่ก็มีทั้งพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารี อองตัวเน็ตต์ พระราชวังแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม รวมถึงการประดับประดาและตกแต่งด้านในซึ่งเกิดขึ้นในช่วงปฏิวัติฝรั่งเศส เครื่องเรือนดั้งเดิมหลายชิ้นกลับมาอยู่ในพระราชวังในปัจจุบัน ทางการพยายามจะคงสิ่งเหล่านี้ไว้เพื่อให้ได้ความรู้สึกแบบโบราณดั้งเดิมจริงๆ ทั้งห้องกระจก (Hall of Mirrors) รวมถึงห้องส่วนตัวของพระราชาและพระราชินีล้วนตกแต่งอย่างหรูหราและการบูรณะห้องต่างๆ ก็ทำให้พระราชวังแห่งนี้สมบูรณ์แบบ เพราะฉะนั้น แวร์ซาย จึงควรค่าแก่การมาเยือนอย่างแท้จริง

ถ้าใครวางแผนไปเที่ยว พระราชวังแวร์ซาย ในช่วงเดือนที่สภาพอากาศอุ่นๆ อย่าลืมไปชมโชว์น้ำพุด้วย ที่บริเวณอุทยานของ พระราชวังแวร์ซาย มีน้ำพุอยู่เยอะมาก แต่เพราะต้นทุนค่าใช้จ่ายและต้องการประหยัดน้ำ จึงมีการเปิดน้ำพุเฉพาะบางช่วงเวลาของปี ตามวันและเวลาที่กำหนดเท่านั้น (ปกติจะอยู่ในช่วงปลายเดือนมีนาคม – ปลายเดือนตุลาคม) และมักเปิดน้ำพุในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันอังคาร (ของปลายเดือนพฤษภาคม – ปลายเดือนมิถุนายน) และอาจเปิดในวันหยุดต่างๆ อีกด้วย ดังนั้นควรตรวจสอบเวลาล่วงหน้า เพราะหากไปเที่ยว พระราชวังแวร์ซาย ในช่วงนี้ก็จะเหมือนได้โบนัสพิเศษไปด้วยเลย

ยังมีอะไรอีกมากมายที่สามารถดูและทำได้ที่ พระราชวังแวร์ซาย ดังนั้นควรวางแผนเดินทางล่วงหน้า เพื่อให้มีเวลาชมพระราชวังเยอะๆ และอาจจะข้ามแลนด์มาร์กเล็กๆ บางแห่งไปได้ (อาทิ หมู่บ้านของมารี อองตัวเน็ตต์, Gallery of Coaches ฯลฯ) ส่วนค่าตั๋วของ พระราชวังแวร์ซาย มีราคาตั้งแต่ 18 ยูโรขึ้นไป ตั๋วบางชนิดเข้าชมได้เพียงข้างในพระราชวัง และบางประเภทสำหรับเข้าได้ทุกส่วน เวลาซื้อจึงต้องดูให้ดีว่าเป็นตั๋วแบบที่ต้องการแน่ๆ หรือไม่ นอกจากนี้ยังมีร้านค้าและร้านอาหารแถวนี้อีกเพียบ ให้ทุกคนได้ตักตวงความสุขและสร้างความทรงจำดีๆ ที่ พระราชวังแวร์ซาย

การเดินทางจากปารีสไปพระราชวังแวร์ซาย

• โดยสารรถไฟ RER จาก ปารีส มายัง สถานีแวร์ซาย – ดังนั้นต้องหาสถานีรถไฟใต้ดินที่เชื่อมต่อกับรถไฟ RER แล้วขึ้นรถไฟ RER สาย C มายัง แวร์ซาย ส่วนสถานีรถไฟใต้ดินใน ปารีสที่เชื่อมกับรถไฟสายนี้คือ Les Invalides, Gare d’Austerlitz, Michel-Notre Dame, Musee d’Orsay, Champ de Mars-Tour Eiffel, และ Pont de l’Alma นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นจากสถานีเหล่านี้ได้หมด โดยซื้อตั๋วรถไฟ RER ไปลง สถานี Versailles-Rive Gauche (ราคาอยู่ที่ 7 ยูโร รวมขากลับแล้ว) จากนั้นก็ตรวจสอบชานชาลาของรถไฟ RER สาย C
• เลือกใช้บริการทัวร์ – ขึ้นรถบัสหรือชัตเติลบัสจาก ปารีส ไปยัง แวร์ซาย ได้เลย วิธีนี้เหมาะกับคนที่เดินทางคนเดียวแล้วไม่อยากคลำหาทางในรถไฟใต้ดินหรือรถไฟ RER
• นอกจากนี้ ยังเช่ารถหรือเรียกแท็กซี่ได้ด้วย แต่วิธีนี้แพงพอๆ กับทัวร์ แถมอาจจะต้องเครียดกับถนนหนทางใน ปารีส อีก

เข้าพักที่ Waldorf Astoria Versailles Trianon Palace แล้วออกไปเที่ยว พระราชวังแวร์ซาย

2. เดย์ทริปใกล้ปารีส: ดิสนีย์แลนด์ปารีส ดินแดนมหัศจรรย์ขวัญใจเด็กๆ

ที่ ดิสนีย์แลนด์ปารีส นี้ เราจะได้สนุกกับเครื่องเล่นกันหลายรอบเลย ซึ่งน่าจะต่างจากเวลาไปดิสนีย์แลนด์ที่อื่น เช่น ดิสนีย์แถบอเมริกาเหนือที่เล่นเครื่องเล่นได้รอบเดียวแล้วก็ต้องเข้าคิวรออีกทั้งวัน แต่ที่ ดิสนีย์แลนด์ปารีส ไม่เป็นอย่างนั้น ด้วยขนาดที่เล็กกว่าก็จริง แต่คนก็ไม่แออัดขนาดนั้น ที่นี่คือสวนสนุกที่หากได้มาแล้วก็จะตักตวงความสุขแบบง่ายๆ ได้

ที่สำคัญคือ ดิสนีย์แลนด์ปารีส ราคาไม่แพงด้วย แถมยังมีของที่ระลึกที่หาซื้อจากที่อื่นไม่ได้ ถ้าเป็นแฟนดิสนีย์ตัวยง หรือกำลังมองหาแหล่งท่องเที่ยวดีๆ ที่จะได้พาเด็กๆ ออกไปสนุกกันนอกเมืองใหญ่ ก็ตัดสินใจวางทริปมา ดิสนีย์แลนด์ปารีส ได้เลย

การเดินทางจากปารีสไปดิสนีย์แลนด์ปารีส

• การเดินทางไป ดิสนีย์แลนด์ ที่ง่ายที่สุดคือนั่งรถไฟ โดยขึ้นรถไฟ RER สาย A มาลงสถานีปลายที่จอดหน้า ดิสนีย์แลนด์ ได้เลย เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวลงผิดสถานีแน่นอน
• ไม่ว่าจะพักอยู่ตรงไหนของเมือง ก็นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน หรือบัสมาสถานีรถไฟได้ (ทั้งสถานี Charles de Gaulle Étoile, Nation, Chatelet Les Halles, Auber หรือ Gare de Lyon) จากนั้นเปลี่ยนขบวนไปขึ้นรถไฟ RER สาย A สายที่มุ่งหน้าไป Marne-la-Vallée – Chessy

เข้าพักที่ Hipark By Adagio Serris Val D Europe แล้วออกไปเที่ยว กอล์ฟ ดิสนีย์แลนด์

3. เดย์ทริปใกล้ปารีส: ย้อนเวลาหาอดีตที่พระราชวัง Fontainebleau

สิ่งที่ ฝรั่งเศส ขึ้นชื่อมากสิ่งหนึ่งก็คือ ที่นี่มีพระราชวังและปราสาทที่เหล่าราชวงศ์เคยอยู่เต็มไปหมด ซึ่ง พระราชวัง Fontainebleau ก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่นี่คือที่อยู่ของราชวงศ์ฝรั่งเศสที่ปกครองประเทศมาตั้งแต่พระเจ้าหลุยส์ที่ 7 ไปจนถึงพระเจ้านโปเลียนที่ 3 ซึ่งทางการยังคงอนุรักษ์สถานที่ทั้งหมดนี้ไว้ให้คงความงดงามมาจนถึงปัจจุบัน

ตัวพระราชวังอยู่ห่างจาก ปารีส ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ราว 34 ไมล์ พระราชวัง Fontainebleau ได้รับการรับรองจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก ทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างเดินทางมาชมความงาม และเพราะการตกแต่งอันงดงามตระการตาทำให้เรารู้สึกเหมือนก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศสจริงๆ ทั้งนี้ นอกจากตัวอาคารเองแล้ว พื้นที่รอบๆ พระราชวัง Fontainebleau ก็น่าสนใจเช่นกัน เพราะมีทั้งสวนอังกฤษ อุโมงค์ คลอง ฯลฯ ถ้าใครชื่นชอบวัฒนธรรมฝรั่งเศส และสนใจเรื่องประวัติศาสตร์ราชวงศ์ หรือชอบดูสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศส ห้ามพลาด พระราชวัง Fontainebleau เด็ดขาด

การเดินทางจากปารีสไปพระราชวัง Fontainebleau

• จากสถานีรถไฟ Gare de Lyon ขึ้นรถไฟขบวนที่มุ่งหน้าไปยัง Montargis Sens, Laroche-Migennes หรือ Montereau แล้วลงที่สถานี Fontainebleau-Avon จากนั้นขึ้นรถบัสสาย 1 (Ligne 1 – Les Lilas) ไปลงที่ Château
• เลือกเดินทางโดยรถโค้ชกับกรุ๊ปทัวร์ต่างๆ จากตัวเมือง ปารีส ก็ได้เช่นกัน หากเลือกทางนี้อย่าลืมคำนึงถึงงบและตารางเวลาที่ค่อนข้างเป๊ะของกรุ๊ปทัวร์ด้วย

เข้าพักที่ La Demeure Du Parc แล้วออกไปเที่ยว พระราชวัง Fontainebleau

4. เดย์ทริปใกล้ปารีส: เยี่ยมชมวิหาร Mont Saint Michel ที่ Normandy

ที่ Normandy มีสถานที่ท่องเที่ยวเจ๋งๆ อยู่เต็มไปหมด ดังนั้นงานยากจึงอยู่ที่การตัดสินใจว่าทริปวันเดียวนี้เราจะเลือกไปไหนดี ซึ่งที่ Normandy มีเกาะ Mont Saint Michel ที่ยูเนสโกประกาศให้เป็นมรดกโลกอยู่ด้วย

เกาะแห่งนี้มีความสำคัญยิ่งต่อฝรั่งเศสตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 8 เพราะต่อให้น้ำขึ้นสูงสุดก็ยังไม่กระทบเกาะ นี่จึงเป็นทำเลชั้นยอดของกองทัพ ผู้คนมากมายจากทั่วโลกเดินทางมาชมความงามของที่นี่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของวิหาร Mont Saint Michel ชุมชนแถวนี้โด่งดังเรื่องอาหาร ถ้าได้พักอยู่ในตัวเมืองต้องไปที่ร้าน La Mère Poulard แล้วลองชิมออมเล็ตจานเด็ดของร้านดู ทั้งวิวที่สวยงาม อาหารอร่อยๆ แถมยังมีแลนด์มาร์กอันน่าทึ่งอีก จึงขอบอกเลยว่าควรใส่ Mont Saint-Michel ไว้ใน เดย์ทริปจาก ปารีส ที่สุด

การเดินทางจากปารีสไป Mont Saint Michel

• ซื้อตั๋วและเดินทางจากสถานี Gare Saint-Lazare ใน ปารีส ไปยัง Mont Saint-Michel ได้เลย
• อีกทางเลือกคือ ออกเดินทางจากสถานี Gare de l’Est ก็ไปที่ Mont Saint-Michel ได้เช่นกัน

เข้าพักที่ Mouton Blanc Hotel แล้วออกไปเที่ยว Tombelaine

5. เดย์ทริปใกล้ปารีส: สนุกสุดเหวี่ยงที่ Parc Astérix

หากใครคลั่งไคล้ธีมปาร์กหรือมองหาทริปวันเดียวจากใจกลางเมือง ปารีส สำหรับทั้งครอบครัวอยู่ละก็ Parc Astérix อาจเป็นคำตอบที่ดีได้ ธีมปาร์กแห่งนี้สร้างขึ้นจากตัวละครต่างๆ ใน Asterix การ์ตูนเรื่องดังของ ฝรั่งเศส ถึงแม้จะไม่คุ้นเคยกับการ์ตูนฝรั่งเศสกันสักเท่าไหร่ ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะสวนสนุกแห่งนี้โด่งดังด้วยตัวของมันเองอยู่ดี วัดได้จากยอดนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลกันมาเกือบ 2 ล้านคนต่อปี

ฤดูที่เหมาะจะมาเที่ยว Parc Astérix คือช่วงฤดูร้อน เพราะเครื่องเล่นและจุดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายๆ จุดอยู่ในน้ำ เพราะฉะนั้นต้องอาศัยความร้อนจากฤดูนี้มาช่วยให้อากาศไม่หนาวกันเกินไป ธีมปาร์กนี้ตั้งอยู่ในเขตประวัติศาสตร์อย่าง Picardy ที่ขึ้นชื่อเรื่องไวน์ ความงาม และชายทะเล ดังนั้นแถวนี้เลยยังมีอะไรให้ทำอีกหลายอย่าง นี่อาจเป็นที่ที่เหมาะเจาะกับทุกครอบครัวอย่างแท้จริง

รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับ Parc Astérix สำหรับคนที่จะเดินทางไปครั้งแรก

• คิวสั้นกว่า ดิสนีย์แลนด์ปารีส และรอไม่ได้นานด้วย
• มีร้านอาหารแบบครบจบในที่เดียวให้เลือกมากมาย
• มีรถไฟเหาะตีลังกาสุดอลังการให้ได้สนุกสุดเหวี่ยง รวมถึงมีอะไรสนุกๆ อีกมากมายที่เด็กๆ ต้องชอบ
• มักมีโปรโมชั่นฟรีค่าเข้าสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีที่มาพร้อมผู้ปกครอง (ตรวจสอบเวลาและโปรโมชั่นก่อนซื้อตั๋ว)
• มีตั๋วเครื่องเล่นแบบ Fast Pass ซึ่งถ้าซื้อตั๋วประเภทนี้จะช่วยให้ไม่ต้องเข้าคิวตามเครื่องเล่นฮิตๆ

การเดินทางจากปารีสไป Parc Astérix

• ขึ้นรถไฟ RER จาก ปารีส ที่สถานี Gare du Nord ไปยัง สนามบิน Charles de Gaulle จากนั้นเดินตามป้ายบอกทาง Parc Astérix จะมีชัตเติลบัสของสวนสนุกคอยให้บริการอยู่
• มีบริการรถบัสจาก ปารีส เป็นอีกทางเลือกด้วย แต่มักออกเดินทางแต่เช้า และกลับเร็ว ซึ่งรอบกลับอาจจะเร็วกว่าเวลาที่เราวางแผนไว้

เข้าพักที่ Fasthotel Roissy – Saint-Witz แล้วออกไปเที่ยว Saint-Witz

6. เดย์ทริปใกล้ปารีส: ชมความงามของสวนและปราสาทที่ Vaux-le-Vicomte

Vaux-le-Vicomte คือปราสาทสไตล์บาโรกในเขต Maincy มักถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ต่างๆ มาตลอดหลายปี ซึ่งหลายคนอาจจำได้จากซีรี่ส์เรื่อง Versailles ปราสาทแห่งนี้ได้รับการออกแบบมาให้ได้สมมาตรแบบเป๊ะๆ ซึ่งถือเป็นความมหัศจรรย์ของโลกสถาปัตยกรรมเลยก็ว่าได้ ดังนั้นจึงควรค่าแก่การมาชมด้วยตาตนเอง ที่ปราสาท Vaux-le-Vicomte มีคูน้ำล้อมรอบ ดังนั้นต้องข้ามสะพานไปเท่านั้นถึงจะถึงตัวปราสาทได้ ส่วนสวนสไตล์ฝรั่งเศสด้านนอกก็เป็นต้นแบบของสวนที่ พระราชวังแวร์ซาย ที่สวยจนต้องมาดู

หากมาที่นี่ช่วงวันหยุดเทศกาล อาจได้เที่ยวอีเวนต์ต่างๆ ไปด้วย อย่างช่วงอีสเตอร์จะมีงานกิจกรรมใหญ่อย่างการหาไข่อีสเตอร์ในสวน หรือทุกวันอาทิตย์ของเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม ตัวปราสาทและสวนจะประดับประดาไปด้วยเทียนกว่า 2,000 เล่ม ซึ่งหากได้มาดูในช่วงนี้ เราจะไม่มีวันลืมความงามนี้ไปได้เลย Vaux-le-Vicomte คือหนึ่งในไม่กี่ปราสาทที่เครื่องเรือนต่างๆ และการตกแต่งยังเป็นไปตามแบบฉบับดั้งเดิมในประวัติศาสตร์ ดังนั้นการก้าวเข้าสู่ด้านใน Vaux-le-Vicomte จึงเหมือนได้ย้อนเวลากลับสู่อดีต ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ควรจัดไว้ในแพลนเดย์ทริปใกล้ ปารีส

การเดินทางจากปารีสไป Vaux-le-Vicomte

• ตั้งต้นจากสถานีรถไฟใต้ดิน Gare de l’Est ใน ปารีส ขึ้นรถสาย P ที่มุ่งหน้าไปยัง Provins จากนั้นลงที่สถานี Verneuil l’Etang และจากตัวสถานีจะมีชัตเติลบัสพาไปที่ปราสาท

เข้าพักที่ Hôtel Les Poteaux Carrés แล้วออกไปเที่ยว Cret de Roc

7. เดย์ทริปใกล้ปารีส: จิบแชมเปญกลางแหล่งผลิตที่แคว้น Champagne

เที่ยว แคว้น Champagne และชิมเครื่องดื่มชื่อดัง ณ แหล่งกำเนิดที่แท้จริง – คนรักแชมเปญต้องแฮปปี้กับการมาเยือนเขตที่ใช้ชื่อตามไวน์ดัง เป็นที่รู้กันดีว่า ฝรั่งเศส คือหนึ่งในผู้นำด้านการผลิตไวน์ และหลายแคว้นก็ได้รับการรับรองและยอมรับในความเชี่ยวชาญด้านการผลิตไวน์จริงๆ ซึ่งถ้าใครเป็นคอไวน์ตัวจริงละก็ ที่นี่คือสถานที่ที่ดีที่สุดในโลกที่คุณควรมา

แคว้นนี้ผลิตไวน์กันมาตั้งแต่ยุคกลาง และยังคงผลิตกันมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีเพียงไวน์ที่ผลิตจากแคว้นนี้เท่านั้น ที่จะได้ชื่อว่า “แชมเปญ” จริงๆ ไวน์ที่คล้ายๆ กันแต่ผลิตนอกแคว้นจะเรียกว่า “Sparkling Wine” จากชื่อเสียงเรื่องความเป็นเลิศด้านไวน์ กับทัศนียภาพอันแสนงดงามจะทำให้ แคว้น Champagne กลายเป็นที่เที่ยวที่สมบูรณ์แบบสุดๆ สำหรับเดย์ทริปใกล้ ปารีส ของทุกคน

การเดินทางจากปารีสไปแหล่งผลิตไวน์ ณ Champagne

• แคว้น Champagne** อยู่ห่างจากตัวเมืองปารีสราว 2 ชั่วโมง เดินทางไปได้ทั้งรถไฟ RER และรถไฟความเร็วสูง ซึ่งแบบหลังราคาจะสูงกว่า
• ขึ้นรถไฟจากสถานี Gare de l’Est ใน ปารีสไปลงที่สถานี Reims

เข้าพักที่ Holiday Inn Reims Centre แล้วออกไปเที่ยว Towers of Reims Cathedral

8. เดย์ทริปใกล้ปารีส: อนุสรณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 กับโมเนต์ ฯลฯ ที่ Normandy

Normandy ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของ ฝรั่งเศส เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวผู้สนใจเรื่องสงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะที่นี่คือสถานที่เกิดเหตุวันดีเดย์หรือวันยกพลขึ้นบก (ณ Omaha Beach) นอกจากนี้ Normandy ยังเป็นแคว้นที่สวยงามขึ้นชื่อทั้งเรื่องหน้าผาและอาหารทะเล

ไม่เพียงเท่านั้น Normandy ยังเป็นแหล่งสร้างแรงบันดาลใจให้ Claude Monet สร้างสรรค์ผลงานต่างๆ ด้วย ซึ่งบ้านของเขายังคงอยู่ใน ย่าน Giverny มาถึงทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นคงจะดีไม่น้อยหากได้มาสำรวจทัศนียภาพอันงดงามที่เป็นแรงบันดาลใจของศิลปินอิมเพรสชั่นนิสต์ชื่อดังของโลก แต่ไม่ว่าจะสนใจอะไรเป็นพิเศษ ทั้ง Mont Saint-Michel หรือบ้านโมเนต์ หรือสนใจประวัติศาสตร์ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แคว้นแสนสวยแห่งนี้ก็มีอะไรให้เที่ยมชมมากมาย ซึ่งอาจลงท้ายด้วยความรู้สึกอยากอยู่ที่นี่ให้นานกว่า One-Day Trip ก็ได้!

การเดินทางจากปารีสไป Normandy

• รถไฟจาก ปารีส ไป Normandy ที่เร็วที่สุดใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมงกว่า ดังนั้นหากวางแผนออกเดินทางแต่เช้าตรู่ จะช่วยให้มีเวลาเที่ยวที่ Normandy นานขึ้น
• ซื้อตั๋วและออกเดินทางไป Bayeux ได้จากสถานี Gare Saint-Lazare ปารีส
• หากอยากเที่ยวแบบละเอียดจริงๆ แนะนำให้เช่ารถเมื่อไปถึง Normady เพราะการเดินทางจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งด้วยการขนส่งสาธารณะออกจะยุ่งยากหน่อย

เข้าพักที่ Hotel Le Lion D’Or et Restaurant La Table Du Lion แล้วออกไปเที่ยว Museum of the Battle of Normandy

9. เดย์ทริปใกล้ปารีส: ไป Étretat ชายฝั่งทางเหนือของฝรั่งเศส

Étretat ที่ Normandy คือแลนด์มาร์กอีกหนึ่งแห่งที่สะกดทุกสายตาได้จริงๆ (และหลายคนอาจจะอยากยืดเวลา One-Day Trip เป็น Two-Day Trip เลยด้วยซ้ำ) Étretat ตั้งอยู่ที่ชายฝั่งทางเหนือของ ฝรั่งเศส ผาหินสีขาวแห่งนี้ก่อตัวขึ้นจนกลายเป็นหน้าผาขนาดมโหฬารที่ชวนให้ตื่นตะลึงทันทีที่ได้เห็น

ผู้คนจากทั่วโลกเดินทางมาแคว้นนี้เพื่อดู Porte d’Aval arch และ L’Aiguille หน้าผาหินซึ่งอาจเคยเห็นกันมาจากรูปถ่ายต่างๆ นอกจากนี้โบสถ์ Chapelle Notre-Dame de la Garde ยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ควรค่าแก่การแวะไป เพราะที่นี่มีวิวอันแสนงดงามบนน้ำใสแจ๋ว ที่ช่างภาพตัวจริงห้ามพลาดเด็ดขาด Normandy คือสถานที่สุดตื่นตาตื่นใจ เป็นศูนย์รวมประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน อย่าลืมเติม Étretat และ Normandy ไว้ในแพลนทริป ฝรั่งเศส ด้วยนะ!

การเดินทางจากปารีสไป Étretat

• ขึ้นรถไฟจากสถานี Gare de Paris – St-Lazare ไปลงสถานี Gare de Bréauté-Beuzeville จากนั้นนั่งรถบัสตรงไป Étretat Mairie ได้เลย
• อีกหนึ่งตัวเลือกการเดินทางคือ การเช่ารถ ขอแนะนำให้เช่าหลังจากเดินทางพ้นจากใจกลางเมืองอันวุ่นวายของ ปารีส แล้ว ซึ่งนี่เป็นวิธีที่สะดวกและเหมาะแก่การแวะชมสิ่งต่างๆ ใน Normandy

เข้าพักที่ Domaine de L’Hostreiere แล้วออกไปเที่ยว Omaha Beach Memorial Museum

10. เดย์ทริปใกล้ปารีส: ดื่มด่ำกับไวน์และซึมซับบรรยากาศที่ Loire Valley

Loire Valley คือหนึ่งในแคว้นที่งดงามที่สุดของ ฝรั่งเศส และควรค่าแก่การแวะเที่ยวในทริปวันเดียวจบ Loire Valley ตั้งอยู่ภาคกลางของ ฝรั่งเศส ห่างจาก ปารีส 132 ไมล์ เดินทางสะดวกสบายด้วยรถไฟ

Loire Valley นั้นมีชื่อเสียงทั้งเรื่องปราสาท เมืองที่สวยงาม และมีวิหารอันโอ่อ่ามากมาย ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ชนชั้นสูงของฝรั่งเศสมักมาใช้เวลาที่นี่ แคว้นนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องไวน์รสเลิศด้วย ดังนั้นหากใครเป็นคอไวน์ก็ต้องมา Loire Valley ให้ได้ ที่สำคัญคือยูเนสโกประกาศให้ Loire Valley เป็นเมืองมรดกโลก ซึ่งถือเป็นมรดกโลกที่ใหญ่ที่สุดของ ฝรั่งเศส หากได้มาที่นี่แล้วลองเลือกแวะโรงผลิตไวน์ชื่อดังสักแห่งแล้วชิมรสชาติ ฝรั่งเศส แท้ๆ ดูคงจะดีไม่น้อย

การเดินทางจากปารีสไป Loire Valley

• ขึ้นรถไฟที่สถานี Gare Montparnasse ไปลงสถานี Tours ใน Loire Valley แล้วเริ่มต้นทริปจากตรงนั้นได้เลย ใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง
• อีกวิธีคือ ขึ้นรถบัสจาก ปารีส แต่ก็ใช้เวลานานกว่า (ราว 4 ชั่วโมงขึ้นไป) และอาจไม่เหมาะแก่การเที่ยวแบบวันเดียวเท่านั้น เพราะจะหมดเวลาส่วนใหญ่ไปกับการเดินทาง

เข้าพักที่ Seven Urban Suites Nantes Centre แล้วออกไปเที่ยว Île de Nantes

ตัวเลือกการเดินทางอื่นๆ สำหรับเดย์ทริปใกล้ปารีส

การเดินทางใน ปารีส ที่ง่ายที่สุดคือการใช้บริการเมโทร หรือรถไฟใต้ดิน แต่เราอาจต้องเปลี่ยนวิธีการเดินทางบ้างระหว่างทริปนอกเมือง แม้บ้างแห่งจะเป็นจุดเชื่อมระหว่างรถใต้ดินและ RER (บริการรถไฟระหว่างในเมืองกับชานเมือง) ก็ตาม ดังนั้นควรทำความคุ้นเคยกับระบบรถใต้ดินใน ปารีส ไว้ก่อน แล้วเมื่อตัดสินใจเดินทางออกนอกเมือง ก็จะรู้ว่าประสบการณ์การใช้รถไฟใต้ดินนั้น ช่วยให้เดินทางนอกเมืองได้คล่องขึ้น

• ฝรั่งเศสเชื่อมถึงกันด้วยรถไฟ – แม้จะอยู่ใน ปารีส ก็อาจจะต้องใช้รถไฟ RER ในการเดินทางด้วย โดยเฉพาะถ้าจะไป ดิสนีย์แลนด์ หรือ พระราชวังแวร์ซาย รถไฟชานเมืองของที่นี่ไปถึงที่ต่างๆ รอบ ปารีส ได้มากมาย และง่ายต่อการเดินทาง
• ปารีสก็มีรถไฟหัวกระสุนเช่นกัน – หากอยากเดินทางเที่ยวเดย์ทริปไกลหน่อย เช่นไป Normandy หรือไกลกว่านั้น ควรใช้รถไฟความเร็วสูง ที่เดินทางด้วยความเร็ว 200 ไมล์ต่อชั่วโมง รถไฟแบบนี้จะพาเราไปถึงที่หมายได้อย่างรวดเร็ว แม้ราคาตั๋วจะสูงแต่ก็ถือว่าคุ้มค่าหากอยากเที่ยวให้ได้หลายๆ ที่
• รักษาตั๋วไว้ให้ดี! – เมื่อขึ้นรถไฟแล้วอย่าทำตั๋วหายเด็ดขาด โดยเฉพาะขบวนรถไฟ RER ที่เดินทางไกลๆ พนักงานมักเดินตรวจตั๋วเสมอ และถ้าตั๋วไม่อยู่กับตัวละก็เสี่ยงต่อการต้องซื้อใหม่แน่นอน ดังนั้นเก็บตั๋วไว้ดีๆ เพื่อแสดงให้เจ้าหน้าที่ตรวจ
• บนรถไฟมีขโมยนะ! – อย่าวางกระเป๋าไว้ไกลหูไกลตาเด็ดขาด เฝ้าของตัวเองไว้ดีๆ และอย่าพกของมีค่าเกินจำเป็นในการเดินทางสั้นๆ เพราะมีโจรลวงกระเป๋าทำงานในรถไฟและรถสาธารณะต่างๆ ใน ปารีส ดังนั้นจับกระเป๋าตัวเองไว้ดีๆ (หรือลงทุนซื้อกระเป๋าที่มีล็อกในตัว) และอย่าวางของไว้นอกสายตา
• มีแท็กซี่ก็จริง แต่ก็แพงเอาเรื่อง -มีแท็กซี่ให้บริการมากมายทั่ว ปารีส แต่ราคาก็แพงหูฉีกเช่นกันถ้าจะนั่งแท็กซี่ออกไปนอกเมือง สำหรับการเที่ยวใน ปารีส การนั่งแท็กซี่เหมาะกับการเดินทางใกล้ๆ แต่ถ้าจะไปไกลๆ เลือกรถไฟ RER หรือรถไฟความเร็วสูงก็จะประหยัดกว่า
• ปารีสมี Ridesharing ให้บริการ – หากมองหาวิธีเดินทางแบบเร็วๆ เพื่อไปสถานีต่างๆ ในเมือง แล้วไม่อยากใช้บริการรถใต้ดิน Ridesharing คือคำตอบ มีทั้ง Uber และ Lyft รวมถึงบริการ Ridesharing เจ้าอื่นๆ ใน ปารีส
• การเช่ารถก็เป็นทางเลือกที่ดี – การขับรถนอก ปารีส นั้นสบายๆ แต่การขับรถในเมืองคือฝันร้ายชัดๆ การจราจรใน ปารีส วุ่นวายสุดๆ และมีทางเฉพาะสำหรับการเดินเต็มไปหมด ดังนั้นการหาเส้นทางในปารีสจึงเป็นเรื่องท้าทายมาก หากวางแผนเช่ารถขับแถบชนบท ก็ควรจองรถเช่านอกเมืองไปเลย เพื่อเลี่ยงฝันร้ายบนถนน ปารีส
• ถ้างงก็จงพึ่งทัวร์ – ตัดกังวลเรื่องการเดินทางด้วยการจองทัวร์ไปเลย ในฝรั่งเศสมีทัวร์ให้เลือกมากมาย เพียงแค่เลือกให้ตรงกับความต้องการของเรา ข้อดีของทัวร์นอกจากเรื่องการเดินทางแล้วยังมีเรื่องอาหารและไกด์ด้วย เราจะได้สนุกไปกับประสบการณ์ใหม่ๆ
• อย่าเกรงใจที่จะขอความช่วยเหลือจากที่พัก – ที่พักพร้อมช่วยเราเสมอ บางครั้งประชาสัมพันธ์หรือบริการลูกค้าต่างๆ ช่วยได้แม้กระทั่งการหาแพ็กเกจทัวร์ที่เหมาะสม หรือให้คำแนะนำเรื่องการเดินทาง ดังนั้นอย่าเกรงใจที่จะถาม

เข้าพักที่ Hotel Beaugrenelle Tour Eiffel แล้วออกไปเที่ยว หอไอเฟล

ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดใน ปารีส