ช้อปปิ้งที่ย่านรปปงงิฮิลส์ (Roppongi Hills) และโตเกียวมิดทาวน์ (Tokyo Midtown): คู่มือสำหรับมือใหม่

เหตุผลที่ทำไมแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมากมายจากหลากหลายพื้นที่ไปเที่ยวที่ย่าน รปปงงิ (Roppongi) นั่นเป็นเพราะว่าเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่ยอดเยี่ยม ร้านอาหารที่เยอะแยะมากมาย พื้นที่สีเขียวอันเงียบสงบและสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่คึกคัก นอกจากจะเป็นที่ตั้งของศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดอย่าง รปปงงิฮิลส์ (Roppongi Hills) และ โตเกียวมิดทาวน์ (Tokyo Midtown) แล้ว ย่านรปปงงิยังมีพิพิธภัณฑ์ วัดเก่าแก่ และบาร์ที่ยินดีจะต้อนรับนักท่องเที่ยว อีกมากมาย เริ่มต้นทัวร์ย่านนี้ที่ ศูนย์จัดแสดงงานศิลปะแห่งชาติโตเกียว (The National Art Center, Tokyo) และแวะช้อปปิ้งร้านค้าย่านนี้ หลังจากซูชิมื้อค่ำแล้ว ออกไปเที่ยวที่ ถนนรปปงงิ (Roppongi Street) สวรรค์ของคนชอบเที่ยวบาร์

สถานที่สำคัญและสถานท่องเที่ยวหลักในย่านรปปงงิ (Roppongi)

หากใครอยากไปหอชมวิว Tokyo City View ขึ้นไปที่ชั้น 52 ของ ตึก Roppongi Hills Mori แล้วเราจะได้เห็นภาพของสถานที่สำคัญที่โด่งดังของเมืองโตเกียวจากมุมสูง เช่น ตึก National Diet โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) และ หอคอยโตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower) หอชมวิวที่เพิ่งปรับปรุงใหม่ประกอบด้วย 2 ชั้น ชั้นด้านใน (ในร่ม) จะมีหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานและแกลลอรี่ Sky Gallery และชั้นด้านบนเป็นชั้นดาดฟ้าที่นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวของเมืองได้เกือบ 360 องศาเมื่ออากาศเป็นใจ ตึก Roppongi Hills Mori สามารถเดินจาก สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Roppongi หอชมวิวนี้เปิดทำการวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 10.00-23.00 และวันศุกร์-เสาร์ เวลา 10.00-1.00 (ตีหนึ่ง) ราคาบัตรสำหรับหอชมวิว Tokyo City View and Sky Deck จะรวมค่าเข้าสำหรับ พิพิธภัณฑ์ศิลปะโมริ (Mori Art Museum) ด้วย

พิพิธภัณฑ์ศิลปะโมริ: (Mori Art Museum) พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ที่ หอคอยโมริ (Mori Tower) นั่นเอง พิพิธภัณฑ์ศิลปะโมริ (Mori Art Museum)เป็นพื้นที่แสดงงานศิลปะชั่วคราวที่จะจัดแสดงงานจำพวกศิลปะสมัยใหม่ที่สะท้อนสภาพสังคม รวมไปถึงสถาปัตยกรรม การออกแบบ แฟชั่น ภาพถ่าย และวิดีโอทดลอง นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ Minoru Mori ได้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ขึ้นเพื่อจัดแสดงนิทรรศการผลงานของศิลปินญี่ปุ่นและศิลปินต่างชาติที่มีชื่อเสียงสับเปลี่ยนกันไป งานนิทรรศกาลที่ผ่านๆ มาก็จะมี “From Me, Belongs to You Only” ผลงานประติมากรรมของศิลปินนามว่า Lee Bul ที่ใช้เทคนิคสีอครีลิค คริสตัลและลูกปัดแก้ว และนิทรรศกาล “Japan in Architecture” ที่รวบรวมงานศิลปะไว้มากกว่า 400 รายการ เป็นศิลปะแนว interactive installations ที่ผู้ชมสามารถสำรวจสถาปัตยกรรมแบบเก่าและแบบใหม่ของญี่ปุ่นได้เลย พิพิธภัณฑ์ศิลปะโมริ (Mori Art Museum) ตั้งอยู่ที่ชั้น 52 ของ ตึก Roppongi Hills Mori เปิดทำการทุกวัน เวลา 10.00-22.00 ยกเว้นอังคารจะปิดทำการ 17.00 นาฬิกา

วัดโซโจจิ (Zojoji Temple): ประวัติความเป็นมาของ วัดโซโจจิ นั้นก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1393 ที่เมืองคันโตเพื่อเป็นโรงเรียนสอนโจโดชู (Jodo-shu) ของศาสนาพุทธ ในปี ค.ศ 1958 วัดได้ถูกย้ายมาที่ตำแหน่งปัจจุบันนั่นก็คือใกล้กับ สวนชิบะ (Shiba Park) ทางด้านตะวันออกของย่าน รปปงงิฮิลส์ (Roppongi Hills) นอกจากนี้ที่ วัดโซโจจิ (Zojoji Temple) ยังเป็นที่ตั้งของ ประตูซังเกะดัตสึมง (Sangedatsumon Gate) สิ่งก่อสร้างไม้ที่เก่าแก่ที่สุดใน โตเกียว (Tokyo) และมีสวนที่เต็มไปด้วย รูปปั้นจิโซ (jizo statues) เพื่อเป็นอนุสรณ์ของเด็กที่ยังไม่เกิด ในวัดจะมีสุสาน 6 สุสานของโชกุนโทกูงาวะ (Tokugawa shogun) และด้านใต้ของตัวอาคารของวัดก็จะเป็นแกลลอรี่ Treasure Gallery ที่แสดงผลงานของจิตรกรชาวพุทธผู้โด่งดังนามว่า Kano Kazunobu วัดโซโจจิ (Zojoji Temple) สามารถเดินจากสถานีรถไฟ Onarimon (Mita Line) ประมาณ 5 นาที แกลลอรี่ภายในวัดเปิดให้เข้าชมทุกวันยกเว้นวันอังคาร เวลา 9.00-17.00 น.

สถานีโทรทัศน์อาซาฮิ (TV Asahi): ตั้งอยู่ในย่าน รปปงงิฮิลส์ (Roppongi Hills) สถานีโทรทัศน์อาซาฮิ (TV Asahi) เป็นเครือข่ายโทรทัศน์แห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ที่อยู่เบื้องหลังผลงานอนิเมะและละครดังๆ ของญี่ปุ่นมากมาย ห้องโถงใหญ่ของอาคารสำนักงานใหญ่เปิดให้บริการแก่สาธารณะและมีร้านขายของที่ระลึกรวมถึงการแสดงตามตัวละครจากรายการ ทีวีอาซาฮิ เช่นโดราเอมอนและคาเมนไรเดอร์ นิทรรศการที่จัดแสดงถาวรจะเป็นแบบจำลองของห้องนอนโนบิตะและอุปกรณ์ประกอบฉากจากเรื่องโดราเอมอน และยังมีร้านของสถานีโทรทัศน์อาซาฮิเองด้วยที่ขายของที่เกี่ยวข้องกับรายการทีวีและมาสคอตของสถานี แกลลอรี่เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 9.30-20.30 ยกเว้นวันอาทิตย์จะปิด 18.00 นาฬิกา

ศูนย์จัดแสดงงานศิลปะแห่งชาติโตเกียว (The National Art Center, Tokyo): ศูนย์จัดแสดงงานศิลปะแห่งชาติโตเกียว (The National Art Center, Tokyo) เป็นพื้นที่แสดงศิลปะที่ใหญ่ที่สุดใน 5 แห่งขององค์กร Independent Administrative Institution National Museum of Art และเป็นหนึ่งในสถาบันศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นขนาดประมาณ 8.7 ไร่ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะจัดนิทรรศกาลพิเศษสับเปลี่ยนระหว่างผลงานของศิลปินญี่ปุ่นและศิลปินต่างชาติ ตัวอย่างของนิทรรศกาลที่ผ่านๆ มาคือ ผลงานของ Salvador Dali และภาพบุคคลจากชุดสะสมของ Louvre แกลลอรี่ทั้ง 12 กระจายอยู่ทั่วทั้ง 3 ชั้นของศูนย์จัดแสดงพร้อมกับคาเฟ่และร้านอาหาร 2-3 ร้านด้วยกัน ที่ชั้นใต้ดินจะมีร้านขายของโดย Souvenir From Tokyo การเดินทางไปที่ ศูนย์จัดแสดงงานศิลปะแห่งชาติโตเกียว (The National Art Center, Tokyo) สามารถตรงไปได้เลยจากทางออกที่ 6 ของ สถานีรถไฟ Nogizaka (Chiyoda Line) ตารางเวลาเปิดทำการของ พิพิธภัณฑ์เปิดทำการวันจันทร์ พุธ พฤหัสบดี และอาทิตย์ เวลา 10.00-18.00 วันศุกร์และเสาร์ เวลา 10.00-20.00 (ปิดวันอังคาร)

สวนฮิโนกิโช (Hinokicho Park): สวนฮิโนกิโช (Hinokicho Park) ตั้งอยู่ด้านหลังศูนย์การค้าโตเกียวมิดทาวน์ (Tokyo Midtown) สวนฮิโนกิโช (Hinokicho Park) เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการหนีจากความวุ่นวายของเมือง สวนนี้เคยตั้งอยู่ที่ Azabu villa บ้านเก่าของครอบครัวโมริสมัยเอโดะของญี่ปุ่น (ค.ศ. 1603-1868) ณ ปัจจุบันสวนแห่งนี้ประดับประดาไปด้วยต้นเชอร์รี่และต้นสนไซเปรส สวนแห่งนี้จะงดงามเมื่อดอกเชอร์รี่บานในฤดูใบไม้ผลิและช่วงใบไม้ผลัดใบในฤดูใบไม้ร่วง นอกจากนี้ยังมีสนามเด็กเล่นเล็กๆ ที่มีสไลเดอร์ ชิงช้า และพื้นที่เล่นน้ำ สวนแห่งนี้เป็นแหล่งของกิจกรรมและงานอีเว้นท์มากมายตลอดทั้งปีรวมไปถึงลานสเก็ตในฤดูหนาว และ สวนฮิโนกิโช แห่งนี้เดินจากสถานี Nogizaka Station (ทางออก Exit 3) แค่ 3 นาที หรือจากสถานี Roppongi Station (สาย Hibiya Line, ทางออก Exit 4A) แค่ 5 นาทีก็ถึงแล้ว

สวนโมริ (Mori Garden): หากใครอยากพักจากการช็อปปิ้งและเที่ยวชมสามารถแวะไปที่สวนเก่าแก่ 400 ปีแห่งนี้ได้ เพื่อผ่อนคลายและใช้เวลาในพื้นที่สีเขียวขจี สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ย่าน รปปงงิฮิลส์ อยู่ระหว่าง หอคอยโมริทาวเวอร์ (Mori Tower) โรงแรม Grand Hyatt Tokyo และ สถานีโทรทัศน์อาซาฮิ (TV Asahi) สวนแห่งนี้ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมร่วมสมัยและหลักการจัดสวนแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมเพื่อสร้างพื้นที่สีเขียวที่สะท้อนให้เห็นทั้ง “ความเก่า” และ “ใหม่” ของญี่ปุ่น กลางสวนมีสระน้ำที่มีปลาเมดากะ (Medaka) หลายพันตัวหรือที่เรียกว่าปลาข้าวญี่ปุ่น ปลาชนิดนี้สืบเชื้อสายมาจากปลาที่ใช้ในโครงการวิจัยทางวิทยาศาสตร์บนกระสวยอวกาศ Space Shuttle Columbia เลยได้ชื่อว่า “ปลาอวกาศ”

ศาลเจ้าโนกิ (Nogi Shrine): ศาลเจ้าแห่งนี้ของศาสนาชินโตที่สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1923 เพื่อเป็นอนุสรณ์ของนายทหารกองทัพบกผู้ทรงเกียรติ Nogi Maresuke ที่ร่วมรบในสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่หนึ่ง (Sino-Japanese War) และสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น (Russo-Japanese War) นายพล Nogi Maresuke อาศัยอยู่กับภรรยาจนถึงปี ค.ศ. 1912 ทั้งคู่ได้ฆ่าตัวตายโดยการทำฮาระคิริ (Harakiri) เพื่อรับผิดชอบในการสวรรคตของจักรพรรดิเมจิ เนื่องจากโดนทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองจึงมีการสร้างศาลเจ้าขึ้นอีกมาอีกครั้งในปี ค.ศ. 1962 และที่ศาลเจ้ายังเป็นที่ตั้งของ Maresuke residence หรือที่พักอาศัยเก่าของนายพล Maresuke อีกด้วย ศาลเจ้าจะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมแค่สองวันต่อปี คือวันก่อนหน้าและวันครบรอบการตายของนายพล อย่างไรก็ตาม ตลาดนัด Nogi-Jinja ที่อยูละแวกนั้นเปิดทุกวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนด้านหน้า ศาลเจ้าโนกิ (Nogi Shrine) ตั้งอยู่ระหว่างเขต รปปงงิ (Roppongi) และ อาซากุสะ (Asakusa) หากใครอยากไปที่นั่นสามารถเดินจากสถานีรถไฟ Roppongi Station (สาย Hibiya Line) ประมาณ 5 นาที หรือเดินจากสถานี Nogizaka Station (สาย Chiyoda Line) ประมาณ 7 นาที

อาคาร 21_21 Design Sight: เมื่อปี ค.ศ. 2007 สถาปนิกนามว่า Tadao Ando แฟชั่นดีไซเนอร์ Issei Miyake และกราฟฟิคดีไซเนอร์ Taku Satoh ได้ร่วมมือกันสร้างพื้นที่แสดงศิลปะที่มีเอกลักษณ์นี้ขึ้นมา ตัวอาคารคืองานศิลปะที่มีหลังคาเป็นลักษณะโค้งและพับลงมา ด้านในของตัวอาคารมีสามแกลลอรี่ที่จัดแสดงการติดตั้งแบบใหม่โดยเน้นไปที่สถาปัตยกรรมและการออกแบบ และนอกจากงานแสดงนิทรรศกาลแล้วที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังมีบรรยายและเวิร์กช็อปอยู่เสมอในธีมของ “ชีวิตประจำวัน” อาคาร 21_21 Design Sight ตั้งอยู่ในสวน Tokyo Midtown Summer Light Garden ที่เดินจากสถานี Roppongi Station (สาย Chiyoda สาย Hibiya และสาย Oedo Lines) หรือจากสถานี Nogizaka Station (สาย Chiyoda Line) ประมาณ 5 นาที อาคารแห่งนี้เปิดทุกวันยกเว้นวันอังคาร เวลา 10.00-19.00

วัดเมียวเซนจิ (Myozenji Temple): หากใครไม่แวะไปที่นี่ล่ะก็จะพลาดวัดสวยๆ ที่จากด้านนอกดูเหมือนอาคารธุรกิจทั่วไป เมื่อผ่านประตูทางเข้าของ วัดเมียวเซนจิ (Myozenji Temple) ไปแล้วนักท่องเที่ยวจะรู้สึกเหมือนอยู่ในโอเอซิสกลางเมือง ในบริเวณวัดจะมีน้ำตกขนาดใหญ่ สะพานลอย และลานที่มีคลาสโยคะทุกวันจันทร์แรกและวันจันทร์ที่สามของเดือน ด้านในตัววัดจะเป็นสถานที่พักผ่อนสำหรับพุทธศาสนิกะชนนิกายนิเรนชู (Nichiren-shu) วัดเมียวเซนจิ แห่งนี้ตั้งอยู่ตรงข้ามใกล้ๆ กับโรงแรม Grand Hyatt Tokyo

แหล่งช้อปปิ้งที่ดีที่สุดในรปปงงิ

ย่าน รปปงงิฮิลส์ (Roppongi Hills): สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2003 เป็นศูนย์การค้าและสถานบันเทิง หนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่สุดของวลีที่ว่า “เมืองในเมือง” ย่านนี้ไม่ได้มีชื่อเสียงแค่ภัตตาคารและร้านค้าหรู แต่ยังมีร้านอาหารชั้นเลิศและวิวที่งดงามและสิ่งน่าสนใจที่ทันสมัยมากมาย ย่าน รปปงงิฮิลส์ (Roppongi Hills) เดินทางได้สะดวกมากเพราะตั้งอยู่ด้านหน้าสถานี Roppongi Station และเชื่อมกับโรงแรม Grand Hyatt Tokyo โดยตรง ร้านค้าเปิดทุกวัน เวลา 11.00-21.00 และร้านอาหารเปิด เวลา 11.00-23.00 น.

ย่าน โตเกียวมิดทาวน์ (Tokyo Midtown): ศูนย์รวมร้านค้าขายปลีก ที่พักอาศัย และตึกเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่แห่งนี้เคยเป็นสำนักงานใหญ่ของกระทรวงกลาโหม ที่นี่นักท่องเที่ยวจะเจอกับร้านขายปลีกมากมายที่ขายทุกอย่างตั้งแต่เสื้อผ้าไปจนถึงเครื่องสำอาง และในย่านนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง ร้านอาหารมากมาย และ สวน Tokyo Midtown Summer Light ร้านค้าที่ โตเกียวมิดทาวน์ (Tokyo Midtown) เปิดทุกวัน เวลา 11.00-21.00 (เวลาเปิดและปิดอาจขึ้นอยู่กับแต่ละร้านด้วย) ศูนย์การค้าแห่งนี้ตั้งอยู่ถัดจากสถานี Roppongi Station เดินไปเพียงแค่ 1 นาทีเท่านั้น

ร้านอาหารชั้นเลิศในย่านรปปงงิ

ร้าน Sukiyabashi Jiro Roppongi: ที่เจ้าของคือซูชิมาสเตอร์ชื่อว่า Takeshi Ono ร้านอาหารแห่งนี้จะเสิร์ฟซาชิมิที่อร่อยที่สุดในโตเกียว ในร้านมีเพียงแค่ 8 ที่นั่งเท่านั้นดังนั้นควรจองไว้ล่วงหน้า ร้าน Sukiyabashi Jiro Roppongi ตั้งอยู่ที่ 6 Chome-12-2

ร้าน Butagumi: ดินเนอร์ที่ร้านอาหารสุดหรู ลิ้มลองเนื้อหมูคัทเลทหมักซอสสูตรพิเศษจากทั่วญี่ปุ่นรวมถึงจากสเปนและฮังการี ร้าน Butagami ตั้งอยู่ที่ 2-24-9 Nishi-Azabu

ร้าน Matsurkuya: มุ่งหน้าไปที่ร้านอาหารแห่งนี้เพื่ออร่อยกับเนื้อวากิวฮิตสึมาบุชิ (เนื้อวัวเกรดเอ 5 เสิร์ฟพร้อมข้าว) เพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะได้ชิมเจ้าเนื้อแสนอร่อยนี้ในแต่ละวันเพราะฉะนั้นต้องรีบไปที่ร้านเร็วๆ ร้าน Matsurkuya ตั้งอยู่ที่ 4 Chome-10-2 ร้าน Barbacoa: ร้านอาหารธีมบราซิลที่โด่งดังแห่งนี้จะเสิร์ฟเชอร์ราสโก (churrasco) เมนูจากอเมริกาใต้สุดพิเศษที่เนื้อย่างบนถ่านหรือฟืน

ร้าน Barbacoa ตั้งอยู่ด้านในย่าน รปปงงิฮิลส์ (Roppongi Hills)

บาร์และแหล่งท่องเที่ยวกลางคืนสุดฮิตในรปปงงิ

บาร์ BrewDog: บาร์บรรยากาศสบายๆ แห่งนี้จำหน่ายพวกเบียคราฟท์กว่า 20 ชนิดพร้อมกับอาหารในร้านเครื่องดื่มทั่วๆ ไปอย่าง แฮมเบอร์เกอร์ ฮอทดอกและชีสแพลตเตอร์ (cheese platters) บาร์ BrewDog ตั้งอยู่ด้านในตึก Saito Building ที่ 5-3-2 Roppongi

ไนท์คลับ Nishiazabu A-Life tokyo: ไนท์คลับขนาดใหญ่แห่งนี้มีเวทีเต้นถึง 3 เวที เวทีแรกจะเล่นเพลงฮิตติดชาร์จ 40 อันดับ เวทีที่สองจะเล่นเพลงแนวฮิปฮอปและเรเกตอน และเวทีสุดท้ายเล่นเพลงแนวเฮาส์และเทคโน ธรรมเนียมค่าเข้าจะครอบคลุมตั๋วเครื่องดื่มฟรีสองใบ คลับตั้งอยู่ที่ 1-7-2 Nishi-Azabu เดินจากสถานี Roppongi Station 7 นาที

บาร์รัม TAFIA บาร์แห่งนี้เป็นบาร์ที่เชี่ยวชาญในรัม มีขวดหายากและมีจำนวนจำกัดเพียบ เจ้าของบาร์แห่งนี้คือ Chie Tato สมาชิกผู้ก่อตั้งสมาคม R.U.M. Japan association บาร์ TAFIA ตั้งอยู่ที่ 2-15-14 Nishi-Azabu

เข้าพักที่โรงแรมหรืออพาร์ตเมนต์ใกล้ รปปงงิ

Sotetsu Fresa Inn Tokyo-Roppongi

Hotel Villa Fontaine Tokyo-Roppongi

Hotel Asia Center of Japan

แล้วออกไปเที่ยว รปปงงิฮิลส์