ค้นพบโรงแรมหรูที่ดีที่สุดในเจดดาห์ สัมผัสประสบการณ์การเข้าพักที่หรูหรา สิ่งอำนวยความสะดวกระดับไฮเอนด์ และบริการที่ไม่มีใครเทียบได้

ค้นพบเจดดาห์ด้วยแผนการเดินทาง 3 วันของเรา! ดื่มด่ำไปกับวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และอาหารของอัญมณีแห่งซาอุดีอาระเบียริมทะเลแดง เหมาะสำหรับการพักผ่อนในช่วงสุดสัปดาห์หรือการเดินทางระยะสั้น

ค้นพบสิ่งที่ดีที่สุดของริยาดด้วยแผนการเดินทาง 5 วันของเรา ตั้งแต่ห้างสรรพสินค้าหรูหราและตลาดโบราณไปจนถึงสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมและอาหารเลิศรส ดื่มด่ำไปกับการผสมผสานที่มีชีวิตชีวาของประเพณีและความทันสมัยในเมืองหลวงของซาอุดีอาระเบีย

เริ่มต้นการเดินทางช้อปปิ้งที่ไม่เหมือนใครในเมดินาพร้อมไกด์ขั้นสุดยอดของเรา! ค้นพบตลาดแบบดั้งเดิม ห้างสรรพสินค้าทันสมัย และอาหารเลิศรส ดำดิ่งสู่วัฒนธรรมอันมั่งคั่งของเมดินา ค้นหางานหัตถกรรมอันประณีต และสำรวจเมืองได้อย่างง่ายดาย เหมาะสำหรับผู้แสวงบุญและนักท่องเที่ยว

สำรวจ Eid al-Fitr 2024 ในซาอุดีอาระเบียด้วยคู่มือท่องเที่ยวของเรา ค้นพบสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการเฉลิมฉลอง ประเพณีดั้งเดิม และเคล็ดลับสำหรับประสบการณ์ Eid ที่น่าจดจำ

สำรวจริยาดใน 5 วัน: ค้นพบการผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์และความทันสมัยในใจกลางซาอุดีอาระเบีย

เริ่มต้นการเดินทางจิตวิญญาณ 7 วันผ่านเมดินา สำรวจประวัติศาสตร์อิสลามอันลึกซึ้ง เยี่ยมชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และดื่มด่ำกับประเพณีการทำอาหารอันยาวนานของซาอุดีอาระเบีย

สำรวจใจกลางทางจิตวิญญาณของศาสนาอิสลามด้วยแผนการเดินทาง 7 วันในเมกกะของเรา: การเดินทางทางจิตวิญญาณ ค้นพบสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ สถานที่สำคัญทางวัฒนธรรม และอัญมณีที่ซ่อนอยู่ของเมกกะ

ค้นพบความร่ำรวยทางจิตวิญญาณและประวัติศาสตร์ของมัสยิดอัล-นะบะวีในเมดินา สำรวจความมหัศจรรย์ทางสถาปัตยกรรม ความสำคัญทางวัฒนธรรม และที่พักในบริเวณใกล้เคียง

มัสยิดใหญ่แห่งเมกกะ (มัสยิดอัลฮะรอม) ที่อยู่ : อัลฮาราม เมกกะ 24231 ซาอุดีอาระเบีย มัสยิดอัลฮะรอมตั้งอยู่ในใจกลางเมกกะ เป็นมัสยิดที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในศาสนาอิสลาม มัสยิดแห่งนี้เป็นที่รู้จักในฐานะที่อยู่อาศัยของกะอ์บะฮ์ เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงมรดกทางศาสนาและวัฒนธรรมอันลึกซึ้งของเมืองเมกกะ ประสบการณ์ในการประกอบเตาวาฟ ซึ่งผู้แสวงบุญหลายล้านคนเดินไปรอบๆ กะอ์บะฮ์ในทิศทางทวนเข็มนาฬิกา ถือเป็นประสบการณ์ที่ทั้งสร้างแรงบันดาลใจและยกระดับจิตวิญญาณ ลานกว้างใหญ่ของมัสยิดซึ่งมีพื้นหินอ่อนที่ตกแต่งอย่างประณีตและหออะซานสูงตระหง่าน เชิญชวนผู้มาเยือนให้เดินทางข้ามกาลเวลา ตามรอยเท้าของผู้แสวงบุญจำนวนนับไม่ถ้วนที่ได้เยี่ยมชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มานานหลายศตวรรษ นอกเหนือจากความสำคัญทางศาสนาแล้ว มัสยิดอัลฮะรอมยังเป็นผลงานชิ้นเอกของสถาปัตยกรรมอิสลามอีกด้วย การประดิษฐ์ตัวอักษรอันประณีต โดมอันวิจิตร และห้องโถงอันกว้างขวาง สื่อถึงการเดินทางทางศิลปะและประวัติศาสตร์ของอารยธรรมอิสลาม มัสยิดมีสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบและมีสมาธิ ท่ามกลางเมืองเมกกะที่พลุกพล่าน เมืองนี้ตั้งตระหง่านเป็นสัญญาณแห่งสันติภาพและจิตวิญญาณ นักท่องเที่ยวที่กำลังมองหาที่พักสะดวกสบายในบริเวณใกล้เคียง อโกด้าเสนอตัวเลือกโรงแรมมากมายใกล้ มัสยิดอัลฮะรอม รับประกันการเข้าพักที่สะดวกสบายและสะท้อนแสงในเมกกะ ค้นหาที่พักใกล้มัสยิดอัลฮะรอม. หินดำและบริบททางประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่มุมตะวันออกของกะอบะห หินสีดำที่ฝังอยู่ที่มุมตะวันออกของกะอ์บะฮ์เป็นวัตถุที่แสดงความเคารพอย่างลึกซึ้งและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในศาสนาอิสลาม เชื่อกันว่ามีอายุย้อนกลับไปถึงสมัยของอาดัมและเอวา ถือเป็นวัตถุท้องฟ้าที่อัลลอฮ์ทรงส่งมา ผู้แสวงบุญและผู้มาเยือนกะอ์บะฮ์มักจะพยายามสัมผัสหรือจูบหิน โดยเลียนแบบการกระทำของศาสดามูฮัมหมัด แต่แม้แต่ท่าทางไปทางหินจากระยะไกลก็ถือว่ามีบุญคุณเท่าเทียมกัน สีเข้มของหินตัดกันกับผ้าคิสวาห์ปักสีทองซึ่งปกคลุมกะอ์บะฮ์ ช่วยเพิ่มเสน่ห์อันลึกลับ ความสำคัญของหินดำมีมากกว่าความหมายทางศาสนา มันเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคีและภราดรภาพของชาวมุสลิมทั่วโลก เมื่อพวกเขารวมตัวกันจากทั่วทุกมุมโลก โดยก้าวข้ามอุปสรรคทางภูมิศาสตร์ วัฒนธรรม และภาษา พื้นที่รอบๆ กะอ์บะฮ์ รวมถึงหินดำ สะท้อนถึงความรู้สึกของการมีประวัติศาสตร์และชุมชนร่วมกัน เป็นสถานที่ที่สัมผัสได้ถึงแก่นแท้ของประเพณีอิสลามและมรดกทางวัฒนธรรมในทุกมุม ทำให้เป็นสถานที่ที่ใครก็ตามที่สำรวจสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของเมกกะต้องแวะเยี่ยมชม การเดินทางสู่กะอบะห: ศูนย์กลางแห่งความศรัทธาอิสลาม ที่อยู่ : มัสยิดอัลฮะรอม เมกกะ 24231 ซาอุดีอาระเบีย กะอ์บะฮ์ซึ่งเป็นโครงสร้างทรงลูกบาศก์ที่อยู่ใจกลางมัสยิดหลวง เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในศาสนาอิสลามและเป็นสัญญาณสำหรับผู้ศรัทธาหลายล้านคน ผ้าไหมสีดำที่เรียกว่า กิสวาห์ ประดับด้วยโองการอัลกุรอานด้วยทองคำ ห่อหุ้มกะอบะห เพิ่มความสง่างามและความเคารพ การแสดงเตาวาฟรอบๆ กะอ์บะฮ์เป็นพิธีกรรมและเป็นประสบการณ์ทางจิตวิญญาณอันลึกซึ้ง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคีและความเท่าเทียมกันของชาวมุสลิมภายใต้สายพระเนตรของอัลลอฮ์ ประสบการณ์การเยี่ยมชมกะอ์บะฮ์ โดยเฉพาะในช่วงฮัจย์นั้นไม่มีใครเทียบได้ การได้เห็นผู้ศรัทธาจากภูมิหลังที่หลากหลายมารวมตัวกันในการสักการะอย่างสันติเป็นเครื่องเตือนใจอันทรงพลังถึงข้อความสากลของศาสนาอิสลาม ความสามารถของมัสยิดหลวงในการรองรับผู้ละหมาดหลายแสนคนพร้อมกันนั้นเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทั้งในด้านจิตวิญญาณและสถาปัตยกรรม สำหรับผู้ที่ต้องการพักใกล้กับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ อโกด้าเสนอโรงแรมหลากหลายที่ตอบสนองความต้องการและงบประมาณ เพื่อให้มั่นใจว่าการเดินทางทางจิตวิญญาณของคุณในเมกกะจะสะดวกสบายและเต็มอิ่ม จองการเข้าพักของคุณใกล้กับกะอบะห เศาะฟาถึงมาร์วา: ย้อนรอยพิธีกรรมทางประวัติศาสตร์ ที่อยู่ : มัสยิดอัลฮะรอม เมกกะ 24231 ซาอุดีอาระเบีย Safa to Marwa ถือเป็นสถานที่พิเศษในใจของชาวมุสลิมทั่วโลก ซึ่งเป็นที่รู้จักว่าเป็นส่วนสำคัญของพิธีฮัจญ์และอุมเราะห์ พิธีกรรมนี้ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการค้นหาน้ำโดยฮาการ์ มารดาของศาสดาอิสมาอิล มีประวัติศาสตร์และประเพณีอิสลามอย่างแพร่หลาย พิธีกรรมของ Sai ซึ่งเดินเจ็ดครั้งระหว่างเนินเขา Safa และ Marwa เป็นการเดินทางทั้งทางร่างกายและจิตวิญญาณ ทำให้เกิดความรู้สึกลึกซึ้งของการอุทิศตนและความอดทน ขณะที่ผู้มาเยือนเดินทางข้ามระยะห่างระหว่างจุดทั้งสองนี้ พวกเขาจะได้รับการเตือนถึงความอุตสาหะและความศรัทธาของฮาการ์ ทำให้สิ่งนี้เป็นมากกว่าแค่การออกกำลังกาย เป็นพิธีกรรมที่เชื่อมโยงพวกเขาเข้ากับช่วงเวลาสำคัญในมรดกอิสลาม เส้นทางระหว่างเมืองซาฟาและมาร์วาขณะนี้ปิดอยู่ภายในมัสยิดอัลฮะรอม ทำให้ผู้มาเยือนมีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและสะดวกสบายในการประกอบพิธีกรรมที่สำคัญนี้ Safa to Marwa เป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานอิสลามที่สำคัญที่สุดในเมกกะ นำเสนอการผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์ ความศรัทธา และวัฒนธรรมอย่างมีเอกลักษณ์ เป็นสถานที่ที่เรื่องราวจากอัลกุรอานมีชีวิตขึ้นมา มอบประสบการณ์อันลึกซึ้งแก่ผู้ศรัทธา การค้นพบบ่อน้ำซัมซัม: แหล่งแห่งพระพร ที่อยู่ : มัสยิดอัลฮะรอม เมกกะ 24231 ซาอุดีอาระเบีย บ่อน้ำซัมซัมซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณมัสยิดอัลฮะรอม เป็นมากกว่าบ่อน้ำ มันเป็นสัญลักษณ์ของความเมตตาและการยังชีพของพระเจ้า ซึ่งเชื่อกันว่าได้พุ่งออกมาเพื่อดับความกระหายของศาสดาอิสมาอิลและแม่ของเขา ฮาการ์ เรื่องราวของซัมซัมเป็นหนึ่งในความหวัง ความศรัทธา และการแทรกแซงจากสวรรค์ ซึ่งฝังลึกอยู่ในตำนานอิสลาม น้ำในบ่อนี้ถือเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ และผู้แสวงบุญมักจะเก็บน้ำเพื่อนำกลับบ้าน ซึ่งเป็นของที่ระลึกของการเดินทางทางจิตวิญญาณของพวกเขา.. ปัจจุบัน บ่อน้ำซัมซัมยังคงดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายล้านคนในแต่ละปี ซึ่งเชื่อกันว่ามีสรรพคุณในการรักษาโรค พิพิธภัณฑ์เมกกะ: ประตูสู่ประวัติศาสตร์อิสลาม ที่อยู่ : Makkah Al Madinah...

เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญในการนำทางผ่านสนามบินนานาชาติ King Abdulaziz ของเจดดาห์ ค้นพบห้องรับรอง เคล็ดลับการขนส่งสาธารณะ และข้อมูลเชิงลึกในการหยุดพักระหว่างทาง

เริ่มต้นการเดินทางอันน่าหลงใหลผ่านริยาด เมืองที่มรดกโบราณมาบรรจบกับสิ่งมหัศจรรย์สมัยใหม่ เจาะลึกความมหัศจรรย์ทางสถาปัตยกรรมของมหานครที่มีชีวิตชีวาแห่งนี้ ค้นพบประวัติศาสตร์อันยาวนานและความสง่างามร่วมสมัยที่กำหนดเมืองหลวงของซาอุดีอาระเบีย

ท่องเที่ยวที่ประเทศซาอุดิอาระเบียจะน่าตื่นเต้นกว่าที่เคยเพราะกว่า 49 ประเทศสามารถออกวีซ่านักท่องเที่ยวไปซาอุดิอาระเบียได้แล้ว ตอนนี้นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวในซาอุดิอาระเบียได้ถึง 90 วันต่อครั้งแต่ถึงแม้จะไปไม่ถึง 90 วันก็เพียงพอที่เราจะได้สำรวจวัฒนธรรมที่รุ่งเรือง ภูมิประเทศที่หลากหลายและสถานที่ท่องเที่ยวที่ยอดเยี่ยม ในขณะที่ทุกคนกำลังตื่นเต้นกับการเดินทางไปเที่ยวที่ตะวันออกกลางแต่สิ่งที่ได้เห็นอาจจะแตกต่างไปจากทางประเทศในยุโรป เอเชียและอเมริกันอยู่บ้าง แต่อย่าลืมว่าการเปิดรับประเพณีและวัฒนธรรมของซาอุเป็นส่วนหนึ่งของการผจญภัยครั้งนี้ เที่ยวประเทศซาอุดิอาระเบีย | วีซ่านักท่องเที่ยว วีซ่านักท่องเที่ยวหรือ e-Visa ไปยังประเทศซาอุดิอาระเบียมีให้บริการแก่ประชาชนแล้วกว่า 49 ประเทศทั่วโลก นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบคุณสมบัติและสมัครวีซ่าออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ visa.visitsaudi วีซ่านักท่องเที่ยวใหม่อนุญาตให้เข้าเยี่ยมชมได้หลายครั้งต่อหนึ่งปีและอนุญาตให้นักท่องเที่ยวใช้เวลาสูงสุด 90 วันต่อครั้งในประเทศซาอุ นักท่องเที่ยวทุกคนต้องถือหนังสือเดินทางที่วันหมดอายุห่างออกไปอย่างน้อยหกเดือน เที่ยวประเทศซาอุดิอาระเบีย | ประกันการเดินทาง เราควรซื้อประกันการเดินทางด้วยหากจะเดินทางไปที่ประเทศซาอุดิอาระเบียเพราะราคาการดูแลสุขภาพของชาวต่างชาติมีค่าใช้จ่ายสูง บางสายการบินเสนอประกันสุขภาพราคาประหยัดบางประเภทสำหรับกรณีฉุกเฉินด้านการดูแลสุขภาพและบริษัทท่องเที่ยวหลายแห่งก็มีข้อเสนอที่น่าเชื่อถือและราคาไม่แพงจากบริษัทประกันการเดินทางหลายที่ เราสามารถตรวจสอบออนไลน์เพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับประกันการเดินทางเพิ่มเติมได้ เที่ยวประเทศซาอุดิอาระเบีย | ภาษา ชาวซาอุดิอาระเบียสื่อสารโดยภาษาอาหรับซึ่งเป็นภาษาประจำชาติ สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนที่สื่อสารภาษาอาหรับไม่ได้ก็ไม่ต้องกังวลไปเพราะชาวซาอุดิจำนวนมากสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้หรืออย่างน้อยก็พอสื่อสารกันเข้าใจได้ ป้ายจราจรส่วนใหญ่เขียนเป็นทั้งภาษาอาหรับและภาษาอังกฤษนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้แน่นอน สำหรับนักท่องเที่ยวที่สื่อสารภาษาอังกฤษเท่านั้นก็สามารถไปเที่ยวที่ซาอุได้แต่ถ้าหากรู้คำศัพท์ไปบ้างบางคำหรือวลีที่สำคัญก็จะได้ใจคนท้องถิ่นมาไม่น้อยเลยทีเดียว คำศัพท์และวลีภาษาอาหรับน่ารู้ สวัสดีและลาก่อน พูดว่า "เอาซาลามัว อาเลคม" (assalamu alaykom) ใช่ พูดว่า "นาม" (na am) ไม่ พูดว่า "ลา" หรือ "คัลลา" (la or kalla) ฉันต้องการรถแท็กซี่ พูดว่า "อูรีด สัยยารอต อัจรอฮ์" (ureed sayaratt ujra) ฉันอยากจะไปที่... พูดว่า [location] - "อูรีด อัน อัซฮาบา อีลา" (ureed an azhab ila) [location] ขอบคุณ พูดว่า "ชุกราน" (shukran) ขอบคุณมาก พูดว่า "ชุกราน จาซีลัน" (shukran jazeelan) ยินดีต้อนหรับหรือด้วยความยินดี พูดว่า "อะฮ์แลน วา ซาฮ์แลน" หรือ "ฮายยาก" (ahlan wa sahlan หรือ hayak) ถ่ายรูปได้ไหม ถามว่า "มุมกิน อะเซาว์วะร์" (momken asawwar) ขอโทษนะครับ/คะ (แบบ Excuse me) พูดว่า "อัฟวาน" (afwan) เที่ยวประเทศซาอุดิอาระเบีย | การแต่งกาย การแต่งกายในซาอุดิอาระเบียอาจจะเข้มงวดเกินไปนิดสำหรับนักท่องเที่ยวจากต่างแดนที่สามารถสวมใส่อะไรก็ได้ในประเทศของตัวเอง แต่เราควรนึกไว้เสมอว่าการแต่งกายที่ต่างไปจากเสื้อผ้าที่เราสวมใส่ปกติแค่ไม่กี่วันถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการผจญภัยในซาอุดิอาระเบีย จริงๆ แล้วกฎหมายเกี่ยวกับเครื่องแต่งกายมีความยืดหยุ่นมากกว่าหลายๆ ปีที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้กฎหมายบังคับให้ผู้หญิงสวมใส่อาบาย่า (ชุดกระโปรงหรือเสื้อคลุมยาวเต็มตัว) ในพื้นที่สาธารณะ แต่ ณ ปัจจุบันได้มีการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับเครื่องแต่งกายของผู้หญิงว่าอนุญาตให้ผู้หญิงรวมไปถึงหญิงต่างชาติให้มีอิสระในการแต่งกายมากขึ้นโดยยังบังคับให้ "แต่งตัวสุภาพ" หมายถึงต้องแต่งกายให้คลุมหัวไหล่ แขน และขาแต่สามารถทำในรูปแบบที่ทันสมัยมากขึ้นได้ ผู้หญิงซาอุดิอาระเบียบางส่วนยังสวมอาบาย่าและคลุมผมด้วยฮิญาบหรือผ้าคลุมหัวแต่บางส่วนก็ใช้ประโยชน์จากกฎหมายใหม่ด้วยการสวมอาบาย่าหลากหลายสีสันและเสื้อผ้าที่สบายมากยิ่งขึ้นในที่สาธารณะ หากคุณผู้หญิงท่านไหนจะไปเที่ยวที่ซาอุล่ะก็ควรปฏิบัติตามกฎการแต่งกายเหล่านี้เช่นกัน ถึงแม้ว่ามันจะรู้สึกแปลก ๆ ในตอนแรกแต่เราจะไม่ตกเป็นเป้าสายตาเหมือนคนที่ไม่ใส่เมื่อออกไปเยี่ยมชมเมืองในซาอุ ผู้หญิงต่างชาติควรสวมเสื้อผ้าหลวม ๆ ที่คลุมไหล่และเข่า ห้ามใส่กางเกงยีนส์รัดรูปหรือเสื้อยืดที่เน้นส่วนโค้งส่วนเว้าและกางเกงขาสั้นหรือกระโปรงสั้นเหนือเข่า ผู้หญิงอย่างเราควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อดีของการแต่งกายเหมือนคนในท้องถิ่นของซาอุคือเสื้อแขนยาวจะช่วยปกป้องเราจากแสงแดดและช่วยซับเหงื่อ และลมอ่อนๆ จากทะเลทรายจะช่วยระบายอากาศผ่านกระโปรงบาง ๆ ของเราได้ สำหรับผู้ชายการแต่งกายค่อนข้างจะยืดหยุ่นกว่าผู้หญิง ผู้ชายในซาอุส่วนมากจะสวมชุดคลุมยาวสีขาวเรียกว่า โต๊ป...

จากการเฉลิมฉลองเกี่ยวกับงานศิลปะไปจนถึงศาสตร์แห่งนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ เจดดาห์ เป็นเมืองที่จัดงานเทศกาลทางวัฒนธรรมตลอดทั้งปี ดังนั้นการเลือกช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวเจดดาห์จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ถ้าแผนการเดินทางของเราค่อนข้างยืดหยุ่นก็สามารถปรับให้ตรงกับช่วงเทศกาลหรือวางแผนเที่ยวให้ช่วงที่เย็นที่สุดของปีได้ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวเจดดาห์ | อากาศประจำปี เดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนมีนาคมคือช่วงที่เย็นที่สุดในเจดดาห์ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ชื่นชอบอากาศในช่วงนี้มาก อุณหภูมิเโดยฉลี่ยอยู่ที่ 18-29 องศาเซลเซียส ในช่วงหน้าหนาวนี้อากาศจะค่อนข้างแห้ง อาจมีบางวันที่ครึ้มฟ้าครึ้มฝนบ้างและอาจมีพายุลมแรงในช่วงนี้ของปีด้วย ในช่วงหน้าร้อนอุณภูมิจะพุ่งสูงถึง 41 องศาเซลเซียส ลมที่พัดมาพร้อมความชื้นในอากาศทำให้รู้สึกเหนียวไปทั้งตัวคล้ายกับอากาศร้อนในบ้านเรา ดังนั้นหากต้องการเที่ยวในช่วงหน้าร้อนนี้ จากคำแนะนำของคนท้องถิ่นควรใส่ผ้าคลุมหัวและเสื้อคลุมที่ค่อนข้างบางเพื่อรับมือกับความร้อนจากทะเลทรายในแถบตะวันออกกลาง เข้าพักที่ Waldorf Astoria Jeddah - Qasr Al Sharq แล้วออกไปเที่ยว Naseef House ค้นหาที่พักราคาดีที่สุด โรงแรมและอะพาร์ทเม้นต์ใกล้เจดดาห์ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวเจดดาห์ | ข้อควรรู้ทางวัฒนธรรมเพื่อความปลอดภัยในการท่องเที่ยวซาอุดิอาระเบีย ถึงรัฐบาลซาอุดิอาระเบียจะมีการดำเนินการในการกระตุ้นการท่องเที่ยวใน เจดดาห์ และเปิดรับนักท่องเที่ยวมากขึ้นแล้วแต่นักท่องเที่ยวก็ควรมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายของซาอุดิอาระเบียและวัฒนธรรมคนอิสลามก่อนเดินทาง เที่ยวอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวเท่านั้น อย่าเดินไปในย่านที่อยู่อาศัยของคนในพื้นที่ด้วยตัวคนเดียว งดเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์และการใช้ยาต่างๆ ถ้ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียก ให้พูดคุยกันดีๆอย่างให้เกียรติอย่าเถียงหรือตะโกนใส่ ผู้หญิงควรสวมเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่เรียบร้อยมิดชิดทุกครั้งที่ออกไปในที่สาธารณะ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวเจดดาห์ | อีเวนท์และเทศกาลต่างๆ เจดดาห์ มีชื่อในเรื่องของการจัดกิจกรรมริมทะเลและงานแสดงอาหารมากมาย สามารถเข้าร่วมงานเทศกาลกว่าพันงานของซาอุดิอาระเบียได้ในช่วงเดือนมิถุนายมและกรกฎาคมหรือรอช่วงเดือนพฤศจิกายนที่จะมีการจัดงานแสดงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เจ๋งที่สุดในโลก แต่ไม่ว่าจะเดินทางในช่วงฤดูร้อนหรือฤดูหนาว ช่วงที่ดีที่สุดในการเที่ยวเจดดาห์ก็คือช่วงเทศกาลนี่เอง Beautyworld Saudi Arabia จัดขึ้นในเดือนตุลาดม Beautyworld Saudi Arabia เป็นงานเกี่ยวกับความสวยความงาม และการดูแลตัวเอง งานอีเว้นท์ประจำปีนี้จัดขึ้นที่ Jeddah Centre for Forum and Events รวบรวมผู้เชี่ยวชาญด้านความงามมากมายมาแบ่งปันประสบการณ์การแต่งหน้า การบำรุงผิว การดูแลสุขภาพ และอุตสาหกรรมน้ำหอม ผู้เข้าขมงานสามารถทดลองผลิตภัณฑ์ที่กำลังจะวางขายหรือเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องสำอางและครีมต่างๆที่เป็นที่นิยม โดยมีแบรนด์ดังระดับโลกหลายแบรนด์มาร่วมงานนี้ด้วย Jeddah International Trade Fair (JITF) ในเดือนพฤศจิกายน จัดขึ้นทั้งหมดสี่วันที่ Jeddah Centre for Forums and Events ในเดือนพฤศจิกายน งาน Jeddah International Trade Fair นี้ รวบรวมนักประดิษฐ์ที่สร้างสรรค์ผลงานทางเทคโนโลยีที่สามารถส่งออกค้าขายไปได้ทั่วโลก ภายในงานผู้เข้าชมจะพบกับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ เครื่องจักร อุปกรณ์ตกแต่ง ของขวัญ และแกดเจ็ต อุปกรณ์เสริมล้ำๆ Saudi Arabia Festival ในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม เทศกาลประจำปี Jeddah Festival หรือ Saudi Arabia Festival ในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม เทศกาลนี้เป็นเทศกาลที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่มีบรรยากาศสนุกสนาน ในงาน Jeddah Festival มีทั้งกิจกรรมความบันเทิงในแบบฉบับคนเจดดาห์ อาหารซาอุดิอาระเบียแท้ๆ และซื้อของฝากจากร้านค้า งานนี้เป็นงานกลางแจ้ง จัดบนถนน Corniche Road รวบรวมร้านท้องถิ่นมากกว่า 200 ร้าน สามารถเดินเที่ยวงานได้ทั้งวันและปิดท้ายวันด้วยการชมดอกไม้ไฟตอนพระอาทิตย์ตกเย็น Eid Al-Fitr | วัดสุดท้ายของรอมะฎอน ชาวมุสลิมทั่วโลกเฉลิมฉลอง อีดิลฟิฏรี (Eid Al Fitr) เป็นวันเฉลิมฉลองการออกศีลอดและเป็นงานอีเว้นท์ที่มีอาหารอิสลามมากมาย อีดิลฟิฏรี แปลว่า "สิ้นสุดการอดอาหาร" มีการบริจาคทานให้แก่ผู้ยากจนให้ทุกคนได้ทานอาหารที่ดีมีช่วงเวลาดีๆร่วมกันและการแลกเปลี่ยนของขวัญกันในหมู่ญาติมิตรและเพื่อสนิท หากมีโอกาสได้เข้าร่วมเทศกาลนี้ แนะนำให้ลองเรียนรู้เกี่ยวกับความเชื่อของคนอิสลามและความซับซ้อนในรสชาติอาหารซาอุดิอาระเบีย อีดิลฟิฏรี จัดขึ้นในช่วงต้นเดือนมิถุนายนเมื่อเดือนรอมะฎอนสิ้นสุดลง Jeddah Shopping...

ไม่ว่าจะมองหาประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบดีที่สุดหรือแบบจำกัดงบประมาณ ใน เมืองเจดดาห์ ก็มีที่พักให้เลือกมากมาย เพราะฉะนั้นมั่นใจได้เลยว่าจะพบสิ่งที่เหมาะสมกับงบประมาณที่ตั้งไว้ เมื่อมองหาโรงแรมใน เจดดาห์ อีกสิ่งที่ควรคำนึงถึงคือเรื่องของสถานที่ตั้งโรงแรม หากกำลังวางแผนที่จะเที่ยวแบบเร่งรีบควรพิจารณาเลือกโรงแรมใกล้ สนามบินนานาชาติ King Abdulaziz แต่หากหากต้องการดื่มด่ำกับประสบการณ์ใน เจดดาห์ แบบสุดๆควรลองดูที่พักใน ย่านบาลาด ซึ่งมีสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่งดงาม ตลาดช็อปปิ้งใหญ่ๆ และตัวเลือกอาหารที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมาย หรือ หากกำลังมองหาการเที่ยวแบบเยี่ยมชมวิวที่ไร้ที่ติ และใกล้เคียงบริเวณชายหาด เราควรเลือกที่พักหรือรีสอร์ทใกล้ Jeddah Corniche ที่พักราคาถูกใกล้สนามบินนานาชาติ Abdulaziz หากแค่มาแวะเปลี่ยนเครื่องหรือมองหาที่พักใกล้ สนามบินนานาชาติ King Abdulaziz สามารถหาที่พักใน เจดดาห์ ได้มากมายในราคาที่เป็นกันเอง เนื่องจาก เจดดาห์ เป็นเมืองเล็กที่ใช้เวลาขับรถไม่นานก็ถึง สนามบินนานาชาติ King Abdulaziz สะดวกต่อนักเดินทางอย่างมากเพราะด้วยบริการหลากหลายที่ทางสนามบินเปิดให้บริการเช่น รถเช่าและบริการรถแท็กซี่ Al Basmah Coral Resort หากเราเดินทางกับครอบครัวและกำลังมองหาโรงแรมที่เป็นห้องสวีทที่สามารถรองรับทั้งครอบครัว Al Basmah Coral Resort เป็นหนึ่งที่ที่เหมาะสมที่สุด! เนื่องจากมีห้องที่มีห้องครัวในตัว เราสามารถลดค่าใช้จ่ายเรื่องอาหารด้วยการเตรียมอาหารทานเองในห้อง ใช้บริการ WiFi ฟรีในห้องพักและยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายอีกเช่น ฟิตเนส, สวนหย่อม, สปา, ซาวน่าและสระว่ายน้ำ มีหลายสิ่งที่ครอบครัวสามารถทำได้ที่ Al Basmah Coral Resort Al Basmah Coral Resort ยังมีบริการอาหารค่ำ สำหรับลูกค้าที่ต้องการค่ำคืนพิเศษ ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายและใกล้สนามบิน Al Basmah Coral Resort เป็นหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ หากเดินทางมายัง เจดดาห์อีกครั้ง สิ่งที่น่าทำในเมืองเจดดาหใกล้ Al Basmah Coral Resort ห้าง Roshan อ่าว Obhor ห้าง Red Sea Garden Palace Hotel หากกำลังมองหาที่พักในราคาย่อมเยาใกล้สนามบินและสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามต่างๆของ เมืองเจดดาห์ Garden Palace Hotel เป็นหนึ่งทางเลือกที่ดี โรงแรมระดับ 3 ดาวแห่งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกทันสมัยมากมายรวมทั้ง WiFi ฟรีในห้องพักและในพื้นที่สาธารณะ ฟิตเนสออกกำลังกาย ร้านอาหารในโรงแรม เครื่องปรับอากาศและอื่นๆอีกมากมาย Garden Palace Hotel ยังมีตู้เอทีเอ็มและบริการแลกเปลี่ยนเงิน ดังนั้นไม่ว่าเราจะอยู่ใน เจดดาห์ เพื่อธุรกิจหรือพักผ่อนก็ตาม Garden Palace Hotel มีทุกสิ่งที่เราต้องการเพื่อทริปนี้สนุกยิ่งขึ้น สิ่งที่น่าทำใกล้เจดดาห์ใกล้ Garden Palace Hotel ห้าง Red Sea สวนสนุก Atallah Happy Land Park ห้าง Roshan ที่พักราคาถูกในบาลาด เมืองเจดดาห์ ย่าน บาลาด ในเมืองเจดดาห์ หรือที่เรียกกันว่า อัล บาลาดเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่สุดของเมืองและเป็นพื้นที่ที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวชมและพักอาศัย ย่าน บาลาด ตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 7 และเป็นพื้นที่เจริญรุ่งเรืองของ เจดดาห์ ตั้งแต่นั้นมา สถานที่สวยงามแห่งนี้เป็นที่ตั้งของมัสยิด...

ช็อปปิ้งในซาอุดิอาระเบียเป็นการใช้เวลายามว่างที่คนท้องถิ่นชอบมาก เพราะคนซาอุชอบช็อปปิ้งและในห้างมีแอร์ ริยาด(Riyadh) และ เจดดาห์(Jeddah) เป็นเมืองที่เหมาะแก่การช็อปปิ้งที่สุดในซาอุดิอาระเบีย สองเมืองนี้มีทั้งห้างสรรพสินค้าหรูหรา แหล่งช็อปปิ้งในราคาเอื้อมถึง และตลาดท้องถิ่นที่สามารถแวะซื้อของที่ระลึกได้ แหล่งช็อปปิ้งที่ดีที่สุดในซาอุดิอาระเบีย เมืองริยาด(Riyadh) ห้างสรรพสินค้าเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับครอบครัวของคนซาอุ เพราะได้หลบเลี่ยงลมร้อนในช่วงบ่ายและห้างหลายแห่งจะมีพื้นที่สนามเด็กเล่น กิจกรรมสนุกๆสำหรับเด็ก โซนเล่นเกม และศูนย์อาหาร เมืองหลวง ริยาด(Riyadh) มีห้างสรรพสินค้าที่ทันสมัยในซาอุดิ อาระเบีย และนักท่องเที่ยวจะละลานตาไปด้วยสินค้าระดับ high-end แฟชั่นหลากหลายและร้านอาหารที่เยอะจนเลือกไม่ถูก ห้างหรูในเมืองริยาด(Riyadh) Centria Mall บน Olaya Street ศูนย์การค้าสุดอลังการที่มีร้านหรูหราอย่าง Louis Vuitton Kingdom Centre (Center Point) บน King Abdullah Road รวบรวมร้าน High-end โรงหนังและวิวด้านบนของตึกที่สูงเป็นอันดับสามของโลก Al Faisaliah Mall บน Olaya Street หรือรู้จักกันในชื่อ Star Dome ด้าบบนสุดของตึกมี The Globe Lounge ร้านอาหารที่โรแมนติกที่สุด ห้างสำหรับครอบครัวในเมืองริยาด(Riyadh) Al Nakheel Mall อยู่ตรง ทางออกที่ 9 ของถนน Al Iman Saud Ibn Abdul Aziz Branch มีโรงหนัง ศูนย์อาหารและ สวนสนุกSparky's สวนริยาด(Riyadh Park) อยู่ ถนน Northern Ring Branch Road มีโรงหนัง อาร์เคดเกม Magic Planet และร้านอาหารนานาชาติอย่าง PF Chang's และ Cheese Cake Factory Granada Mall อยู่ ทางออกที่ 9 เขต Ash Shuhada District ถนน Eastern Ring Branch Road ภายในมีร้านค้ามากกว่า 200 ร้าน ศูนย์อาหารและสนามเด็กเล่นในร่ม เคล็ดลับการเดินทาง หากต้องการหลีกเลี่ยงฝูงชนควรไปช่วงวันธรรมดาและวันอาทิตย์ช่วงเช้า เพราะวันศุกร์และวันเสาร์เป็นวันครอบครัวสำหรับคนซาอุหลายครอบครัว ตลาดในเมืองริยาด(Riyadh) ตลาด Bisht (Al Owais) Souq, Ad Dirah Riyadh Seasonal Dates Market, 7402 Ibn Abi Al Makarim, 2692 Souq Al Zel, Shaikh Muhammad Ibn Ibrahim Street, Ad Dirah Souq Makkah, Al-Shemaysi เข้าพักที่ Centro Waha by...

เจดดาห์ เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีประเพณีที่สืบเนื่องกันมาพันๆปี แต่ยังเฉลิมฉลองวัฒนธรรมป๊อปที่ทันสมัย ซึ่งเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวและเปิดประสบการณ์ความสนุกสนานให้กับนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนในช่วงหน้าร้อน Jeddah Summer Festival มีความสนุกสนานหลากหลายรูปแบบเช่น เกม เครื่องเล่นทางน้ำ โอกาสในการช้อปปิ้งสินค้าลดราคา การแสดงดอกไม้ไฟยามค่ำคืน ขับรถ ATV ผ่านเนินทะเลทรายและโอกาสที่จะดื่มด่ำกับอาหารริมถนนสไตล์อาหรับแสนอร่อย เทศกาลอื่นๆในเจดดาห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเปิดประสบการณ์กับวัฒนธรรมซาอุดิอาราเบียที่แท้จริง ไม่ว่าจะเดินทางไปยังเจดดาห์เพื่อทำธุรกิจ แสวงบุญไปที่ มักกะห์ (เมกกะ) หรือเพื่อความสนุก อย่าลืมที่จะวางแผนการเดินทางสำหรับเทศกาลเจดดาห์! เทศกาลเจดดาห์ | ทุกเรื่องเกี่ยวกับฤดูกาลเจดดาห์ & Jeddah Summer Festival ฤดูกาลเจดดาห์ เป็นส่วนหนึ่งของ ฤดูกาลซาอุดี (Saudi Seasons) เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน ถึง 18 กรกฎาคม จัดขึ้นเพื่อที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยงให้มาสนุกสนานกันในซาอุดีอาระเบีย Jeddah Summer Festival จัดขึ้นเป็นปีที่ 20 จะเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่ รอมฎอน สิ้นสุดลง โดยจะให้ประสบการณ์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละวัน ตั้งแต่ดำน้ำดูปะการัง ขับรถ ATVเล่นผ่านเนินทะเลทราย นักท่องเที่ยวควรเตรียมตัวสำหรับการผจญภัยที่ท้าทายใน ฤดูกาลเจดดาห์ และ Jeddah Summer Festival มีงานที่จัดขึ้นมากกว่า 80 งาน ซึ่งเราสามารถค้นพบงานที่ไม่เป็นทางการที่มีอาหารอร่อยๆหลากหลายประเภทตามถนน เจดดาห์ เทศกาลเจดดาห์ | 11 สิ่งที่พลาดไม่ได้ในฤดูกาลเจดดาห์ คอนเสิร์ต Backstreet Boys - 27 มิถุนายน พาเหรดปั่นจักรยาน (Bicycle Parade) - 24 มิถุนายน ถึง 12 กรกฎาคม Experience the Wheelchair - 21 มิถุนายน ถึง 5 กรกฎาคม เปิดประสบการณ์ดำน้ำข้ามคืน (KAEC) - 23 มิถุนายน ถึง 29 กรกฎาคม Laugh Factory - 23 มิถุนายน ถึง 18 กรกฎาคม สวนสนุก Mobile - 19 มิถุนายน ถึง 17 กรกฎาคม Jeddah Season Shopping Festival - 17 กรกฎาคม Las Fallas - 15 มิถุนายน ถึง 18 กรกฎาคม ขบวนแห่รถยนต์ - 8 มิถุนายน ถึง 18 กรกฎาคม Street Music Shows - 8 มิถุนายน ถึง 17 กรกฎาคม Glow Garden -...

วัฒนธรรมอาหารในซาอุดิอาระเบียมีความเป็นเอกลักษณ์และมีชีวิตชีวา จึงมีคำพูดเกี่ยวกับอาหารเจดดาห์ว่า "Jeddah Ghair" ซึ่งหมายถึง เจดดาห์แตกต่าง นักท่องเที่ยวที่เดินทางไป เจดดาห์ จะสังเกตุเห็นว่าคนท้องถิ่นชอบมารวมตัวกันในตอนเย็นบริเวณร้านอาหารและร้านกาแฟ สามารถร่วมลองทานอาหารท้องถิ่น เช่น Matazeez และ Kabsa ซึ่งถือเป็นอาหารประจำชาติของซาอุดิอาระเบียได้ หรือไปลิ้มลองหนึ่งในหลายสิบร้านอาหารนานาชาติและอาหารฟาสต์ฟู้ดใน เจดดาห์ เช่น ทานเบอร์เกอร์เนื้อและวาฟเฟิลที่ Food Trucks Park หรือทานไก่ทอดที่ Al Baik วัฒนธรรมอาหารเจดดาห์ เมืองท่าที่พลุกพล่านของ เจดดาห์ ในซาอุดิอาระเบียเป็นที่รู้กันดีว่าเป็นเมืองตั้งที่อยู่ใกล้ชายฝั่งทะเลแดง ซึ่งทำให้เป็นสถานที่สำคัญสำหรับการทานอาหารทะเลสดใหม่ วัตถุดิบสำคัญในอาหารท้องถิ่นมากมาย อาหารซาอุดิอาระเบียยังมีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารที่ปรุงด้วยเนื้อแกะซึ่งมักจะเสิร์ฟพร้อมโยเกิร์ตและอินทผลัม อาหารแต่ละภูมิภาคมีความแตกต่างกันไปตามรสชาติและวัตถุดิบที่มี แต่นักท่องเที่ยวที่ไปซาอุดิอาระเบียจะพบกับรสชาติอาหารที่หลากหลายของเจดดาห์ที่ปรุงด้วยข้าวสาลี, ไก่, มันฝรั่งและผักนานาชนิด Kabsa Matazeez Madfoon อาหารเจดดาห์ | อาหารซาอุดิอาระเบีย 8 อย่างที่ต้องลอง Kabsa อาหารประจำชาติของซาอุดิอาระเบีย ลักษณะเหมือนข้าวหมกไก่ ประกอบด้วยข้าว และเนื้อสัตว์ อาหารประจำภูมิภาคหลายจานใช้วัตถุดิบคล้ายๆกัน เช่น เนื้อแกะ โยเกิร์ต ข้าว และมันฝรั่ง Matazeez เป็นอาหารท้องถิ่นแสนอร่อยจากซาอุดิอาระเบีย อาหารอาหรับจานนี้โดยทั่วไปจะปรุงด้วยเนื้อแกะและผักในซอสเครื่องเทศ Madfoon ทำจากเนื้อสัตว์และข้าว อาหารจานนี้มักปรุงใต้ดินในหลุมใต้กองไฟ และวิธีการทำอาหารแตกต่างกันไปตามภูมิภาค Qursan ทำจากแป้งสาลีมีลักษณะเป็นเส้นบางๆ เป็นอาหารแสนอร่อยที่ราดด้วยน้ำเกรวี่ มักจะเสิร์ฟเป็นเครื่องเคียงคู่กับอาหารจานหลักอย่างเนื้อแกะหรือผัก Jarish Saleeg Mofatah al-dajaj Maamoul Jarish เป็นอาหารซาอุดิอาระเบียท้องถิ่นยอดนิยม ทำจากข้าวสาลีบดเสิร์ฟพร้อมไก่ หัวหอม และข้าวสับ Saleeg คือข้าวขาวที่หุงด้วยนํ้าซุปและนม ถือเป็นอาหารประจำชาติของแถบ Hijaz Mofatah al-dajaj เป็นจานที่ทำด้วยส่วนของไก่ต้มหรือแกะ ปรุงด้วยเครื่องเทศ ลูกเกตและอัลมอนด์ ปิดท้ายมื้ออาหารด้วยขนมหวานอย่าง Maamoul เป็นขนมที่ทำด้วยอินทผลัม ถั่วพิสตาชิโอหรืออัลมอนด์ และมะเดื่อ ร้านอาหารตะวันออกกลางในเจดดาห์ Byblos เป็นร้านอาหารเลบานอนยอดนิยมในท้องถิ่น ตั้งอยู่บนถนน Al Kurnaysh Rd, Al-Hamra'a, Jeddah ร้านอาหารสุดหรูมีเมนูอาหารท้องถิ่นรวมถึง tabouleh และเนื้อย่างเช่นเดียวกับเมนูของหวาน ร้านอาหารเลบานอน Mataam al Sharq มีเมนูระดับไฮเอนด์และพื้นที่รับประทานอาหารพร้อมวิวของทะเลแดง ส่วนรับประทานอาหารที่ทันสมัยนี้มีผู้มาจับจองเป็นพื้นที่จัดงานอีเวนท์อยู่บ่อยครั้ง เพราะฉะนั้นหากจะมาทานอาหารที่ร้านนี้ ควรวางแผนไว้ล่วงหน้า แวะที่ Shawarma Shakir Aljazeera เพื่อชิมอาหารราคาย่อมเยา ร้านปิ้งย่างตะวันออกกลางที่มีเนื้อวัวแบบดั้งเดิมและไก่ชาร์วาม่า(ไก่หมักเครื่องเทศสไตล์เลบานอน)ให้บริการ และมีพื้นที่นั่งเล่นขนาดเล็กและสามารถนำอาหารออกไปได้ ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดในเจดดาห์ อาหารฟาสต์ฟู้ดอาจจะไม่ใช่อย่างแรกในลิสต์สิ่งที่ต้องทานใน เจดดาห์ แต่หากต้องการอาหารแบบด่วนๆ ควรลองอาหารฟาสต์ฟู้ดของที่นี่ดู เพราะอาหารฟาสต์ฟู้ดก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการเข้าถึงรสชาติตามความชอบของคนเมืองนั้นๆ แวะที่ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดเหล่านี้เพื่อลองทานอาหารแสนอร่อยกันเลย Al Baik ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดยอดนิยมใน เจดดาห์ มีเมนูง่ายๆทั้งไก่ทอด อาหารทะเล และมันฝรั่งทอดด้วยราคาย่อมเยา การไปทานอาหารที่ Al Baik ถือเป็นส่วนหนึ่งในประสบการณ์การมาเยือนซาอุดีอาระเบียและนักท่องเที่ยวทุกคนควรลองอย่างน้อยสักครั้ง แต่เมื่อได้ลองแล้ว อาจจะอยากกลับไปอีกครั้งก็ได้ Al Tazaj เป็นเครือร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่มีเมนูพิเศษอย่างไก่บาร์บีคิว เครือร้านอาหารนี้เป็นที่รู้จักกันในการใช้สูตรอาหารอาหรับแบบดั้งเดิมสำหรับไก่ ซึ่งมักจะเสิร์ฟคู่กับข้าวหรือมีทบอล อาหารรวมทั้งแซนวิช ไก่ซอสกระเทียม และสลัดทาฮินี่ KUDU เป็นร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดสไตล์ตะวันตกด้วยเมนูทั่วไปของเบอร์เกอร์และแซนวิช เชนร้านอาหารอาหารจานด่วนยอดนิยมนี้มีหลายสาขาให้บริการ เสิร์ฟเบอร์เกอร์สไตล์อเมริกัน มันฝรั่งทอดและอาหารเช้า...

นักผจญภัยท่านไหนที่ต้องการเที่ยวนอกเส้นทางเดิมๆ มั่นใจได้เลยว่าจะเจอกับแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ในซาอุดิอาระเบียหลายแห่งแน่นอน เพราะการท่องเที่ยวแบบเปิดในประเทศซาอุดิอาระเบีย สถานที่อย่าง หมู่บ้านมรดก Ushaiqer และ โอเอซิส Al Ahsa ได้เปิดพร้อมสำหรับการสำรวจ มี่จะทำให้นักท่องเที่ยวหลงรักแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์เหล่านี้ทุกๆ วัน ถึงแม้ว่าการเดินทางท่ามกลางทะเลทราย สำรวจถ้ำ หรือเดินป่าที่ยากลำบากไม่ได้จำเป็นที่จะอยู่ในแผนเที่ยว เราจะพบว่ามีอีกหลายสถานที่ที่จะพาเราย้อนเวลาไปในเมืองรียาดหรือเมืองหลวงของซาอุดิอาระเบียนั่นเอง สำรวจแหล่งท่องเที่ยวที่อุดมสมบูรณ์และดึงดูดนักเที่ยวมากที่สุดในอัลอูลา ไกลออกไปประมาณสี่ชั่วโมงจากทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง เมดินา (Medina) คือที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญของซาอุดิอาระเบียที่กำลังมาแรงเมือง อัล อูลา (Al Ula) กำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงเพื่อรอต้อนรับนักท่องเที่ยวที่คาดว่าน่าจะเข้ามาเยียมชมประเทศอย่างล้นหลาม หมู่บ้านโบราณเปรียบเสมือนโอเอซิสท่ามกลางหุบเขาทะเลทรายของเมือง เมดินา (Medina) และตั้งอยู่บนถนนประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นเส้นทางโบราณที่ช่วยกระตุ้นการค้าระหว่างอินเดียกับตะวันออกกลางเรียกว่าเส้นทางสายเครื่องหอม (Incense Road) นั่นเอง อัลอูลา (Al Ula) ยังคงเสน่ห์ของประวัติศาสตร์ไว้มากมาย โดยเฉพาะที่ หมู่บ้านมรดก Al Ula ที่นักท่องเที่ยวจะได้เห็นบ้านดินที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ดีสุดในโลก นักโบราณคดีเชื่อว่ากว่า 800 หลังมีอายุอย่างน้อย 2,000 ปี นอกเหนือจาก หมู่บ้านมรดก Al Ula นักท่องเที่ยวยังสามารถแวะไปที่ พิพิธภัณฑ์ Al Ula เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเมือง วัฒนธรรมอิสลาม และพืชพื้นเมืองในฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของซาอุดิอาระเบีย ขับรถไปแค่ 30 นาทีก็จะเจอเมือง มาเดนซาเลห์ (Madain Saleh) ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญและเหตุผลหลักที่นักท่องเที่ยวชอบไปเที่ยว อัลอูลา (Al Ula) โบราณสถานที่แสดงซากของราชอาณาจักรแนบาเทีย (Nabataean kingdom) ในสภาพที่เกือบสมบูรณ์และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในซาอุดิอาระเบีย นักท่องเที่ยวยังสามารถเยี่ยมชมสุสานหินแกะสลักที่ยิ่งใหญ่เรียงรายกันกว่า 131 สุสาน ซึ่งเป็นที่รวบรวมโครงสร้างที่โด่งดังของนครเปตรา (Petra) ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปจาก มาเดน ซาเลห์ (Madain Saleh) ก็จะเป็น พิพิธภัณฑ์รถไฟเฮจาซ (Hejaz Railway Museum) ซึ่งเป็นจุดสำคัญส่วนหนึ่งของเครือข่ายรถไฟ ออตโตมัน (Ottoman) ที่ครั้งหนึ่งเคยวิ่งผ่านเฮจาซ (Hejaz) หรือภาคตะวันตกซาอุดิ ผู้เข้าชมจะได้เรียนรู้ว่าระบบขนส่งมีความสำคัญต่อศาสนาอิสลามเช่นไรและจะได้เห็นซากปรักหักพังของ สถานีอัลอูลา (Al Ula Station) รวมไปถึงเส้นทางและรถไฟดั้งเดิม (สถานีดั้งเดิมโดนวางระเบิดโดยชาวอังกฤษในปีคริสต์ศักราช 1917 แต่ยังคงเหลือให้เห็นในเมือง อัลอูลา (Al Ula) นักท่องเที่ยวสามารถแวะชมและถ่ายรูปซากปรักหักพังได้แต่ไม่สามารถเข้าไปด้านในได้) เส้นทางรถไฟ Hejaz เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่จักรวรรดิออตโตมันเสนอขึ้นมาในช่วงต้นของคริสต์ศตวรรษที่ 20 ที่หวังให้การเดินทางของชาวมุสลิมที่อยู่ห่างไกลไปแสวงบุญที่เมดินา (Medina) ง่ายขึ้น แต่เนื่องจากค่าใช้จ่ายมหาศาลและความยุ่งยากในการก่อสร้างในช่วงเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง โครงการจึงถูกยกเลิกและไม่เคยได้กลับมาทำอีกเลย องค์การยูเนสโกยกย่องให้ซากที่เหลือของสายรถไฟที่ขยายจากเมืองดามาสกัส (Damascus) ประเทศไซเรีย มาที่ เมดินา (Medina) ประเทศซาอุดิอาระเบียเป็นมรดกของโลกและเป็นสถานที่ที่ทรงคุณค่าที่สุดในซาอุดิอาระเบีย สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดและอยู่ใกล้ๆกัน คือ Elephant Mountain หรือบางทีเรียกว่า Elephant Rock ที่นักท่องเที่ยวสามารถรับชมการก่อตัวของทรายในทางธรณีวิทยาของเมือง เฮจาซ (Hejaz) หรือจังหวัดทางตะวันตกจนกลายเป็นก้อนขนาดใหญ่เกือบเท่าภูเขาที่มีลักษณะคล้ายช้าง สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่าง อัลอูลา (Al Ula) และ มาเดนซาเลห์ (Madain Saleh) ไกด์ในพื้นที่ชอบนักที่จะพานักท่องเที่ยวไปยังสถานที่แห่งนี้ เข้าพักที่ Al Ula Arac Resort แล้วออกไปเที่ยวที่เมือง อัลอูลา...

สถานที่เชิงประวัติศาสตร์ใน เจดดาห์ คือเมืองตากอากาศที่เป็นนิยมที่สุดของซาอุดิอาระเบียและเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในทะเล Red Sea ผู้คนใช้สถานที่แห่งนี้เป็นประตูสู่เมือง เมกกะ และ เมดินา และเมืองนี้มีวัฒนธรรมอาหารที่อุดมไปด้วยปลาและอาหารทะเล เจดดาห์ ยินดีต้อนรับนักทักเที่ยวให้เข้ามาเยี่ยมชมสถานที่สำคัญต่างๆ และเทศกาลประจำปีของเมืองที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรม ตามหลักฐานทางโบราณคดีแล้วนั้นพื้นที่แห่งนี้พบว่ามีการตั้งถิ่นฐานตั้งแต่อย่างน้อย 522 ปีก่อนคริสต์ศักราชและมีผู้คนอาศัยตั้งแต่อย่างน้อยยุคหินเลยทีเดียว ถนนเลียบทะเลของเจดดาห์ ถนนเลียบทะเล Corniche ภูมิทัศน์ที่สวยงามของเมืองเจดดาห์บางครั้งก็สะกดว่า Cornish เป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่งดงามทอดตัวยาวกว่า 30 กิโลเมตรบริเวณริมทะเลของตัวเมือง พื้นที่แห่งนี้เป็นสถานที่เพื่อสังสรรค์และนันทนาการอยู่เสมอ มีร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านค้าหลากหลายร้าน อีกทั้งยังเป็นแหล่งที่ตั้งของอาคารที่งดงามอีกมากมาย สถานที่แห่งนี้มีบริเวณทางเดินและพาวิลเลียนที่มีประติมากรรมศิลปะสาธารณะ สำรวจพื้นที่และตัวเลือกโรงแรม เช่น Areen Hotel ตั้งอยู่ที่ 8175 Prince Sultan Road โรงแรมระดับ 3 ดาวที่มอบความสะดวกสบายในการไปดำน้ำและทัวร์ดำน้ำตื้นและมีสนามกอล์ฟที่โรงแรมอีกด้วย หาดในเจดดาร์ ผู้คนเพลิดเพลินกับการเล่นน้ำทะเลที่สดชื่นของทะเล Red Sea มาหลายศตวรรษแล้ว เป็นธรรมดาที่เมืองใกล้มหาสมุทรจะมีหลายสถานที่ให้ไปเล่นน้ำและ เจดดาห์ มีชายหาดมากมาย ครอบครัวมักไปเที่ยวที่หาดเพื่อเล่นทรายและน้ำทะเล หลายๆ หาดมีสนามเด็กเล่นรวมไปถึงพื้นที่สำหรับปิกนิกด้วย และนี่คือรายชื่อของหาดยอดนิยมในเจดดาห์ มาสูดอากาศสดชื่นของมหาสมุทรและสนุกกับแสงแดดไปด้วยกันเถอะ ชายหาด Silver Sands ชายหาด al Saif Al Murjan Beach Resort เมืองเจดดาห์ริมทะเล เมืองเชิงประวัติศาสตร์อย่าง เจดดาห์ เป็นเมืองที่สวยงามทั้งกลางวันและกลางคืนที่อาคารและน้ำพุมากมายส่องสว่างสวยงาม เช่น น้ำพุกษัตริย์ฟาฮัด (King Fahad’s Fountain) ที่เป็นน้ำพุที่สูงที่สุดในโลกพุ่งสูงกว่า 305 เมตร มองเห็นได้จากเกือบทุกมุมทั่วเมืองและตอนกลางคืนจะสว่างจ้าไปด้วยแสงสีสวยงาม ตั้งอยู่ใกล้กับโรงแรม Beyab Al Hamra Hotel ที่มีบริการทำความสะอาดทุกวัน ศูนย์ออกกำลังกาย/ฟิตเนส และห้องแฟมมิลี่สำหรับเด็ก มัสยิดลอยน้ำ เจดดาห์ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยอาคารสิ่งก่อสร้างที่สวยงามมากมายรวมไปถึงมัสยิดหลายๆ แห่ง หนึ่งในมัสยิดที่มีเอกลักษณ์และโด่งดังที่สุดคือ มัสยิดลอยน้ำ แน่นอนว่าไม่ได้ลอยอยู่จริงๆ แต่สร้างไว้บนเสาเหนือน้ำดังนั้นมันจึงดูเหมือนลอยอยู่บนน้ำ เป็นมัสยิดที่ยังใช้การอยู่แต่ก็เปิดบริการให้แก่นักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมด้วย โรงแรม Radisson Blu Hotel Jeddah ตั้งอยู่ใกล้กับมัสยิดมีบริการหาดส่วนตัว สระว่างน้ำในร่ม บริการสปาและนวด พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ในเจดดาห์ เจดดาห์ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ในทุกซอกทุกมุมของเมือง นักท่องเที่ยวจะเจอพิพิธภัณฑ์มากมายทั้งเล็กและใหญ่อยู่ทั่วเมือง และด้านล่างคือตัวอย่างของพิพิธภัณฑ์และอาคารในประวัติศาสตร์ของเมือง เจดดาห์ พิพิธภัณฑ์ Abdul Raouf Khalil ในเจดดาห์ พิพิธภัณฑ์ Abdul Raouf Khalil แห่งเจดดาห์ กินพื้นที่หลายตึกของเขต Al Madani และ Al Andalus ในเมืองเจดดาห์ พิพิภัณฑ์แห่งนี้ช่วยอนุรักษ์มรดกของอิสลามในพื้นที่ไว้รวมไปถึงบันทึกวัฒนธรรมก่อนศาสนาอิสลามที่ย้อนไปกว่า 2,500 ปี ของจัดแสดงที่รวมไปถึงสิ่งประดิษฐ์จากชาวอ็อตโตมันเติร์ก (Ottoman Turks) และของชนเผ่าหาปลา (fishing tribes) ในช่วงแรกๆ พิพิธภัณฑ์ Khuzam Palace พิพิธภัณฑ์โบราณคดีและชาติพันธุ์วิทยาของเจดดาห์ ตั้งอยู่ด้านในพระราชวัง Khuzam Palace พิพิธภัณฑ์พระราชวัง ในเขต Al-Nuzlah al-Yamaniyah ทางตอนใต้ของเจดดาห์และจัดนิทรรศกาลมากมายเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในท้องถิ่นและสิ่งของจากวัฒนธรรมก่อนศาสนาอิสลามที่ของบางชิ้นมีอายุย้อนไปถึงยุคหินเลยทีเดียว เครดิตรูปภาพ: Yousefmadari...

เพราะการท่องเที่ยวที่เปิดกว้างภายในประเทศ จึงง่ายมากๆ ที่จะหากิจกรรมทำระหว่างท่องเที่ยวในซาอุดิอาระเบีย นักท่องเที่ยวแนวผจญภัยมักจะมุ่งหน้าไปที่ตะวันออกกลางเพื่อขี่รถเอทีวีท่ามกลางเนินทรายสีแดง (red sand dunes) ใน Rub’ Al Khali (Empty Quarter) ดื่มดำกลิ่นอายและแวะซื้อของฝากที่ตลาดที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองหลวง รียาด (Riyadh)และดำน้ำดูปะการังที่ทะเล Red Sea ถ้ามีการวางแผนล่วงหน้ามาซักนิดล่ะก็นักท่องเที่ยวจะสามารถได้ทั้งแวะไปสำรวจโอเอซิสใน Eastern Province ตั้งแคมป์ที่ปล่องภูเขาไฟใกล้เมือง Taif และไปขี่อูฐที่ อุทยานแห่งชาติทุมาม่า (Thumamah National Park) เลย วางแผนเดินทางท่องเที่ยวไปในรียาดให้น่าตื่นเต้นสุดๆ เมืองหลวง รียาด (Riyadh) เป็นเมืองที่รวมสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และสถานที่ท่องเที่ยวที่ทันสมัยไว้มากมาย รวมไปถึงกิจกรรมที่ทำแล้วน่าตื่นเต้นสุดๆ ในซาอุดิอาระเบียอีกด้วย สำหรับใครที่ชอบผจญภัยที่กำลังมองหาการเดินทางในทะเลทราย การท่องเที่ยวไปในเนินทรายต่างๆ และตั้งแคมป์ในทะเลทรายก็จะพบว่าถ้าจะทำกิจกรรมกลางแจ้งทุกอันให้หมดอาจจะต้องพักอยู่ที่เมือง รียาด (Riyadh) ไปยืนที่หน้าผา Edge of the World หากนักเดินทางแบ็คแพ็คเกอร์คนไหนที่กำลังมองหาประสบการณ์ปีนเนินทรายที่น่าตื่นเต้นแล้วล่ะก็ พลาดไม่ได้ที่ต้องไปปีน หุบเขา Acacia เพื่อที่จะได้ชื่นชมวิวจาก หน้าผา Edge of the World หน้าผาที่สวยงามแห่งนี้ตั้งอยู่ที่กลางทะเลทรายทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองหลวง รียาด (Riyadh) ประมาณ 90 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปที่ยอดหน้าผาด้วยเส้นทางที่ทำไว้ให้และค่าตอบแทนของหยาดเหงื่อก็จะเป็นวิวที่กว้างสุดลูกหูลูกตาของทะเลทรายรอบๆ ที่สวยจนต้องอ้าปากค้างกันเลยทีเดียว นักโบราณคดีเชื่อว่า หน้าผา Edge of the World เคยเป็นใต้ท้องทะเลมาก่อนแต่ตอนนี้เป็นเหมือนกับสถานที่ที่ทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกว่าอยู่บนจุดสูงสุดของโลก การไปเที่ยวที่เมือง รียาด (Riyadh) นักท่องเที่ยวอาจจะต้องจ้างคนขับรถ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวหลายรายมีข้อเสนอกลุ่มไกด์และรถยนต์ออฟโรดที่เหมาะกับการลงพื้นที่ แต่ถ้าหากใครจะไปเที่ยวคนเดียวล่ะก็ต้องควรคำนึงไว้ว่าเจ้าหน้าที่จะปิดประตูที่เชื่อมกับถนนสายหลักที่กลับไปที่เมือง รียาด (Riyadh) เวลา 18.00 นาฬิกา และจากหน้าผาไปที่ประตูต้องขับรถประมาณ 2 ชั่วโมง และนักท่องเที่ยวห้ามลืมที่จะเตรียมน้ำดื่ม (ไปจำนวนมาก) และอาหารหรือของทางเล่นให้เพียงพอสำหรับหนึ่งวันเต็มๆ ในทะเลทรายอีกด้วย คู่มือท่องเที่ยวไม่แนะนำการปีนหน้าผาที่ Edge of the World สำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก เนื่องจากช่วงสุดท้ายของการเดินทางจะต้องอาศัยความแข็งแรงและทักษะการปีนเขานั่นเอง อนุรักษ์พื้นที่ไว้สำหรับสัตว์ป่าซาฟารี อุทยานอนุรักษ์สัตว์ป่า Nofa Wildlife Park เป็นสถานที่ที่เหมาะที่สุดสำหรับการท่องเที่ยวแบบครอบครัว หรือแม้ใครที่อยากเที่ยวคนเดียวก็สามารถมาเพลิดเพลินกับสถานที่แห่งนี้ได้ อุทยานแห่งนี้จะเป็นซาฟารีแบบแอฟริกา มีสัตว์มากมายกว่า 700 ตัวและรีวิวที่ล้นหลามจากนักท่องเที่ยวที่เคยเยี่ยมชม นักท่องเที่ยวสามารถรับชมสัตว์ต่างๆ ได้อย่างใกล้ชิด ยกตัวอย่างเช่น ยีราฟที่เดินเตร็ดเตร่ไปมา ม้าลาย วัววิลเดอบีสต์ นกกระจอกเทศ ฮิปโป และสัตว์อื่นๆ อีกหลายสายพันธุ์ จะมีผู้เชี่ยวชาญคอยแนะนำสัตว์ต่างๆ ไปตลอดทางเพราะฉะนั้นมั่นใจได้เลยว่าจะเป็นทัวร์ที่ปลอดภัยแน่นอนถึงแม้จะอยู่ท่ามกลางทะเลทรายโล่งๆ อุทยานอนุรักษ์สัตว์ป่า Nofa Wildlife Park เปิดให้บริการเกือบทุกวันเสาร์และหากใครอยากไปเยี่ยมชมจะต้องทำการจองล่วงหน้าบนเว็บไซต์ของอุทยานก่อน อุทยานแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองหลวง รียาด (Riyadh) ไกลออกไปประมาณ 98 กิโลเมตร และเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ Nofa Resort ที่เป็นที่ตั้งของ Nofa Resort Academy Golf Course Nofa Racetrack Safari Riyadh และ Ar Reem Racetrack ที่นักท่องเที่ยวสามารถรับชมการแข่งขันหรือลงสนามด้วยตัวเอง ขี่เนินทรายสีแดงในซาอุดิอาระเบีย เมื่อไปเที่ยวที่ซาอุดิอาระเบียจะต้องไปเที่ยวที่เนินทรายอย่างน้อยหนึ่งวัน...

สิ่งที่น่าสนใจในเมือง เจดดาห์ (Jeddah) มีอยู่ทุกที่ทั่วเมืองตั้งแต่น้ำพุที่สูงที่สุดในโลกไปจนถึงซากเรือใต้ทะเล เจดดาห์ (Jeddah) เป็นศูนย์กลางการค้าของซาอุดิอาระเบียเพราะฉะนั้นในเมืองนี้จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยและความบันเทิงทุกรูปแบบที่นักท่องเที่ยวต้องการ และที่เมืองนี้ยังเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อื่นๆอีกมากมาย เราจะได้ช้อปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้า 11 ชั้นในตอนเช้าแล้วไปเดินเล่นที่ตลาดกลางแจ้งข้างๆตอนเย็นข้างตึกเก่าที่สร้างตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 7 ใน เจดดาห์ (Jeddah) 1. ย้อนกาลเวลาไปเที่ยวที่เมือง อัลบาลัด (Al Balad) อัลบาลัด (Al Balad) แปลตรงตัวหมายความว่า "เมือง" หรือ "ชุมชน" เป็นเมืองที่รวบรวมประวัติศาสตร์ของเมือง เจดดาห์ (Jeddah) เอาไว้ เมือง อัลบาลัด (Al Balad) ก่อตั้งขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 7 เป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโกและเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวห้ามพลาด ถนนคดเคี้ยวเหมือนเขาวงกตซอกแซกไปตามบ้าน มัสยิด และตลาดกลางแจ้งต่างๆ ที่อยู่ในจุดเล็กๆ ของเมือง หรือจะไปเที่ยวที่ประตู Bab al Makkah หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Makkah Gate ซึ่งสร้างเอาไว้เพื่อต้อนรับผู้แสวงบุญที่เดินทางไปยังเมืองเมกกะ (Mecca) มาหลายศตวรรษ และคุ้มค่ามากๆ ที่จะแวะไปพิพิธภัณฑ์ Naseef House หนึ่งในบ้านสีแสดที่โด่งดังของ อัลบาลัด ที่กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ เมื่อปี ค.ศ. 1872 Sheikh Omar Effendi Nassif ผู้ปกครองของเมือง เจดดาห์ (Jeddah) ในสมัยนั้นเป็นผู้สร้างแมนชั่นที่มี 106 ห้องแห่งนี้ขึ้น ที่แมนชั่นแห่งนี้จะมีทางลาดที่ค่อนข้างกว้างเอาไว้สำหรับให้อูฐขึ้นไปส่งสารข้อความและเสบียงให้สำหรับทั้ง 5 ชั้นของบ้าน เมื่อชื่นชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่จนพอใจแล้วก็สามารถแวะไปเดินเล่นที่ตลาด Suq Al Alawi, Al-Balad เพื่อซื้อของฝากได้ เช่น เครื่องเพชรพลอยสีแสด เครื่องหนังและน้ำหอม เข้าพักที่ Park Hyatt Jeddah Marina Club and Spa แล้วออกไปเที่ยวที่เมือง อัลบาลัด 2. ช้อปปิ้งให้หนำใจที่ Mall of Arabia Mall of Arabia เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่ยอดเยี่ยมสุดๆ หากเราอยากแวะพักระหว่างการเดินทางไปหรือกลับจาก เมือง เจดดาห์ (Jeddah) ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับสนามบินนานาชาติ King Abdulaziz ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่แห่งนี้มีพื้นที่ช้อปปิ้ง ร้านอาหาร และสถานบันเทิงกว่า 260,000 ตารางเมตร่ รวมไปถึงโซนเด็ก KidZania อาร์เคดเพื่อเล่นเกม และพื้นที่เล่นสำหรับเด็ก และยังเป็นศูนย์รวมของสินค้าแบรนด์ดังทั้งต่างประเทศและในภูมิภาค เช่น Gap Zara Aldo Levis และ Monsoon เมื่ออยากจะเติมพลังแล้วล่ะก็เราสามารถเลือกทานอาหารที่ศูนย์อาหารแบบรวดเร็วทันใจหรือจะเลือกนั่งร้านอาหารก็ได้ หรือถ้าไม่อยากช้อปปิ้งสามารถไปดูหนังได้ ซึ่งมีทั้งหมด 11 โรงและภาพยนต์ใหม่มากมายจากทั่วโลก เข้าพักที่ Casablanca Grand Hotel แล้วออกไปช้อปที่ห้าง Mall of Arabia 3. สนุกสุดเหวี่ยงที่สวนสนุก Al Shallal Theme Park นักท่องเที่ยวกว่าหนึ่งล้านคนต่อปีจะแวะไปที่สวนสนุก Al...

ด้วยภูมิประเทศที่ตั้งอยู่ตามแนวยาวของทะเลแดงและอ่าวเปอร์เซีย จึงพูดได้ว่าประเทศซาอุดิอาราเบียมีชายหาดที่สวยงามที่สุดในโลก นักท่องเที่ยวที่กำลังมองหารีสอร์ตอันหรูหราสำหรับการเก็บตัวพักผ่อนในที่พักริมหาดควรเดินทางไป เจดดาห์(Jeddah) สำหรับนักผจญภัยและครอบครัวไม่ควรพลาดที่ อัลจูเบล(Al Jubail) อัล โคห์บาร์(Al Khobar) และ เกาะฟาราซาน(Farasan Island) พักผ่อนสบายๆริมหาดสาธารณะในซาอุดิอาระเบีย หาดสาธารณะในประเทศซาอุดิอาระเบียกระจัดกระจายไปตามแนวด้านตะวันตกของทะเล Red Sea และใน Eastern Province ตามอ่าวอาหรับ (อ่าวเปอร์เซีย) ผู้ที่ชอบการผจญภัยและประสบการณ์แปลกใหม่ ต้องไปที่นี่เลย อัมลัจจ์(Umluj) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นมัลดีฟฟ์แห่งซาอุ หรือที่ Haql อยู่ทางทิศเหนือของประเทศ ส่วนผู้ที่ต้องการประการณ์การเป็นนักท่องเที่ยวแท้ๆในเมืองที่อยู่ติดชายฝั่ง ต้องไปยังบริเวณ Eastern Province อย่างเมือง ดัมมัม(Dammam) อัล จูเบล(Al Jubail) อัล โคห์บาร์(Al Khobar) และห้ามพลาด เกาะฟาราซาน(Farasan Island) ใกล้กับเมือง Jazan ทางตอนใต้ของทะเลแดงนี้คนนิยมมาเล่นกีฬาทางน้ำ เช่น นั่งเรือ ดำน้ำ และการนั่งอาบแดด เที่ยวหาดฟานาเทีย(Fanateer Beach) อัลจูเบล(Al Jubail) ใน Eastern Province วันอันสมบูรณ์แบบกำลังรออยู่ที่ อัล จูเบล(Al Jubail) ที่นักท่องเที่ยวสามารถใช้เวลาในช่วงเช้าบน หาดFanateer และช่วงบ่ายในห้างสรรพสินค้าแอร์เย็นๆที่ห้าง Fanateer Mall ชายหาดและห้างสรรพสินค้าตั้งอยู่บนคาบสมุทร Fanateer ของเกาะ อัล จูเบล(Al Jubail) มีเส้นทางหลายทางที่นักท่องที่ยวสามารถเดินเล่นรับลมได้พร้อมชมทิวทัศน์ของเรือบนผิวน้ำและครอบครัวที่นั่งปิกนิกกันบนหาดทราย สนุกกับครอบครัวที่หาดฮาร์ฟมูน (Half Moon Beach) เมืองดาห์ราน (Dhahran) ที่ Eastern Province ครอบครัวสามารถมาสัมผัสประสบการณ์ในวันหยุดได้ที่หาดสาธารณะ Half Moon Beach หาดที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน หาดแห่งนี้อยู่ทางชายฝั่งตะวันออกของ อ่าวฮาร์ฟมูน ในเมือง ดาห์ราน คลื่นลมที่นี่ค่อนข้างสงบเด็กๆสามารถว่ายน้ำและเล่นสนุกกันได้อย่างไม่มีเบื่อ มีทั้งสนามเด็กเล่น และเครื่องเล่นทางน้ำ หากต้องการเก็บของหรืออาบน้ำหลังเล่นเสร็จที่นี่ก็มีให้บริการเช่นกัน เข้าพักที่ Dana Beach Resort Half Moon Bay Al Khobar Families only แล้วออกไปเที่ยวเมือง Dhahran ค้นหาและจองที่พักราคาดีที่สุดในดาห์รานวันนี้ แคว้นตะบูก | หาด Umluj หาด Umluj (Umluj Beach) หาดอันเก่าแก่และเงียบสงบ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะรู้จักหาดแห่งนี้ ชายฝั่งกลุ่มเล็กๆนี้มีชายฝั่งเป็นทราย ทอดตัวไปทางเหนือสู่ อัล วาจห์(Al Wajh) และยังเป็นประตูสู่มัลดีฟส์แห่งซาอุดิอาระเบีย Libana Islet(Libanah) และ Um Sahar(Umm Sihr) เป็นเกาะเล็กๆสองเกาะที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาระหว่างที่ท่องเที่ยวใน Umluj แต่ระหว่างสองเกาะนี้ยังมีเกาะ Al Hasani ที่มีขนาดใหญ่กว่าและเป็นที่นิยมกว่า หากต้องการนั่งเรือสามารถต่อรองราคากับคนขับเรือที่นี่ได้ และสามารถแวะเกาะใดก็ได้ในระยะเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง Libana Islet หรือ Libana เป็น 1 ใน 50...

วางแผนการเดินทางมันๆ แล้วไปหาอะไรทำที่เจดดาห์ (Jeddah) กับ 12 ที่เที่ยวสุดล้ำที่ไม่ไปไม่ได้เด็ดขาด เจดดาห์ เมืองใหญ่เป็นอันดับสองของซาอุดิอาระเบีย มีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจเต็มไปหมด ทั้งพิพิธภัณฑ์ดีๆ กับแลนด์มาร์กสำคัญทางประวัติศาสตร์ แต่ขณะเดียวกันก็มีแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อเรื่องความทันสมัย แถมเจดดาห์ยังเป็นเจ้าของสถิติโลกในกินเนสส์บุ๊กอีกเพียบ! เพราะฉะนั้นเรามาวางแผนไปตะลุย เจดดาห์ เก็บเป็นสถิติของตัวเองกันบ้างดีกว่า 1. ยกครอบครัวขึ้นรถไฟเหาะตีลังกา เที่ยวสวนสนุกในเมืองเจดดาห์ เปลี่ยนบรรยากาศมาเล่นเครื่องเล่นตอนกลางคืนกันบ้างที่ Al Shallal Theme Park หนึ่งในสวนสนุกชื่อดังของซาอุดิอาระเบีย แหล่งท่องเที่ยวสำหรับครอบครัวที่มีทั้งเครื่องเล่นหวาดเสียว เครื่องเล่นน่ารักๆ สำหรับเด็ก เรือพาย ตู้เกม และลานสเก็ต แถมยังมีร้านค้าร้านอาหารอีกเพียบ รวมถึงภัตราคารอีกสองแห่ง สวนสนุกแห่งนี้เปิดทุกวันตั้งแต่ห้าโมงเย็นยันกลางคืน เราจะได้ขึ้นเครื่องเล่นไปแตะขอบฟ้ายามราตรีกัน สวนสนุกอีกแห่งคือ Atallah Happy Land Park บนถนน Corniche ซึ่งเป็นหนึ่งในสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดใน เมืองเจดดาห์ ที่นี่มีเครื่องเล่นกว่า 100 ชนิด เหมาะแก่การมาใช้เวลากันทั้งครอบครัว เพราะมีทั้งเครื่องเล่นหวาดเสียว วีดีโอเกม โบว์ลิ่ง ปีนผา หรือแม้กระทั่งลานสเก็ตน้ำแข็ง นอกจากเครื่องเล่นต่างๆ นานาแล้ว Atallah Happy Land Park ยังมีน้ำพุเต้นระบำประกอบเพลง โรงภาพยนตร์ 6 มิติ และอาหารอีกเพียบ! แต่หากอยากได้บรรยากาศป่าซาฟารีแบบแอฟริกัน แนะนำให้ไป Jungle Land Theme Park (Mersal Village) หนึ่งในแหล่งรวมความบันเทิงสุดหรูของเมืองเจดดาห์ เราจะได้เพลินไปกับโชว์สิงโต การแสดงจากคณะละครสัตว์ และแน่นอนว่าต้องมีเครื่องเล่นให้สมกับเป็นสวนสนุกด้วย Mersal Village ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเจดดาห์ ถ้าขับรถมาจาก สนามบินนานาชาติคิงอับดุลาซิส (Kin Abdulaziz International Airport) ก็ใช้เวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น เข้าพักที่ Movenpick Resort Al Nawras Jeddah แล้วออกไปเที่ยว สวนสนุก Al Shallal Theme Park ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดใน เจดดาห์ 2. ช้อปของฝากที่มอลล์ออฟอาระเบีย (Mall of Arabia) บอกเลยว่าเป็นเรื่องง่ายมากๆ ที่เราจะหมดเวลาหนึ่งวันเต็มไปกับการช้อปที่ Mall of Arabia เพราะภายในห้าง 3 ชั้นนี้มีร้านค้าอยู่หลายร้อยร้าน ส่วนการตกแต่งก็เน้นความโมเดิร์น ใช้สีขาวเป็นหลัก แล้วประดับไฟ LED หลากสี รวมทั้งมีงานศิลปะจัดวางสร้างบรรยากาศให้ดูสนุกสนานขึ้น ส่วนขาช้อปก็สามารถเลือกซื้อของที่ดีที่สุดในเจดดาห์ได้จากเอาต์เล็ตของแฟชั่นดีไซเนอร์ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ร้านเครื่องสำอาง ฯลฯ ส่วนบริเวณชั้น G จะมีฟู้ดคอร์ตใหญ่โตมโหฬารที่มีทั้งอาหารซาอุดิอาระเบียและอาหารนานาชาติให้เลือกกินได้ไม่ว่าจะอยากกินมื้อหนัก หรือแค่หาของรองท้องก็ตาม เข้าพักที่ Mena Airport Hotel Jeddah แล้วออกไปเที่ยว ห้าง Mall of Arabia ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดใน เจดดาห์ 3. รับลมทะเลที่ซิลเวอร์แซนด์บีช (Silver Sand Beach) หาดทรายขาวกับน้ำทะเลสีเทอร์ควอยซ์รอทุกคนอยู่ที่ Silver Sand...