สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญในซาอุดิอาระเบีย | แหล่งมรดกโลกและโบราณสถาน
นักผจญภัยท่านไหนที่ต้องการเที่ยวนอกเส้นทางเดิมๆ มั่นใจได้เลยว่าจะเจอกับแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ในซาอุดิอาระเบียหลายแห่งแน่นอน เพราะการท่องเที่ยวแบบเปิดในประเทศซาอุดิอาระเบีย สถานที่อย่าง หมู่บ้านมรดก Ushaiqer และ โอเอซิส Al Ahsa ได้เปิดพร้อมสำหรับการสำรวจ มี่จะทำให้นักท่องเที่ยวหลงรักแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์เหล่านี้ทุกๆ วัน ถึงแม้ว่าการเดินทางท่ามกลางทะเลทราย สำรวจถ้ำ หรือเดินป่าที่ยากลำบากไม่ได้จำเป็นที่จะอยู่ในแผนเที่ยว เราจะพบว่ามีอีกหลายสถานที่ที่จะพาเราย้อนเวลาไปในเมืองรียาดหรือเมืองหลวงของซาอุดิอาระเบียนั่นเอง
สำรวจแหล่งท่องเที่ยวที่อุดมสมบูรณ์และดึงดูดนักเที่ยวมากที่สุดในอัลอูลา
ไกลออกไปประมาณสี่ชั่วโมงจากทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง เมดินา (Medina) คือที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญของซาอุดิอาระเบียที่กำลังมาแรงเมือง อัล อูลา (Al Ula) กำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงเพื่อรอต้อนรับนักท่องเที่ยวที่คาดว่าน่าจะเข้ามาเยียมชมประเทศอย่างล้นหลาม หมู่บ้านโบราณเปรียบเสมือนโอเอซิสท่ามกลางหุบเขาทะเลทรายของเมือง เมดินา (Medina) และตั้งอยู่บนถนนประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นเส้นทางโบราณที่ช่วยกระตุ้นการค้าระหว่างอินเดียกับตะวันออกกลางเรียกว่าเส้นทางสายเครื่องหอม (Incense Road) นั่นเอง
อัลอูลา (Al Ula) ยังคงเสน่ห์ของประวัติศาสตร์ไว้มากมาย โดยเฉพาะที่ หมู่บ้านมรดก Al Ula ที่นักท่องเที่ยวจะได้เห็นบ้านดินที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ดีสุดในโลก นักโบราณคดีเชื่อว่ากว่า 800 หลังมีอายุอย่างน้อย 2,000 ปี นอกเหนือจาก หมู่บ้านมรดก Al Ula นักท่องเที่ยวยังสามารถแวะไปที่ พิพิธภัณฑ์ Al Ula เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเมือง วัฒนธรรมอิสลาม และพืชพื้นเมืองในฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของซาอุดิอาระเบีย
ขับรถไปแค่ 30 นาทีก็จะเจอเมือง มาเดนซาเลห์ (Madain Saleh) ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญและเหตุผลหลักที่นักท่องเที่ยวชอบไปเที่ยว อัลอูลา (Al Ula) โบราณสถานที่แสดงซากของราชอาณาจักรแนบาเทีย (Nabataean kingdom) ในสภาพที่เกือบสมบูรณ์และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในซาอุดิอาระเบีย นักท่องเที่ยวยังสามารถเยี่ยมชมสุสานหินแกะสลักที่ยิ่งใหญ่เรียงรายกันกว่า 131 สุสาน ซึ่งเป็นที่รวบรวมโครงสร้างที่โด่งดังของนครเปตรา (Petra)
ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปจาก มาเดน ซาเลห์ (Madain Saleh) ก็จะเป็น พิพิธภัณฑ์รถไฟเฮจาซ (Hejaz Railway Museum) ซึ่งเป็นจุดสำคัญส่วนหนึ่งของเครือข่ายรถไฟ ออตโตมัน (Ottoman) ที่ครั้งหนึ่งเคยวิ่งผ่านเฮจาซ (Hejaz) หรือภาคตะวันตกซาอุดิ ผู้เข้าชมจะได้เรียนรู้ว่าระบบขนส่งมีความสำคัญต่อศาสนาอิสลามเช่นไรและจะได้เห็นซากปรักหักพังของ สถานีอัลอูลา (Al Ula Station) รวมไปถึงเส้นทางและรถไฟดั้งเดิม (สถานีดั้งเดิมโดนวางระเบิดโดยชาวอังกฤษในปีคริสต์ศักราช 1917 แต่ยังคงเหลือให้เห็นในเมือง อัลอูลา (Al Ula) นักท่องเที่ยวสามารถแวะชมและถ่ายรูปซากปรักหักพังได้แต่ไม่สามารถเข้าไปด้านในได้) เส้นทางรถไฟ Hejaz เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่จักรวรรดิออตโตมันเสนอขึ้นมาในช่วงต้นของคริสต์ศตวรรษที่ 20 ที่หวังให้การเดินทางของชาวมุสลิมที่อยู่ห่างไกลไปแสวงบุญที่เมดินา (Medina) ง่ายขึ้น แต่เนื่องจากค่าใช้จ่ายมหาศาลและความยุ่งยากในการก่อสร้างในช่วงเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง โครงการจึงถูกยกเลิกและไม่เคยได้กลับมาทำอีกเลย องค์การยูเนสโกยกย่องให้ซากที่เหลือของสายรถไฟที่ขยายจากเมืองดามาสกัส (Damascus) ประเทศไซเรีย มาที่ เมดินา (Medina) ประเทศซาอุดิอาระเบียเป็นมรดกของโลกและเป็นสถานที่ที่ทรงคุณค่าที่สุดในซาอุดิอาระเบีย
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดและอยู่ใกล้ๆกัน คือ Elephant Mountain หรือบางทีเรียกว่า Elephant Rock ที่นักท่องเที่ยวสามารถรับชมการก่อตัวของทรายในทางธรณีวิทยาของเมือง เฮจาซ (Hejaz) หรือจังหวัดทางตะวันตกจนกลายเป็นก้อนขนาดใหญ่เกือบเท่าภูเขาที่มีลักษณะคล้ายช้าง สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่าง อัลอูลา (Al Ula) และ มาเดนซาเลห์ (Madain Saleh) ไกด์ในพื้นที่ชอบนักที่จะพานักท่องเที่ยวไปยังสถานที่แห่งนี้
เข้าพักที่ Al Ula Arac Resort แล้วออกไปเที่ยวที่เมือง อัลอูลา (Al Ula)
ค้นหาและจองที่พักราคาดีที่สุดในอัลอูลา (AL ULA) วันนี้
ย้อนเวลาไปในจังหวัด ASIR (ASEER)
นักท่องเที่ยวควรแวะไปที่เมือง อับฮา Abha ที่ จังหวัด Asir เพราะจะได้เห็นภาพทางประวัติศาสตร์ที่เป็นเอกลักษณ์มากที่สุดในซาอุดิอาระเบีย เมืองแห่งนี้มีชื่อเสียงด้านทิวทัศน์ทางภูเขาและสภาพอากาศที่เย็นสบาย และมีบ้านดินที่โด่งดัง ที่พักอาศัยโบราณบางแห่งมีความสูงมากกว่าสามชั้นและกำแพงที่หนาทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเห็นภาพได้ว่าอารยธรรมโบราณเป็นอย่างไร บ้านหลายหลังตั้งอยู่ที่ขอบชานเมือง อับฮา Abha นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมสถานที่ได้อย่างตามใจก็จริงแต่หากใช้บริการไกด์ก็ถือว่าเป็นอีกทางเลือกที่ดีกว่าที่จะสำรวจสถานที่เหล่านี้ได้ดียิ่งขึ้น เพราะไกด์ท้องถิ่นจะรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของบ้านและสามารถอธิบายได้แบบเจาะลึกเกี่ยวกับโครงสร้างของมันโดยเฉพาะวัสดุและเทคนิคที่ใช้สร้าง
หมู่บ้านศิลปะ Al Muftaha ที่อยู่ด้านนอกใจกลางเมือง อับฮาเป็นหมู่บ้านที่เกิดจากการปะทะกันระหว่างความดั้งเดิมกับความเป็นสมัยใหม่ ย่านศิลปะสีสันหลากหลายที่มีภาพจิตกรรมฝาผนังและผลงานสร้างสรรค์ของนักเรียนศิลปะท้องถิ่นรวมกันอยู่ในรั้วกำแพงผาสุกของหมู่บ้านเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่ช่วงกลางปี ค.ศ. 1700 นักท่องเที่ยวสามารถเดินลัดเลาะหมู่บ้านเพื่อชื่นชมความงามของสถาปัตยกรรมและงานศิลปะไปพร้อมๆ กัน หลังจากนั้นจะเจอตลาด Muftaha Village and Traditional Market ที่ขายภาพวาด ของทำมือ และผลิตภัณฑ์พื้นเมือง
พิพิธภัณฑ์โบราณคดี Al Muftaha ตั้งอยู่กลาง หมู่บ้านศิลปะ Al Muftaha ซึ่งก่อตั้งขึ้นช่วงปลายปี ค.ศ. 1800 ที่พิพิธภัณฑ์มีอยู่ 3 เรื่องราวที่เต็มไปด้วยสิ่งประดิษฐ์ทางประวัติศาสตร์และคำอธิบายเกี่ยวกับประเพณีท้องถิ่น นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับการหล่อโลหะ งานไม้ และการแกะสลักว่าส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมการค้าในท้องถิ่นและทำให้ค้นพบวิธีการเพาะปลูกระดับภูมิภาคได้อย่างไร
เดินจาก หมู่บ้านศิลปะ Al Muftaha เพียง 15 นาที ก็จะเจอกับ พระราชวังโบราณ Shada สถานที่แห่งนี้ควรเป็นส่วนหนึ่งของทุกแผนการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ใน อับฮา Abha อดีตพระราชวังปกครองหลักใน อับฮา Abha กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงของตกแต่งและอุปกรณ์ที่เคยใช้ในพระราชวัง นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปที่ยอดหอคอยดินเพื่อชมวิวของเมือง อับฮา Abha ด้านล่าง สิ่งที่น่าสังเกตคือหอคอยจะมีหน้าต่างเพียงไม่กี่บานเพื่อรักษาความปลอดภัยของผู้ว่าการที่อาศัยอยู่ที่นั่น
ภูเขา Jabal Sawda (Jabal Al Soodah) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เด่นที่สุดในซาอุดิอาระเบียและแหล่งท่องเที่ยวที่ควรไปในเมือง อับฮา Abha เนื่องจากเป็นภูเขาที่สูงที่สุดของประเทศที่มีความสูงถึง 3,133 เมตร ด้านล่างภูเขาเป็น อุทยานแห่งชาติ อัลซูดาห์ (Al Soudah National Park) ที่สวยงามและเหมาะกับการเดินเขาเป็นอย่างมาก สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่อยากเดินเขาก็สามารถนั่งกระเช้าลอยฟ้าในเมือง อับฮา Abha ทางทิศเหนือของ อุทยานแห่งชาติ อัลซูดาห์ (Al Soudah National Park) ได้
เข้าพักที่ Shafa Abha Hotel แล้วออกไปเที่ยว เมือง Abha
ค้นหาและจองที่พักใน Abha วันนี้
ทัวร์ชมประวัติศาสตร์ในเมืองหลวงรียาด (RIYADH)
รียาด (Riyadh) เมืองหลวงของซาอุดิอาระเบียที่เป็นแหล่งรวมสถานที่เชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญหลายแห่งของประเทศเอาไว้ นักท่องเที่ยวจะสัมผัสได้ถึงทั้งประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรมดั้งเดิมและวัฒนธรรมของประเทศซาอุดิอาระเบียได้เพียงแค่ไปเที่ยวที่แหล่งท่องเที่ยวของเมือง รียาด (Riyadh) เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามหากนักท่องเที่ยวต้องการออกไปเที่ยวนอกเมือง ก็จะเจอสถานที่โบราณทรงคุณค่าอื่นๆมากมายเช่นกัน อย่างเมือง อัดดิรอียะฮ์ (Ad Diriyah) หมู่บ้านมรดก Ushaiqer และหน้าผา Edge of the World
พระราชวังประวัติศาสตร์ Murabba เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่โด่งดังใน รียาด (Riyadh)พระราชวังแห่งนี้เคยเป็นพระราชวังของกษัตริย์และสร้างในสไตล์ Najdean นักท่องเที่ยวจะได้เห็นของใช้ส่วนตัว ของที่ระลึกและพระบรมฉายาลักษณ์ของกษัตริย์ และเดินชมสวนแสนสวยที่ล้อมรอบพระราชวังไว้ นอกจากนั้นจะได้เห็นรถโรลส์-รอยซ์ของกษัตริย์ที่ท่านได้รับเป็นของขวัญจากนายกรัฐมนตรีชาวอังกฤษ วินสตันเชอร์ชิลล์ในปี ค.ศ. 1946
จาก พระราชวัง (Murabba) เพียงแค่ขับรถลงมาทางใต้อีกนิดก็จะเจอ ป้อมมัสมัค (Masmak Fortress) กองทหารรักษาการณ์เก่าที่คอยปกป้องประเทศมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในเรื่องของความสวยงามด้านนอกที่ีเป็นป้อมปราการดิน ซึ่งในภายหลังได้กลายมาเป็นคลังเก็บอาวุธยุทธภัณฑ์ และหลังจากที่โดน Ibn Saud โจมตีป้อมปราการในปี ค.ศ. 1902 สถานที่แห่งนี้จึงกลายเป็นเรือนจำแทน
เมืองในประวัติศาสตร์ Ad Diriyah ตั้งอยู่ชานเมืองทางทิศตะวันตกของเมืองหลวง รียาด (Riyadh) และเป็นหนึ่งในแหล่งมรดกโลกขององค์กรยูเนสโกที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศ เมืองนี้เป็นเมืองหลวงเก่าของซาอุดิอาระเบียและเป็นบ้านของครอบครัว Al Saud นักท่องเที่ยวจะพบเจอกับทั้งความทันสมัยและความเป็นประวัติศาสตร์ของตัวเมือง ด้านที่เป็นความทันสมัยจะมีคาเฟ่ ร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึก อีกทั้งนักท่องเที่ยวยังสามารถข้ามสะพานถนน Wadi Hanifah ไปยังเขต Al Turaif ที่มีที่พักอาศัยของราชวงศ์โบราณ พิพิธภัณฑ์ Diriyah Museum และชิ้นส่วนทางประวัติศาสตร์อีกมากมายของเมือง Ad Diriyah จากเขต Al Turaif นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวต่อที่เขต Al Bujairi ได้เลย เขตนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางของความทันสมัยที่เต็มไปด้วยหอศิลป์ พิพิธภัณฑ์ มัสยิด และตลาดอีกมากมาย
เคล็ดลับการเดินทาง – Ad Diriyah กำลังอยู่ระหว่างการแปลงโฉมครั้งใหญ่เพื่อรอต้อนรับกระแสนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเข้ามาในประเทศ ตัวเมืองยังเปิดให้เยี่ยมชมแต่บางสถานที่อาจไม่สามารถเข้าไปได้
ขับรถมาทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองหลวง รียาด (Riyadh) ประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งก็จะเจอกับหมู่บ้านมรดก Ushaiqer เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่โด่งดังที่สุดในซาอุดิอาระเบีย หมู่บ้านที่มีกำแพงล้อมรอบมีบ้านดินสภาพสมบูรณ์กว่า 400 หลัง และมัสยิด 25 แห่ง นักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวชมหมู่บ้านได้ตามใจชอบเพื่อชื่นชมภายในของบ้านที่คัดสรรเอาไว้ให้ จารึกบนขอบประตู และสวนปาล์ม 7 สวนกระจายอยู่ทั่วทั้ง 7 เขตของหมู่บ้าน หมู่บ้านมรดก Ushaiqer มีทุกอย่างที่จะทำให้การท่องเที่ยวเป็นไปอย่างน่าพอใจสุดๆ นอกจากหมู่บ้านในประวัติศาสตร์แล้ว Ushaiqer ยังมีพิพิธภัณฑ์ ตลาด ร้านอาหาร มัสยิด ไกด์ท้องถิ่นและที่พักสำหรับแขกที่ต้องการใช้เวลายามค่ำคืนอีกด้วย
หน้าผา Edge of the World เป็นอีกทางเลือกที่ดีสำหรับการเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับจากเมืองหลวง รียาด (Riyadh) การที่จะได้เห็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และมหัศจรรย์กลางทะเลทรายเช่นนี้เป็นอะไรที่ห้ามพลาดเลยทีเดียว หากจะไปเที่ยวที่สิ่งมหัศจรรย์แห่งนี้ก็ออกจากรียาด Riyadh มาทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น หากใครเผื่อเวลาออกเดินทางไว้เยอะแล้วล่ะก็สามารถไปแวะเที่ยวที่ หมู่บ้านมรดก Ushaiqer ก็ได้เช่นเดียวกัน (ถึงแม้บางคนจะชอบเดินเขาทั้งวันที่ หน้าผา Edge of the World ก็ตาม) การก่อตัวของหินที่ยิ่งใหญ่ทำให้เห็นวิวสุดลูกหูลูกตาของหุบเขา Acacia Valley ของผา Tuwaiq Escarpment
เคล็บลับการเดินทาง – สิ่งที่นักท่องเที่ยวควรเตรียมเมื่อไปเที่ยวที่ หน้าผา Edge of the Worldได้แก่ น้ำ (ปริมาณมาก) อาหาร ครีมกันแดด และควรสวมเสื้อผ้าให้มิดชิด เพราะที่ หน้าผา Edge of the World ไม่มีที่ให้นั่งหลบแดดแม้แต่ที่เดียว อ๋อ! และอีกอย่างคือประตูทางเข้าจะปิดเวลา 18.00 นาฬิกา เพราะฉะนั้นนักท่องเที่ยวควรเผื่อเวลาในการขับรถสองชั่วโมงเพื่อกลับไปที่ประตูด้วยนะ
เข้าพักที่ Boudl Al Malaz Hotel และออกไปเที่ยวเมืองหลวง รียาด (Riyadh)
ค้นหาและจองที่พักในรียาดวันนี้
ขุดคุ้ยหาประวัติศาสตร์ทั้งสี่ชั้น ที่ AL TAYEBAT INTERNATIONAL CITY ใน เจดดาห์ (JEDDAH)
สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนที่อยากเรียนรู้เกี่ยวกับสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมของตะวันออกกลางควรวางแผนมาเที่ยวที่ Al Tayebat International City ในเมือง เจดดาห์ (Jeddah) สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่แค่พิพิธภัณฑ์ให้เดินเยี่ยมชมสถาปัตยกรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งรวมสิ่งของที่น่าสนใจที่สุดในประเทศ และยังมีสกุลเงิน เฟอร์นิเจอร์โบราณ อาวุธโบราณและต้นฉบับของคัมภีร์อัลกุลอานและสถานที่แห่งนี้ยังจัดแสดงบ้านจำลองจากทุกภูมิภาคของซาอุดิอาระเบียอีกด้วย
เข้าพักที่ Mena Airport Hotel Jeddah แล้วออกไปเที่ยว เจดดาห์ เจดดาห์ (Jeddah)
ค้นหาและจองที่พักในเจดดาห์วันนี้
สำรวจสถานที่ท่องเที่ยวในเจดดาห์อีกมากมายด้วย คู่มือท่องเที่ยวเจดดาห์
ค้นพบสมบัติที่ซ่อนอยู่ในจังหวัดทางตะวันออก AL AHSA และ AL HOFUF
ที่ขอบทางใต้ของเมือง อัลโฮฟัฟ (Al Hofuf) นักท่องเที่ยวจะเจอกับชุมชนทางประวัติศาสตร์ของ Al Ahsa หรือเป็นที่รู้จักว่าโอเอซิสในทะเลทราย หมู่บ้านนี้เป็นหนึ่งในหมู่บ้านแรกๆ ที่มีผู้อาศัยในภูมิภาคนี้ที่เรียกว่า Empty Quarter พื้นที่แห่งนี้เป็นจุดแวะพักที่สำคัญมากๆ สำหรับนักเดินทางที่เดินทางไปเมกกะจากฝั่งตะวันออก สถานที่แห่งนี้มีซากโบราณสถานที่สมบูรณ์รวมถึงต้นปาล์มประมาณสองล้านต้นที่ให้ผลผลิตมากกว่า 100,000 ตันต่อปี
ขณะเที่ยวท ี่อัลโฮฟัฟ (Al Hofuf)นักท่องเที่ยวต้องแวะซื้อของฝากที่ตลาด Qaisariah Souq ตลาดแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ 1822 และเป็นตลาดที่เก่าแก่ที่สุดในซาอุดิอาระเบียมากกว่า 400 ร้านเรียงรายบนถนนเส้นโบราณของตลาดและอยู่ในระยะที่เดินได้จากจุดท่องเที่ยวอื่นๆ อย่าง วัง อิบราฮืม (Ibrahim Palace) House of Allegiance ตลาดปลาอัลโฮฟัฟ (Al Hofuf Fish Market) และ มัสยิดกุบาอ์ ที่อยู่ในศูนย์รวมประวัติศาสตร์ของ อัลโฮฟัฟ (Al Hofuf)
ทริปที่ Al Ahsa และ อัลโฮฟัฟ (Al Hofuf) จะไม่สมบูรณ์หากไม่ได้ไปเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับที่ Yellow Lake ที่ตั้งอยู่ทางด้านเหนือของ อุทยานแห่งชาติ Al Ahsa Yellow Lake เกิดขึ้นจากน้ำที่ไหลผ่านเพื่อหล่อเลี้ยงฟาร์มมากกว่า 22,000 ฟาร์มในพื้นที่ สถามที่นี้สามารถเข้าถึงได้ด้วยรถประเภท SUV เท่านั้น และนักท่องเที่ยวจะต้องหาไกด์ท้องถิ่นเพื่อให้นำทางไป Yellow Lake นอกจากจะเป็นพื้นที่ที่ร่มรื่นสำหรับการปิกนิกและเดินป่าโดยเฉพาะแล้ว ยังเหมาะกับการดูนกสุดๆ อีกด้วย
Devil’s Thumb เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนุกที่นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจพื้นที่ทะเลทรายกับสังคมชนบทอย่าง Judah ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งจากทางตะวันตกเฉียงเหนือของ อัลโฮฟัฟ (Al Hofuf) นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมทัวร์แบบไปเช้าเย็นกลับเพื่อเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ได้ Devil’s Thumb เป็นการก่อตัวทางธรณีวิทยาที่ยื่นออกมากลางทะทราย (แบบงงๆ) สำรวจสถานที่ใกล้เคียงที่เต็มไปด้วยถ้ำและการก่อตัวของหินและดูคาราวานอูฐเดินอยู่ในทะเลทราย บางทัวร์จะมีการค้างคืนในแคมป์สไตล์เบดูอินที่ต้องแนะนำเลยโดยเฉพาะสำหรับนักดูดาวที่ชอบภาพชัดๆ ของดวงดาวในท้องฟ้ายามค่ำคืน
เข้าพักที่ Garden Plaza Hotel แล้วออกไปเที่ยวที่ Al Hofuf
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
เริ่มต้นการเดินทางที่มีชีวิตชีวาในเมืองฮัวเหลียน ประเทศไต้หวัน ด้วยคู่มือการเดินทางที่ดีที่สุดของเรา ตั้งแต่การผจญภัยในตลาดกลางคืนอันน่าตื่นเต้นไปจนถึงการหลีกหนีจากธรรมชาติอันเงียบสงบและการสำรวจวัฒนธรรม ค้นพบแก่นแท้ของฮัวเหลียนและสร้างความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือน
เจาะลึกคู่มือการเดินทางฮิโรชิม่า 4 วันของเรา สำรวจสถานที่อันเป็นเอกลักษณ์ อัญมณีที่ซ่อนอยู่ และอาหารเลิศรส จากสวนอนุสรณ์สันติภาพไปจนถึงถนนอันมีเสน่ห์ของโอโนะมิจิ ค้นพบจิตวิญญาณที่มีชีวิตชีวาและความงามอันเงียบสงบของฮิโรชิมะ
ค้นพบการผสมผสานอันน่าหลงใหลของงานฝีมือแบบดั้งเดิมและสิ่งของสมัยใหม่ในคู่มือช้อปปิ้งในฟูจิคาวากุจิโกะขั้นสูงสุดของเรา สำรวจร้านค้างานฝีมือ ตลาดท้องถิ่น และของที่ระลึกอันเป็นเอกลักษณ์โดยมีฉากหลังอันงดงามของภูเขาไฟฟูจิ
เริ่มต้นการเดินทาง 3 วันผ่านฉากดนตรีแจ๊สและบลูส์อันเก่าแก่ของชิคาโก ตั้งแต่คลับอันโด่งดังไปจนถึงการแสดงสด ค้นพบจิตวิญญาณแห่ง Windy City อ่านเลย!
ดำดิ่งสู่แหล่งอาหารที่มีชีวิตชีวาของฮูสตันด้วยคู่มือการเดินทางด้านการทำอาหาร 4 วันของเรา ตั้งแต่บาร์บีคิวอันเป็นเอกลักษณ์ไปจนถึงอาหารนานาชาติ สำรวจรสนิยมที่ทำให้ฮูสตันกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักชิม
ดำดิ่งสู่สถานบันเทิงยามค่ำคืนอันมีชีวิตชีวาและแหล่งทำอาหารของกรุงโรมพร้อมไกด์ของเรา ตั้งแต่บาร์ไวน์ที่ซ่อนอยู่ไปจนถึงร้านอาหารแบบดั้งเดิม ลิ้มลองรสชาติและประวัติศาสตร์อันยาวนานของเมือง
ไขความลับของโรงแรมบูติกที่มีเสน่ห์ที่สุดในบาร์เซโลนา ที่ซึ่งความหรูหรามาบรรจบกับบริการที่เป็นส่วนตัว สำรวจคู่มือที่คัดสรรแล้วของเราเพื่อค้นหาอัญมณีที่ซ่อนอยู่ซึ่งมอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ความสะดวกสบายที่ไม่มีใครเทียบได้ และประตูสู่ใจกลางเมืองหลวงอันมีชีวิตชีวาของคาตาโลเนีย
ค้นพบกูชิง: คู่มือฉบับสมบูรณ์เกี่ยวกับอัญมณีที่ซ่อนอยู่ของเกาะบอร์เนียว สำรวจสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ฉากวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา อุทยานแห่งชาติอันเขียวชอุ่ม และอาหารเลิศรส
ค้นพบเกาะบาตัม อัญมณีที่ซ่อนอยู่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พร้อมคู่มือการเดินทางที่ดีที่สุดของเรา สำรวจชายหาดที่บริสุทธิ์ วัฒนธรรมอันมั่งคั่ง อาหารรสเลิศ และการผจญภัยอันน่าตื่นเต้น
ปลดล็อกสิ่งที่ดีที่สุดของหวุงเต่าด้วยคู่มือโรงแรมริมน้ำชั้นนำของเรา! สัมผัสประสบการณ์ความหรูหรา ทิวทัศน์ และทางเข้าชายหาดที่ไม่มีใครเทียบได้เพื่อการพักผ่อนริมทะเลที่สมบูรณ์แบบ
เริ่มต้นการเดินทางที่น่าจดจำในเมลเบิร์นด้วยคู่มือการเดินทาง 3 วันที่ครอบคลุมของเรา จากตรอกซอกซอยอันเป็นเอกลักษณ์และสตรีทอาร์ตไปจนถึงสวนเขียวชอุ่มและสถานบันเทิงยามค่ำคืน ไขความลับของเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมของออสเตรเลีย
ดำดิ่งสู่สถานบันเทิงยามค่ำคืนที่มีชีวิตชีวาของเซมารังด้วยแผนการเดินทาง 5 คืนสุดพิเศษของเรา จากการเดินชมประวัติศาสตร์ใต้แสงดาวไปจนถึงบาร์ริมชายหาดและสถานที่แสดงดนตรีสด ค้นพบความลับที่ดีที่สุดของเมืองกับอโกด้า
เริ่มต้นการเดินทางที่น่าจดจำในเมืองมาลังด้วยคู่มือท่องเที่ยวที่ครอบคลุมของเรา ค้นพบวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวาของเมือง สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่น่าทึ่ง และอาหารเลิศรส
เริ่มต้นการเดินทางอันมีรสชาติผ่านจังหวัดชลบุรีไปกับ Food Lover's Guide ของเรา ค้นพบอัญมณีที่ซ่อนอยู่ อาหารท้องถิ่น และประสบการณ์การรับประทานอาหารที่น่าจดจำในสวรรค์ริมชายฝั่งของประเทศไทย
เริ่มต้นการผจญภัยที่มีรสชาติในเมือง Tangerang พร้อมไกด์ทำอาหาร 3 วันของเรา ค้นพบอาหารแบบดั้งเดิม อัญมณีที่ซ่อนอยู่ และประสบการณ์การรับประทานอาหารที่น่าจดจำในเมืองแห่งความสุขทางอาหารของอินโดนีเซีย
ค้นพบความงามอันเงียบสงบของคาเมรอนไฮแลนด์ด้วยแผนการเดินทาง 3 วันสุดพิเศษของเรา ตั้งแต่ไร่ชาอันเขียวชอุ่มไปจนถึงฟาร์มสตรอเบอร์รี่แสนหวานและการเดินป่าอันลึกลับ เริ่มต้นการเดินทางที่น่าจดจำ
ค้นพบสิ่งที่ดีที่สุดของกวนตันใน 3 วันอันน่าจดจำ เจาะลึกคู่มือของเราสำหรับแผนการเดินทางที่ดีที่สุดซึ่งครอบคลุมชายหาดอันเงียบสงบ วัฒนธรรมท้องถิ่นอันอุดมสมบูรณ์ และอาหารเลิศรส
เริ่มต้นการเดินทาง 3 วันอันน่าหลงใหลผ่านเมืองฮัวเหลียน ประเทศไต้หวัน สำรวจช่องเขาทาโรโกะ ดื่มด่ำกับอาหารท้องถิ่น และค้นพบอัญมณีที่ซ่อนอยู่ด้วยแผนการเดินทางที่ครอบคลุมของเรา
ดำดิ่งสู่สุดสัปดาห์แห่งการสำรวจกับแผนการเดินทางในเถาหยวนของเรา! ค้นพบการผสมผสานที่ลงตัวของประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ และอาหารในเวลาเพียงสองวัน วางแผนการพักผ่อนที่น่าจดจำของคุณด้วยประสบการณ์ชั้นนำและอัญมณีล้ำค่าที่ซ่อนอยู่ในเถาหยวน
ปลดล็อกความงามอันเงียบสงบของฟูจิคาวากูจิโกะด้วยแผนการเดินทาง 3 วันของเรา สำรวจภูเขาไฟฟูจิอันยิ่งใหญ่ อัญมณีแห่งวัฒนธรรม และออนเซ็นอันผ่อนคลาย
ค้นพบฮิโรชิม่าผ่านแผนการเดินทาง 3 วัน: จากสวนอนุสรณ์สันติภาพไปจนถึงความเงียบสงบของเกาะมิยาจิมะ เริ่มต้นการเดินทางแห่งความสงบ ความยืดหยุ่น และความงดงาม
นักผจญภัยท่านไหนที่ต้องการเที่ยวนอกเส้นทางเดิมๆ มั่นใจได้เลยว่าจะเจอกับแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ในซาอุดิอาระเบียหลายแห่งแน่นอน เพราะการท่องเที่ยวแบบเปิดในประเทศซาอุดิอาระเบีย สถานที่อย่าง หมู่บ้านมรดก Ushaiqer และ โอเอซิส Al Ahsa ได้เปิดพร้อมสำหรับการสำรวจ มี่จะทำให้นักท่องเที่ยวหลงรักแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์เหล่านี้ทุกๆ วัน ถึงแม้ว่าการเดินทางท่ามกลางทะเลทราย สำรวจถ้ำ หรือเดินป่าที่ยากลำบากไม่ได้จำเป็นที่จะอยู่ในแผนเที่ยว เราจะพบว่ามีอีกหลายสถานที่ที่จะพาเราย้อนเวลาไปในเมืองรียาดหรือเมืองหลวงของซาอุดิอาระเบียนั่นเอง
สำรวจแหล่งท่องเที่ยวที่อุดมสมบูรณ์และดึงดูดนักเที่ยวมากที่สุดในอัลอูลา
ไกลออกไปประมาณสี่ชั่วโมงจากทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง เมดินา (Medina) คือที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญของซาอุดิอาระเบียที่กำลังมาแรงเมือง อัล อูลา (Al Ula) กำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงเพื่อรอต้อนรับนักท่องเที่ยวที่คาดว่าน่าจะเข้ามาเยียมชมประเทศอย่างล้นหลาม หมู่บ้านโบราณเปรียบเสมือนโอเอซิสท่ามกลางหุบเขาทะเลทรายของเมือง เมดินา (Medina) และตั้งอยู่บนถนนประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นเส้นทางโบราณที่ช่วยกระตุ้นการค้าระหว่างอินเดียกับตะวันออกกลางเรียกว่าเส้นทางสายเครื่องหอม (Incense Road) นั่นเอง
อัลอูลา (Al Ula) ยังคงเสน่ห์ของประวัติศาสตร์ไว้มากมาย โดยเฉพาะที่ หมู่บ้านมรดก Al Ula ที่นักท่องเที่ยวจะได้เห็นบ้านดินที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ดีสุดในโลก นักโบราณคดีเชื่อว่ากว่า 800 หลังมีอายุอย่างน้อย 2,000 ปี นอกเหนือจาก หมู่บ้านมรดก Al Ula นักท่องเที่ยวยังสามารถแวะไปที่ พิพิธภัณฑ์ Al Ula เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเมือง วัฒนธรรมอิสลาม และพืชพื้นเมืองในฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของซาอุดิอาระเบีย
ขับรถไปแค่ 30 นาทีก็จะเจอเมือง มาเดนซาเลห์ (Madain Saleh) ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญและเหตุผลหลักที่นักท่องเที่ยวชอบไปเที่ยว อัลอูลา (Al Ula) โบราณสถานที่แสดงซากของราชอาณาจักรแนบาเทีย (Nabataean kingdom) ในสภาพที่เกือบสมบูรณ์และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในซาอุดิอาระเบีย นักท่องเที่ยวยังสามารถเยี่ยมชมสุสานหินแกะสลักที่ยิ่งใหญ่เรียงรายกันกว่า 131 สุสาน ซึ่งเป็นที่รวบรวมโครงสร้างที่โด่งดังของนครเปตรา (Petra)
ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปจาก มาเดน ซาเลห์ (Madain Saleh) ก็จะเป็น พิพิธภัณฑ์รถไฟเฮจาซ (Hejaz Railway Museum) ซึ่งเป็นจุดสำคัญส่วนหนึ่งของเครือข่ายรถไฟ ออตโตมัน (Ottoman) ที่ครั้งหนึ่งเคยวิ่งผ่านเฮจาซ (Hejaz) หรือภาคตะวันตกซาอุดิ ผู้เข้าชมจะได้เรียนรู้ว่าระบบขนส่งมีความสำคัญต่อศาสนาอิสลามเช่นไรและจะได้เห็นซากปรักหักพังของ สถานีอัลอูลา (Al Ula Station) รวมไปถึงเส้นทางและรถไฟดั้งเดิม (สถานีดั้งเดิมโดนวางระเบิดโดยชาวอังกฤษในปีคริสต์ศักราช 1917 แต่ยังคงเหลือให้เห็นในเมือง อัลอูลา (Al Ula) นักท่องเที่ยวสามารถแวะชมและถ่ายรูปซากปรักหักพังได้แต่ไม่สามารถเข้าไปด้านในได้) เส้นทางรถไฟ Hejaz เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่จักรวรรดิออตโตมันเสนอขึ้นมาในช่วงต้นของคริสต์ศตวรรษที่ 20 ที่หวังให้การเดินทางของชาวมุสลิมที่อยู่ห่างไกลไปแสวงบุญที่เมดินา (Medina) ง่ายขึ้น แต่เนื่องจากค่าใช้จ่ายมหาศาลและความยุ่งยากในการก่อสร้างในช่วงเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง โครงการจึงถูกยกเลิกและไม่เคยได้กลับมาทำอีกเลย องค์การยูเนสโกยกย่องให้ซากที่เหลือของสายรถไฟที่ขยายจากเมืองดามาสกัส (Damascus) ประเทศไซเรีย มาที่ เมดินา (Medina) ประเทศซาอุดิอาระเบียเป็นมรดกของโลกและเป็นสถานที่ที่ทรงคุณค่าที่สุดในซาอุดิอาระเบีย
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดและอยู่ใกล้ๆกัน คือ Elephant Mountain หรือบางทีเรียกว่า Elephant Rock ที่นักท่องเที่ยวสามารถรับชมการก่อตัวของทรายในทางธรณีวิทยาของเมือง เฮจาซ (Hejaz) หรือจังหวัดทางตะวันตกจนกลายเป็นก้อนขนาดใหญ่เกือบเท่าภูเขาที่มีลักษณะคล้ายช้าง สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่าง อัลอูลา (Al Ula) และ มาเดนซาเลห์ (Madain Saleh) ไกด์ในพื้นที่ชอบนักที่จะพานักท่องเที่ยวไปยังสถานที่แห่งนี้
เข้าพักที่ Al Ula Arac Resort แล้วออกไปเที่ยวที่เมือง อัลอูลา (Al Ula)
ค้นหาและจองที่พักราคาดีที่สุดในอัลอูลา (AL ULA) วันนี้
ย้อนเวลาไปในจังหวัด ASIR (ASEER)
นักท่องเที่ยวควรแวะไปที่เมือง อับฮา Abha ที่ จังหวัด Asir เพราะจะได้เห็นภาพทางประวัติศาสตร์ที่เป็นเอกลักษณ์มากที่สุดในซาอุดิอาระเบีย เมืองแห่งนี้มีชื่อเสียงด้านทิวทัศน์ทางภูเขาและสภาพอากาศที่เย็นสบาย และมีบ้านดินที่โด่งดัง ที่พักอาศัยโบราณบางแห่งมีความสูงมากกว่าสามชั้นและกำแพงที่หนาทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเห็นภาพได้ว่าอารยธรรมโบราณเป็นอย่างไร บ้านหลายหลังตั้งอยู่ที่ขอบชานเมือง อับฮา Abha นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมสถานที่ได้อย่างตามใจก็จริงแต่หากใช้บริการไกด์ก็ถือว่าเป็นอีกทางเลือกที่ดีกว่าที่จะสำรวจสถานที่เหล่านี้ได้ดียิ่งขึ้น เพราะไกด์ท้องถิ่นจะรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของบ้านและสามารถอธิบายได้แบบเจาะลึกเกี่ยวกับโครงสร้างของมันโดยเฉพาะวัสดุและเทคนิคที่ใช้สร้าง
หมู่บ้านศิลปะ Al Muftaha ที่อยู่ด้านนอกใจกลางเมือง อับฮาเป็นหมู่บ้านที่เกิดจากการปะทะกันระหว่างความดั้งเดิมกับความเป็นสมัยใหม่ ย่านศิลปะสีสันหลากหลายที่มีภาพจิตกรรมฝาผนังและผลงานสร้างสรรค์ของนักเรียนศิลปะท้องถิ่นรวมกันอยู่ในรั้วกำแพงผาสุกของหมู่บ้านเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่ช่วงกลางปี ค.ศ. 1700 นักท่องเที่ยวสามารถเดินลัดเลาะหมู่บ้านเพื่อชื่นชมความงามของสถาปัตยกรรมและงานศิลปะไปพร้อมๆ กัน หลังจากนั้นจะเจอตลาด Muftaha Village and Traditional Market ที่ขายภาพวาด ของทำมือ และผลิตภัณฑ์พื้นเมือง
พิพิธภัณฑ์โบราณคดี Al Muftaha ตั้งอยู่กลาง หมู่บ้านศิลปะ Al Muftaha ซึ่งก่อตั้งขึ้นช่วงปลายปี ค.ศ. 1800 ที่พิพิธภัณฑ์มีอยู่ 3 เรื่องราวที่เต็มไปด้วยสิ่งประดิษฐ์ทางประวัติศาสตร์และคำอธิบายเกี่ยวกับประเพณีท้องถิ่น นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับการหล่อโลหะ งานไม้ และการแกะสลักว่าส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมการค้าในท้องถิ่นและทำให้ค้นพบวิธีการเพาะปลูกระดับภูมิภาคได้อย่างไร
เดินจาก หมู่บ้านศิลปะ Al Muftaha เพียง 15 นาที ก็จะเจอกับ พระราชวังโบราณ Shada สถานที่แห่งนี้ควรเป็นส่วนหนึ่งของทุกแผนการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ใน อับฮา Abha อดีตพระราชวังปกครองหลักใน อับฮา Abha กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงของตกแต่งและอุปกรณ์ที่เคยใช้ในพระราชวัง นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปที่ยอดหอคอยดินเพื่อชมวิวของเมือง อับฮา Abha ด้านล่าง สิ่งที่น่าสังเกตคือหอคอยจะมีหน้าต่างเพียงไม่กี่บานเพื่อรักษาความปลอดภัยของผู้ว่าการที่อาศัยอยู่ที่นั่น
ภูเขา Jabal Sawda (Jabal Al Soodah) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เด่นที่สุดในซาอุดิอาระเบียและแหล่งท่องเที่ยวที่ควรไปในเมือง อับฮา Abha เนื่องจากเป็นภูเขาที่สูงที่สุดของประเทศที่มีความสูงถึง 3,133 เมตร ด้านล่างภูเขาเป็น อุทยานแห่งชาติ อัลซูดาห์ (Al Soudah National Park) ที่สวยงามและเหมาะกับการเดินเขาเป็นอย่างมาก สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่อยากเดินเขาก็สามารถนั่งกระเช้าลอยฟ้าในเมือง อับฮา Abha ทางทิศเหนือของ อุทยานแห่งชาติ อัลซูดาห์ (Al Soudah National Park) ได้
เข้าพักที่ Shafa Abha Hotel แล้วออกไปเที่ยว เมือง Abha
ค้นหาและจองที่พักใน Abha วันนี้
ทัวร์ชมประวัติศาสตร์ในเมืองหลวงรียาด (RIYADH)
รียาด (Riyadh) เมืองหลวงของซาอุดิอาระเบียที่เป็นแหล่งรวมสถานที่เชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญหลายแห่งของประเทศเอาไว้ นักท่องเที่ยวจะสัมผัสได้ถึงทั้งประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรมดั้งเดิมและวัฒนธรรมของประเทศซาอุดิอาระเบียได้เพียงแค่ไปเที่ยวที่แหล่งท่องเที่ยวของเมือง รียาด (Riyadh) เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามหากนักท่องเที่ยวต้องการออกไปเที่ยวนอกเมือง ก็จะเจอสถานที่โบราณทรงคุณค่าอื่นๆมากมายเช่นกัน อย่างเมือง อัดดิรอียะฮ์ (Ad Diriyah) หมู่บ้านมรดก Ushaiqer และหน้าผา Edge of the World
พระราชวังประวัติศาสตร์ Murabba เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่โด่งดังใน รียาด (Riyadh)พระราชวังแห่งนี้เคยเป็นพระราชวังของกษัตริย์และสร้างในสไตล์ Najdean นักท่องเที่ยวจะได้เห็นของใช้ส่วนตัว ของที่ระลึกและพระบรมฉายาลักษณ์ของกษัตริย์ และเดินชมสวนแสนสวยที่ล้อมรอบพระราชวังไว้ นอกจากนั้นจะได้เห็นรถโรลส์-รอยซ์ของกษัตริย์ที่ท่านได้รับเป็นของขวัญจากนายกรัฐมนตรีชาวอังกฤษ วินสตันเชอร์ชิลล์ในปี ค.ศ. 1946
จาก พระราชวัง (Murabba) เพียงแค่ขับรถลงมาทางใต้อีกนิดก็จะเจอ ป้อมมัสมัค (Masmak Fortress) กองทหารรักษาการณ์เก่าที่คอยปกป้องประเทศมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในเรื่องของความสวยงามด้านนอกที่ีเป็นป้อมปราการดิน ซึ่งในภายหลังได้กลายมาเป็นคลังเก็บอาวุธยุทธภัณฑ์ และหลังจากที่โดน Ibn Saud โจมตีป้อมปราการในปี ค.ศ. 1902 สถานที่แห่งนี้จึงกลายเป็นเรือนจำแทน
เมืองในประวัติศาสตร์ Ad Diriyah ตั้งอยู่ชานเมืองทางทิศตะวันตกของเมืองหลวง รียาด (Riyadh) และเป็นหนึ่งในแหล่งมรดกโลกขององค์กรยูเนสโกที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศ เมืองนี้เป็นเมืองหลวงเก่าของซาอุดิอาระเบียและเป็นบ้านของครอบครัว Al Saud นักท่องเที่ยวจะพบเจอกับทั้งความทันสมัยและความเป็นประวัติศาสตร์ของตัวเมือง ด้านที่เป็นความทันสมัยจะมีคาเฟ่ ร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึก อีกทั้งนักท่องเที่ยวยังสามารถข้ามสะพานถนน Wadi Hanifah ไปยังเขต Al Turaif ที่มีที่พักอาศัยของราชวงศ์โบราณ พิพิธภัณฑ์ Diriyah Museum และชิ้นส่วนทางประวัติศาสตร์อีกมากมายของเมือง Ad Diriyah จากเขต Al Turaif นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวต่อที่เขต Al Bujairi ได้เลย เขตนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางของความทันสมัยที่เต็มไปด้วยหอศิลป์ พิพิธภัณฑ์ มัสยิด และตลาดอีกมากมาย
เคล็ดลับการเดินทาง – Ad Diriyah กำลังอยู่ระหว่างการแปลงโฉมครั้งใหญ่เพื่อรอต้อนรับกระแสนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเข้ามาในประเทศ ตัวเมืองยังเปิดให้เยี่ยมชมแต่บางสถานที่อาจไม่สามารถเข้าไปได้
ขับรถมาทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองหลวง รียาด (Riyadh) ประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งก็จะเจอกับหมู่บ้านมรดก Ushaiqer เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่โด่งดังที่สุดในซาอุดิอาระเบีย หมู่บ้านที่มีกำแพงล้อมรอบมีบ้านดินสภาพสมบูรณ์กว่า 400 หลัง และมัสยิด 25 แห่ง นักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวชมหมู่บ้านได้ตามใจชอบเพื่อชื่นชมภายในของบ้านที่คัดสรรเอาไว้ให้ จารึกบนขอบประตู และสวนปาล์ม 7 สวนกระจายอยู่ทั่วทั้ง 7 เขตของหมู่บ้าน หมู่บ้านมรดก Ushaiqer มีทุกอย่างที่จะทำให้การท่องเที่ยวเป็นไปอย่างน่าพอใจสุดๆ นอกจากหมู่บ้านในประวัติศาสตร์แล้ว Ushaiqer ยังมีพิพิธภัณฑ์ ตลาด ร้านอาหาร มัสยิด ไกด์ท้องถิ่นและที่พักสำหรับแขกที่ต้องการใช้เวลายามค่ำคืนอีกด้วย
หน้าผา Edge of the World เป็นอีกทางเลือกที่ดีสำหรับการเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับจากเมืองหลวง รียาด (Riyadh) การที่จะได้เห็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และมหัศจรรย์กลางทะเลทรายเช่นนี้เป็นอะไรที่ห้ามพลาดเลยทีเดียว หากจะไปเที่ยวที่สิ่งมหัศจรรย์แห่งนี้ก็ออกจากรียาด Riyadh มาทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น หากใครเผื่อเวลาออกเดินทางไว้เยอะแล้วล่ะก็สามารถไปแวะเที่ยวที่ หมู่บ้านมรดก Ushaiqer ก็ได้เช่นเดียวกัน (ถึงแม้บางคนจะชอบเดินเขาทั้งวันที่ หน้าผา Edge of the World ก็ตาม) การก่อตัวของหินที่ยิ่งใหญ่ทำให้เห็นวิวสุดลูกหูลูกตาของหุบเขา Acacia Valley ของผา Tuwaiq Escarpment
เคล็บลับการเดินทาง – สิ่งที่นักท่องเที่ยวควรเตรียมเมื่อไปเที่ยวที่ หน้าผา Edge of the Worldได้แก่ น้ำ (ปริมาณมาก) อาหาร ครีมกันแดด และควรสวมเสื้อผ้าให้มิดชิด เพราะที่ หน้าผา Edge of the World ไม่มีที่ให้นั่งหลบแดดแม้แต่ที่เดียว อ๋อ! และอีกอย่างคือประตูทางเข้าจะปิดเวลา 18.00 นาฬิกา เพราะฉะนั้นนักท่องเที่ยวควรเผื่อเวลาในการขับรถสองชั่วโมงเพื่อกลับไปที่ประตูด้วยนะ
เข้าพักที่ Boudl Al Malaz Hotel และออกไปเที่ยวเมืองหลวง รียาด (Riyadh)
ค้นหาและจองที่พักในรียาดวันนี้
ขุดคุ้ยหาประวัติศาสตร์ทั้งสี่ชั้น ที่ AL TAYEBAT INTERNATIONAL CITY ใน เจดดาห์ (JEDDAH)
สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนที่อยากเรียนรู้เกี่ยวกับสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมของตะวันออกกลางควรวางแผนมาเที่ยวที่ Al Tayebat International City ในเมือง เจดดาห์ (Jeddah) สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่แค่พิพิธภัณฑ์ให้เดินเยี่ยมชมสถาปัตยกรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งรวมสิ่งของที่น่าสนใจที่สุดในประเทศ และยังมีสกุลเงิน เฟอร์นิเจอร์โบราณ อาวุธโบราณและต้นฉบับของคัมภีร์อัลกุลอานและสถานที่แห่งนี้ยังจัดแสดงบ้านจำลองจากทุกภูมิภาคของซาอุดิอาระเบียอีกด้วย
เข้าพักที่ Mena Airport Hotel Jeddah แล้วออกไปเที่ยว เจดดาห์ เจดดาห์ (Jeddah)
ค้นหาและจองที่พักในเจดดาห์วันนี้
สำรวจสถานที่ท่องเที่ยวในเจดดาห์อีกมากมายด้วย คู่มือท่องเที่ยวเจดดาห์
ค้นพบสมบัติที่ซ่อนอยู่ในจังหวัดทางตะวันออก AL AHSA และ AL HOFUF
ที่ขอบทางใต้ของเมือง อัลโฮฟัฟ (Al Hofuf) นักท่องเที่ยวจะเจอกับชุมชนทางประวัติศาสตร์ของ Al Ahsa หรือเป็นที่รู้จักว่าโอเอซิสในทะเลทราย หมู่บ้านนี้เป็นหนึ่งในหมู่บ้านแรกๆ ที่มีผู้อาศัยในภูมิภาคนี้ที่เรียกว่า Empty Quarter พื้นที่แห่งนี้เป็นจุดแวะพักที่สำคัญมากๆ สำหรับนักเดินทางที่เดินทางไปเมกกะจากฝั่งตะวันออก สถานที่แห่งนี้มีซากโบราณสถานที่สมบูรณ์รวมถึงต้นปาล์มประมาณสองล้านต้นที่ให้ผลผลิตมากกว่า 100,000 ตันต่อปี
ขณะเที่ยวท ี่อัลโฮฟัฟ (Al Hofuf)นักท่องเที่ยวต้องแวะซื้อของฝากที่ตลาด Qaisariah Souq ตลาดแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ 1822 และเป็นตลาดที่เก่าแก่ที่สุดในซาอุดิอาระเบียมากกว่า 400 ร้านเรียงรายบนถนนเส้นโบราณของตลาดและอยู่ในระยะที่เดินได้จากจุดท่องเที่ยวอื่นๆ อย่าง วัง อิบราฮืม (Ibrahim Palace) House of Allegiance ตลาดปลาอัลโฮฟัฟ (Al Hofuf Fish Market) และ มัสยิดกุบาอ์ ที่อยู่ในศูนย์รวมประวัติศาสตร์ของ อัลโฮฟัฟ (Al Hofuf)
ทริปที่ Al Ahsa และ อัลโฮฟัฟ (Al Hofuf) จะไม่สมบูรณ์หากไม่ได้ไปเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับที่ Yellow Lake ที่ตั้งอยู่ทางด้านเหนือของ อุทยานแห่งชาติ Al Ahsa Yellow Lake เกิดขึ้นจากน้ำที่ไหลผ่านเพื่อหล่อเลี้ยงฟาร์มมากกว่า 22,000 ฟาร์มในพื้นที่ สถามที่นี้สามารถเข้าถึงได้ด้วยรถประเภท SUV เท่านั้น และนักท่องเที่ยวจะต้องหาไกด์ท้องถิ่นเพื่อให้นำทางไป Yellow Lake นอกจากจะเป็นพื้นที่ที่ร่มรื่นสำหรับการปิกนิกและเดินป่าโดยเฉพาะแล้ว ยังเหมาะกับการดูนกสุดๆ อีกด้วย
Devil’s Thumb เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนุกที่นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจพื้นที่ทะเลทรายกับสังคมชนบทอย่าง Judah ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งจากทางตะวันตกเฉียงเหนือของ อัลโฮฟัฟ (Al Hofuf) นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมทัวร์แบบไปเช้าเย็นกลับเพื่อเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ได้ Devil’s Thumb เป็นการก่อตัวทางธรณีวิทยาที่ยื่นออกมากลางทะทราย (แบบงงๆ) สำรวจสถานที่ใกล้เคียงที่เต็มไปด้วยถ้ำและการก่อตัวของหินและดูคาราวานอูฐเดินอยู่ในทะเลทราย บางทัวร์จะมีการค้างคืนในแคมป์สไตล์เบดูอินที่ต้องแนะนำเลยโดยเฉพาะสำหรับนักดูดาวที่ชอบภาพชัดๆ ของดวงดาวในท้องฟ้ายามค่ำคืน
เข้าพักที่ Garden Plaza Hotel แล้วออกไปเที่ยวที่ Al Hofuf
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ