ทริปเดินป่าในลาว – ผจญภัยไปกับการเดินป่าในดินแดนที่น้อยคนจะได้สัมผัส

นักท่องเที่ยวที่อยากหลบหลีกความวุ่นวายไปสัมผัสธรรมชาติแสนบริสุทธิ์ควรรีบผูกเชือกรองเท้าเดินป่าให้แน่น แล้วพุ่งตัวไปประเทศลาวโดยด่วน ถ้าว่าด้วยเรื่องการท่องเที่ยวผจญภัยกลางแจ้ง ดินแดนทรงเสน่ห์แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ถือว่าถูกมองข้ามทั้งที่มีทีเด็ดอยู่มากมาย เหล่าแบกแพกเกอร์ที่มาเดินป่าในประเทศลาวจะได้หลุดออกจากโลกวุ่นวาย ไปกินอยู่กับชาวบ้าน และได้พบกับน้ำใจไมตรีอันแสนอบอุ่นจากคนลาว ที่นี่ไม่ใช่แค่แดนสวรรค์สำหรับนักเดินป่าขาโหด แต่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฝันสำหรับคอกีฬาผาดโผนที่อยากการปีนหน้าผาป่าหินปูน พายเรือคายักในแม่น้ำโขง หรือปั่นจักรยานเสือภูเขาแหวกป่าฝ่าดง พูดง่ายๆ ก็คือลาวเป็นแหล่งรวมกิจกรรมเดินป่าและกีฬาผาดโผนสุดระทึก และต่อไปนี้คือสถานที่เที่ยวและกิจกรรมดีๆ ที่เราอยากแนะนำให้ได้ลอง

เดินป่าประเทศลาว – เส้นทางและคำแนะนำสำหรับมือใหม่และนักท่องเที่ยว

ลองนึกภาพทริปเดินป่าในฝันที่คุณกำลังย่ำฝ่าป่าฝนที่รายล้อมด้วยไร่กาแฟขั้นบันไดตามไหล่เขาซึ่งห่มคลุมด้วยหมอกบางๆ แล้วไปโผล่ยังหมู่บ้านที่ชาวบ้านออกมาต้อนรับขับสู้ เสิร์ฟกาแฟร้อนและข้าวซอยอุ่นๆ ชามหนึ่ง ก่อนยกน้ำมาให้แล้วโค้งคำนับอย่างสุภาพ อวยพรให้คุณเดินทางโดยสวัสดิภาพ และนั่นคือการเดินป่าในประเทศลาว ที่ที่นักท่องไพรจะได้สัมผัสวัฒนธรรมลาวพร้อมบรรยากาศแบบชนบท ประเทศลาวมีสถานที่มากมายให้นักเดินป่าได้ดื่มด่ำธรรมชาติและชื่นชมความงามของเส้นทางเดินป่า ยิ่งถ้าขึ้นเหนือและล่องใต้ไปให้สุดก็จะยิ่งพบกับความงามล้ำค่าที่คนรักป่าย่อมหลงใหล

เขตอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพน้ำหา – ลาวเหนือ

พื้นที่ธรรมชาติขนาด 2,226 ตารางกิโลเมตรทางตอนเหนือของประเทศลาวเป็นพรมแดนคั่นระหว่างจีนและพม่า เป็นแหล่งอาศัยของกลุ่มชาติพันธุ์มากกว่า 20 กลุ่ม เนื่องจากเป็นป่าสงวนที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศ พื้นที่คุ้มครองแห่งชาติน้ำหาจึงเป็นแหล่งกิจกรรมผจญภัยกลางแจ้งสารพัดรูปแบบ โดยเฉพาะสำหรับนักดูนกและคนรักสัตว์ป่า เขตอนุรักษ์แห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่มีเส้นทางเดินป่ามากมาย มีเส้นทางสำหรับนั่งเรือหางยาว แม้กระทั่งลานสเก็ตบอร์ด เมืองใหญ่ที่อยู่ใกล้เขตอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพแห่งชาติน้ำหามากที่สุดคือหลวงพระบางซึ่งใช้เวลานั่งรถบัส 8 ชั่วโมง (แต่คุ้มค่ากับความพยายาม)

เขตอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพภูเขาควาย – ลาวกลาง (เวียงจันทน์)

เขตอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพภูเขาควาย คือความงามซ่อนเร้นซึ่งอยู่ห่างจาก เวียงจันทน์ ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือเพียง 2 ชั่วโมงครึ่ง พื้นที่ราว 2,000 ตารางกิโลเมตรแห่งนี้คือธรรมชาติบริสุทธิ์แบบดั้งเดิมที่รอให้นักเดินป่าเข้ามาสำรวจ นักท่องเที่ยวสามารถเดินป่า พายเรือคายักไปตามแม่น้ำและตั้งแคมป์ใกล้หมู่บ้านชาวลาวที่อยู่ทั้งภายในและรอบๆ อุทยาน

ป่าสงวนแห่งชาติดงนาตาด

นอกจากเขตป่าสงวนแห่งชาติดงนาตาดซึ่งเป็นป่าดิบชื้นเขตภูเขาที่กั้นชายแดนติดกับประเทศไทย นักท่องเที่ยวจะยังได้พบกับธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกมากมาย ป่าคุ้มครองแห่งนี้เหมาะสำหรับการเดินป่าระยะสั้นและการปั่นจักรยานท่องเที่ยว แถมยังอยู่ใกล้กับพระธาตุอิงฮังชื่อดัง ซึ่งเป็นเจดีย์สมัยศตวรรษที่ 16 และเชื่อกันว่ามีพระบรมสารีริกธาตุส่วนกระดูกสันหลังประดิษฐานอยู่ นักเดินป่าที่มาท่องเที่ยวป่าสงวนแห่งชาติดงนาตาดจะอยู่ใกล้กับแขวงสะหวันนะเขต ซึ่งเป็นเมืองคึกคักริมฝั่งแม่น้ำโขงอันเป็นที่ตั้งของสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2

ข้อควรรู้เรื่องวัฒนธรรมและความปลอดภัยในการเดินป่าประเทศลาว

• แนะนำให้นักเดินป่าทุกคนจ้างไกด์นำทางสำหรับการเดินทางไกล
• สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางคนเดียวนั้น ลาวถือเป็นประเทศที่ปลอดภัยและผู้คนเป็นมิตร
• นักเดินป่าทุกคนควรศึกษาทำความเข้าใจสภาพอากาศของประเทศลาวและเตรียมอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับสภาพอากาศขณะเดินป่า สวมเสื้อแขนยาว โดยเฉพาะในตอนเช้า เพื่อป้องกันยุงและป้องกันผิวไหม้แดด พกครีมกันแดดและน้ำให้เพียงพอ สวมเสื้อผ้าที่เหมาะสม เช่น รองเท้าเดินป่าพร้อมถุงเท้าและกางเกงขายาวเมื่อเข้าเส้นทางเดินป่า
• เก็บหนังสือเดินทางไว้ในกระเป๋าที่มีการป้องกันอย่างดีหรือกระเป๋ากันน้ำ และเก็บไว้โดยแยกจากเงินสด
• คำนึงถึงความรู้สึกของคนในพื้นที่ ขออนุญาตก่อนถ่ายรูป

บุกป่าฝ่าดง – เข้ารกเข้าพงสำรวจป่าลึกที่ประเทศลาว

ถ้าแพลนทริปเที่ยวป่าในลาวให้ดีๆ นักสำรวจป่าแนวจริงจังจะได้เจอสิ่งตื่นเต้นเร้าใจมากมาย ด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ซึ่งตัดขาดจากโลกภายนอก นักท่องเที่ยวจะได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติอย่างเต็มอิ่ม และได้มองหาเสือกับสัตว์ป่าอื่นๆ ในดงไม้เขียวขจี แนะนำให้ใช้ไกด์นำทางหากต้องการเข้าป่าลึก ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและได้ทัวร์ป่าฝนฉ่ำใจ ที่เที่ยวผจญภัยในประเทศลาวต่อไปนี้มีกิจกรรมหลากหลาย ตั้งแต่โหนซิปไลน์ไปจนถึงล่องแม่น้ำ ทั้งหมดล้วนเป็นแหล่งท่องเที่ยวกลางแจ้งสุดฮิตที่คนรักการผจญภัยจะได้ทำกิจกรรมแน่นๆ ไม่สะดุด

เขตรักษาพันธุ์ธรรมชาติบ่อแก้ว แขวงบ่อแก้ว

ปลีกตัวขึ้นเหนือสุดของประเทศลาวสู่สวรรค์บนดินพื้นที่ 1,224 ตารางกิโลเมตรริมฝั่งแม่น้ำโขง แม่น้ำและเขตป่าฝนที่ได้รับการคุ้มครองแห่งนี้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและเป็นบ้านที่ปลอดภัยของชะนีดำ เสือ นก และสัตว์ป่าท้องถิ่นหลากชนิด เตรียมตัวและหัวใจไปโหนซิปไลน์เหนือผืนป่าที่กิบบอนเอ็กซ์พีเรียนซ์ (Gibbon Experience) และเดินป่าไปยังน้ำตกและแม่น้ำน้ำงาบนลานภูเขา วิธีเดินทาง เดินทางด้วยเครื่องบินไปลงเมืองห้วยทราย ซึ่งอยู่ใกล้เขตรักษาพันธุ์ธรรมชาติบ่อแก้วมากที่สุด แล้วนั่งรถไปยังทางเข้าอุทยาน หรือจะนั่งเรือสโลว์โบ๊ท (เรือช้า) จากหลวงพระบาง (ใช้เวลา 2 วัน) หรือปากแบ่ง (ใช้เวลา 1 วัน) ก็ได้

พื้นที่คุ้มครองแห่งชาติเซเปียน

มุ่งหน้าลงใต้ไปเที่ยวป่าซึ่งมีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศลาว ณ เขตอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพเซเปียน พื้นที่ที่อุดมด้วยความหลากหลายทางชีวภาพขนาด 2,389 ตารางกิโลเมตร แห่งนี้เป็นแหล่งอยู่อาศัยของนกช้อนหอยยักษ์และนกกระเรียนไทย รวมถึงนกและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่น ๆ อีกมากมาย การเดินทางเริ่มต้นที่หมู่บ้านเกียดโง้ง ก่อนจะผจญภัยในป่าฝนหลายวันหลายคืนด้วยกิจกรรมเดินลุยป่าฝน เล่นกับช้าง และเดินลัดเลาะรอบเสาศักดิ์สิทธิ์ที่แหล่งโบราณคดีพูอาสา จากนั้นออกเดินทางต่อที่เส้นทางศึกษาธรรมชาติตาออง (Ta Ong Trail) เพื่อเดินป่าเปลี่ยวที่พาไปยังหมู่บ้านห่างไกล ถ้านักผจญภัยสายลุยยังไม่หนำใจจะทัวร์แคมป์ปิ้งเพิ่มด้วยก็ย่อมได้ วิธีการเดินทางไปยังพื้นที่คุ้มครองแห่งชาติเซเปียน:ขับรถจากปากเซใช้เวลา 1 ชั่วโมง 15 นาที

พื้นที่คุ้มครองแห่งชาติดวงภูเวียง

ค้นพบความหลากหลายทางชีวภาพของลาวตอนใต้-ลาวตอนกลางที่พื้นที่คุ้มครองแห่งชาติดงภูเวียง อุทยานแห่งชาติที่มีป่าไม้หนาแน่นและเคยเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh Trail) ในแขวงสะหวันนะเขต สถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศซึ่งยังไม่แพร่หลายแห่งนี้เหมาะกับการปีนเขาอย่างยิ่ง โดยยอดเขาสูงที่สุดชื่อว่า Phou Lafoun เป็น 1 ใน 39 ยอดเขาภายในอุทยาน เป็นที่อยู่อาศัยของชาวกะตัง กลุ่มชาติพันธุ์ที่มีชีวิตอยู่โดยไม่พึ่งพาเทคโนโลยีสมัยใหม่ นักเดินป่าจะได้พบปะคนในท้องถิ่นและเรียนรู้แนวทางการเพาะปลูกแบบยั่งยืนขณะเที่ยวชมท้องทุ่งอันงดงาม วิธีเดินทางไปยังพื้นที่คุ้มครองแห่งชาติดงภูเวียง: บินไปลงสนามบินสะหวันนะเขตหรือสนามบินปากเซ แล้วนั่งแท็กซี่ไปที่อุทยาน ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจากสนามบินทั้งสองแห่ง มีรถไฟและรถประจำทางจากหลวงพระบางและเวียงจันทน์ไปยังปากเซด้วยเช่นกัน

พายเรือคายักผจญภัยในแม่น้ำประเทศลาว

ด้วยสภาพอากาศที่เหมาะกับการเล่นน้ำตลอดทั้งปี และลำน้ำหลายสายก็ถือว่าสวยงามระดับโลก ลาวจึงเป็นจุดหมายปลายทางชั้นยอดสำหรับการผจญภัยพายเรือคายัก นักท่องเที่ยวอาจพายเรือไปตามจุดต่างๆ ของแม่น้ำโขง ลอยห่วงยางไปตามแม่น้ำซองที่วังเวียง หรือล่องเรือไปรอบเมืองเก่าแขวงหลวงพระบาง ต่อไปนี้เป็นข้อมูลการพายเรือคายักผจญภัยในแม่น้ำที่มีชื่อเสียงที่สุดของลาว

แม่น้ำซอง วังเวียง

พายเรือคายักเที่ยวครึ่งวันในแม่น้ำซอง หรือล่องห่วงยางผ่านถ้ำน้ำ ที่ วังเวียง นักท่องเที่ยวสามารถพายเรือคายักได้เกือบทุกวัน ทัวร์แบบมีไกด์บางเจ้าจะพานักท่องเที่ยวล่องทวนแม่น้ำ แวะถ้ำ 2 แห่งและฟาร์มเกษตรอินทรีย์ ส่วนบางเจ้าปิดท้ายด้วยการพาไปว่ายน้ำในลากูนสีฟ้าใส ไกด์ที่มีประสบการณ์จะรู้จักเส้นทางที่ดีที่สุดและพาลูกทัวร์เดินทางอย่างปลอดภัย นักท่องเที่ยวอาจสอบถามเจ้าของที่พักเพื่อหาข้อมูลอ้างอิงก่อน เพราะมีไกด์นำเที่ยวที่มีชื่อเสียงในวังเวียงหลายราย

แม่น้ำโขง จุดแวะเที่ยวมากมาย

เนื่องจากแม่น้ำโขงทอดยาวผ่านพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศลาว นักท่องเที่ยวจึงหาไกด์นำทางพาไปผจญภัยพายเรือคายักได้อย่างง่ายดายจากทุกๆ เมือง ที่หลวงพระบาง นักท่องเที่ยวสามารถพายเรือรอบเมืองเก่า ผ่านชนบทซึ่งยังคงความเป็นธรรมชาติ ส่วนที่วังเวียง ทัวร์พายเรือคายักจะล่องผ่านน้ำตกแล้วต่อด้วยแก่งน้ำเชี่ยวก่อนจะเทียบท่าที่สันทรายเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน แนะนำให้แพลนเที่ยว 3 วันจากปากเซ ล่องแม่น้ำโขงเพื่อเดินทางไปเกาะดอนแดง ที่นี่มีจุดชมโลมาด้วย

เคล็ดลับความปลอดภัยสำหรับการพายเรือคายักในประเทศลาว

• จ้างไกด์สำหรับทริปพายเรือคายักระยะไกลในเส้นทางแม่น้ำสายใหญ่ เช่น แม่น้ำโขงและแม่น้ำซอง
• ลาวเป็นประเทศที่ถือว่าปลอดภัยและเป็นมิตร ไกด์นำเที่ยวมักเชื่อถือได้และยึดหลักปฏิบัติที่ปลอดภัย อาจขอให้พนักงานโรงแรมแนะนำไกด์พาเที่ยวให้ และฟังคำแนะนำจากคนท้องถิ่นเพื่อเลือกไกด์นำเที่ยวพายเรือคายักดีๆ
• ระวังสภาพอากาศของประเทศลาว พยายามหลีกเลี่ยงฤดูฝน (เมษายน-สิงหาคม) ซึ่งเป็นช่วงมรสุมและทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสูงขึ้นและไหลเชี่ยว
• สวมเสื้อแขนยาวเพื่อป้องกันผิวไหม้แดด
• พกครีมกันแดดและน้ำให้เพียงพอ
• เก็บเงินสดและหนังสือเดินทางแยกกัน เก็บหนังสือเดินทางไว้ในกระเป๋ากันน้ำ

ปั่นจักรยานเสือภูเขา – ที่เที่ยวแหวกแนวไม่ซ้ำใครสำหรับคอกีฬาเอ็กซ์ตรีม

ไม่ว่าจะเป็นนักปั่นสายชิลล์ชมวิวธรรมชาติหรือนักบิดแนวผจญภัยชอบสะบัดฝุ่นบนรถเอทีวี ลาวก็มีตัวเลือกการผจญภัยสนุกๆ ให้ได้มันเต็มที่แน่นอน นักท่องเที่ยวที่อยากทัวร์ปั่นจักรยานเสือภูเขาสามารถเลือกโปรแกรมทัวร์สบายๆ 1 วันซึ่งไฮไลท์เป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิต หรือจะเลือกทัวร์สมบุกสมบัน 9 วันที่จะพาตะลุยหุบเขาไกลโพ้นหรือเลาะเลียบแม่น้ำห่างไกล หรืออาจจะลองทัวร์จักรยานไฟฟ้าและจักรยานวิบากก็มีให้เลือกเช่นกัน ต่อไปนี้คือตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ สำหรับการปั่นจักรยานเสือภูเขาในประเทศลาว

ชนบทของหลวงพระบาง

สัมผัสความงดงามแบบชนบทลาวด้วยการนั่งรถระยะทาง 48 กิโลเมตรรอบหลวงพระบาง เมืองหลวงเก่าที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เส้นทางปั่นจักรยานเสือภูเขายอดนิยมจะพานักปั่นข้ามแม่น้ำ 4 สาย มุ่งหน้าไปตามถนนดินลูกรังและทางลาดยางของชนบทไปยังหมู่บ้านม้งและหมู่บ้านขมุที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง นักปั่นจะต้องบรรทุกจักรยานลงเรือเพื่อข้ามฟากแม่น้ำ ทั้งหมดนี้สามารถปั่นจักรยานไปตามเส้นทางได้เองหรือจะจ้างไกด์ท้องถิ่นเพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัยแน่นอนก็ได้

เส้นทางเวียงจันทน์

ในเวียงจันทน์ เส้นทางเดินป่าและปั่นจักรยานมีเยอะจนแทบเลือกไม่ถูก ไกด์นำเที่ยวท้องถิ่นอาจช่วยนักท่องเที่ยวหาเส้นทางที่เหมาะสมที่สุดกับทักษะและแนวการผจญภัยที่โดนใจ เส้นทางยอดฮิตในเวียงจันทน์ ได้แก่ Hammer and Cycle (4.8 กม.) Sacred Trail (5.8 กม.) Saint George (3.2 กม.) Belly of the Buddha (1.6 กม.) และ Buddha’s Footprint (3.2 กม.)

เส้นทางวังเวียง

ระหว่างเที่ยววังเวียง อาจแพลนเส้นทางผจญภัยปั่นจักรยานเสือภูเขาครึ่งวัน เต็มวัน หรือหลายวันเพื่อเพิ่มสีสันวันหยุดสักหน่อย หนึ่งในเส้นทางยอดนิยมมีระยะทาง 14 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ชนบทซึ่งเป็นสถานที่เที่ยวสวยงามขวัญใจเหล่าแบกแพกเกอร์ในลาวกลาง เส้นทางรอบเมืองใช้เวลาปั่น 3-4 ชั่วโมง และถือว่าท้าทายพอหอมปากหอมคอ หากต้องการเส้นทางโหดๆ หรือลุยกว่านี้ ให้สอบถามไกด์ท้องถิ่น

ข้อแนะนำสำหรับนักปั่นมือใหม่และมือเก๋า

• • สวมหมวกกันน็อกและถุงมือเวลาขี่มอเตอร์ไซค์ ควรเลือกใช้หมวกกันน็อกแบบเต็มใบหน้า
  • สวมเสื้อผ้าเนื้อตาข่ายเพื่อช่วยการระบายอากาศ
  • ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 3 ลิตร
  • เดินทางเป็นกลุ่มและล็อกมอเตอร์ไซค์เมื่อไม่ใช้งาน
  • พกของใส่กระเป๋าให้น้อย นำไปเฉพาะสิ่งจำเป็น
  • ศึกษาสภาพอากาศ รู้ข้อจำกัดของตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนบ่ายเมื่ออุณหภูมิและความชื้นในประเทศลาวสูงที่สุด
  • เผื่อเวลาสำหรับเหตุล่าช้าที่คาดไม่ถึง

การปีนหน้าผาและการเที่ยวถ้ำ: ความสุขของคนรักความตื่นเต้น

การปีนหน้าผาเป็นกีฬาเอ็กซ์ตรีมชนิดใหม่ในประเทศลาว คนรักการผจญภัยที่อยากท่องเที่ยวปีนหน้าผาสามารถหาหน้าผาใหม่ๆ ที่ยังไม่มีใครเข้าถึงได้มากมาย ภูมิประเทศที่เป็นภูเขาและป่าไม้ครอบคลุมพื้นที่เกือบ 70 เปอร์เซ็นต์ของประเทศลาว จึงยังมีสถานที่สำหรับปีนหน้าผาและสำรวจถ้ำอีกหลายแห่งที่ยังไม่มีคนค้นพบ นักผจญภัยสามารถออกเดินทางจากเมืองใหญ่เมืองใดก็ได้ เช่น หลวงพระบาง วังเวียง ปากเซ หรือเวียงจันทน์เพื่อใช้เวลาหลายวันไปกับการปีนป่ายบนหน้าผาในป่าหรือเดินลึกลงถ้ำใต้ดินชื่อดังของประเทศลาว ข้อแนะนำด้านความปลอดภัยสำหรับการปีนหน้าผาในประเทศลาว: ทัวร์ส่วนใหญ่จะจัดเตรียมอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยสำหรับการปีนหน้าผาเอาไว้ให้ครบครัน นักปีนหน้าผาที่มาคนเดียวควรนำชอล์กกันลื่นไปให้มาก และควรปีนในเงาร่มหากเป็นไปได้ นักปีนหน้าผาที่ปีนในช่วงเช้าตรู่และช่วงค่ำควรสวมเสื้อกันหนาวเพื่อให้ร่างกายอบอุ่นจนกว่าพระอาทิตย์จะขึ้น

วังเวียงและท่าแขก (ปีนหน้าผา)

ถึงแม้ลาวจะมีที่ให้ปีนหน้าผานับไม่ถ้วน แต่สถานที่ยอดฮิตล้วนอยู่ในวังเวียงและท่าแขก ในหลายๆ จุดรอบวังเวียงและท่าแขก นักปีนหน้าผาสามารถพิชิตยอดผาหินและหน้าผาบนภูเขาได้ ทั้งสองพื้นที่อยู่ค่อนข้างไกลกัน ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้ใช้เวลา 1 วันต่อ 1 ที่ก่อนจะทดสอบทักษะของตัวเองในสถานที่ต่อไป เหล่านักผจญภัยแนะนำให้ลองปีนผาตั้งในวังเวียง ซึ่งได้บรรยากาศเงียบสงบแต่ท้าทาย ส่วนเมืองท่าแขกตั้งอยู่บนเชิงเขาของเขตอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพแห่งชาติภูหินปูน ซึ่งเป็นป่าฝนที่ต้นไม้แผ่กิ่งก้านสาขาและเต็มไปด้วยหินธรรมชาติ

ถ้ำกองลอ แขวงคำม่วน (เที่ยวสำรวจถ้ำ)

หากใครคิดจะไปปีนหน้าผาที่เขตอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพแห่งชาติภูหินปูน ลองควบทริปผจญภัยถ้ำกองลอไปด้วยเพื่อความคุ้ม อุโมงค์หินปูนยาว 7.5 กิโลเมตรนี้เป็นถ้ำลอดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและต้องวางแผนเดินทางล่วงหน้าถึงจะเข้าไปได้ นักท่องเที่ยวต้องพักค้างคืนในหมู่บ้านกองลอก่อน จึงค่อยจ้างมอเตอร์ไซค์พาไปที่ปากถ้ำในตอนเช้า

ล่องแก่งและผจญภัยโหนซิปไลน์ในประเทศลาว

ลาวเป็นพรมแดนสุดท้ายของคาบสมุทรอินโดจีน จึงมีกิจกรรมล่องแก่งและซิปไลน์มากมาย นักท่องเที่ยวที่ชอบโหนซิปไลน์ผ่านป่าและล่องแก่งไปยังหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลบนภูเขาจะต้องหลงรักที่เที่ยวเอาท์ดอร์ของประเทศลาวอย่างแน่นอน แม่น้ำงึมเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับการล่องแก่งและโหนซิปไลน์ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถหากิจกรรมกลางแจ้งสนุกๆ ไม่ซ้ำใครได้อีกมากมายในแขวงบ่อแก้ว ต่อไปนี้คือรายละเอียดของสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่มีกีฬาผจญภัยสุดมัน

แม่น้ำงึม ใกล้เวียงจันทน์ (ล่องแพ)

เวียงจันทน์เป็นจุดที่ดีที่สุดในการกระโดดลงแม่น้ำงึม ซึ่งเล่นน้ำได้สนุก มีแสงแดดอบอุ่น พร้อมกับน้ำเชี่ยวให้ท้าทาย แม้ว่าแม่น้ำจะเป็นช่วงสั้นๆ การผจญภัยนั้นไม่สั้นเลย ใครที่มาพายเรือคายักจะต้องผ่านแก่งที่มีความยากระดับ 2 ถึง 3 และช่องเขาลึกไปตามแม่น้ำงึมอันกว้างใหญ่ที่ไหลไปทางเหนือของเมือง นักท่องเที่ยวจะได้ล่องผ่านแปลงนาและพื้นที่เกษตรกรรมที่มีธรรมชาติสวยงาม มองเห็นชุมชนชาวเขาและทิวทัศน์ที่ยังคงเป็นธรรมชาติบริสุทธิ์ผุดผ่อง ทัวร์บางโปรแกรมอาจแวะเล่นน้ำตามชายหาดอันเงียบสงบด้วย

กิบบอนเอกซ์พีเรียนซ์ แขวงบ่อแก้ว (โหนซิปไลน์)

ห้อยโหนโจนทะยานด้วยความเร็วเกือบ 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขณะบินฉิวเหนือผืนป่าธรรมชาติที่กิบบอนเอกซ์พีเรียนซ์ในแขวงบ่อแก้ว กิจกรรมผจญภัยโหนซิปไลน์นี้อยู่ในเขตรักษาพันธุ์ธรรมชาติบ่อแก้วซึ่งมีบ้านต้นไม้และน้ำตกหลายแห่งให้เที่ยวเล่นเพลินๆ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกแพ็กเกจและรูปแบบการโหนซิปไลน์ได้มากมาย กิบบอนเอกซ์พีเรียนซ์เปิดให้บริการทุกวันและมีอุปกรณ์ป้องกันอันตรายครบชุดสำหรับผู้เล่นซิปไลน์

เที่ยวผจญภัยในลาว – วางแผนการท่องเที่ยวอย่างราบรื่น

ช่วงเวลาที่เหมาะกับกิจกรรมผจญภัยในลาวมากที่สุดคือช่วงฤดูแล้ง ตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมถึงเมษายน นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสอากาศเย็นที่สุดในเดือนธันวาคมและมกราคม ส่วนนักปีนเขาที่มาเที่ยวภูเขาในช่วงเวลานี้ควรพกเสื้อกันหนาวมาด้วย โดยทั่วไปแล้วฤดูฝนจะเริ่มประมาณเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่สภาพอากาศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ร้อนอบอ้าว แต่นักท่องเที่ยวก็ไม่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการเที่ยวลาวในช่วงเวลานี้ ใครมีงบจำกัดจะหาที่พักและทัวร์ราคาถูกได้ในช่วงเดือนที่อากาศร้อน แถมแม่น้ำก็ยังมีน้ำ ช่วยผ่อนคลายจากความร้อนชื้นของสภาพอากาศได้อย่างดี การเดินทางท่องเที่ยวประเทศลาวนั้นง่ายแสนง่าย ขอแค่วางแผนล่วงหน้านิดหน่อยเท่านั้น นักท่องเที่ยวในเวียงจันทน์สามารถใช้บริการรถแท็กซี่และรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ส่วนในหลวงพระบาง วังเวียง และปากเซ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เรียกรถตุ๊กตุ๊กและมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ที่พักในลาวก็มีมากมายโดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวอย่าง เวียงจันทน์ หลวงพระบาง และปากเซ เช็ค Agoda เพื่อค้นหาโรงแรมและที่พักราคาประหยัดในสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตของประเทศลาว